สาวเมืองเพชรบูรณ์ เพาะเลี้ยงด้วงสาคู อาชีพเสริมทำเงินได้ดีช่วงโควิด-19

ด้วงสาคู หรือ ด้วงลาน มีชื่อวิทยาศาสตร์ Rhynchophorus ferrugineus Oliver เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งจำพวกแมลงที่มีชื่อเรียกว่า ด้วงงวง ด้วงไฟ ด้วงมะพร้าว ทางภาคใต้เรียกว่า ด้วงสาคู หรือด้วงลาน โดยลักษณะตัวที่โตเต็มวัยจะมีขนาดตัวยาวอยู่ที่ประมาณ 2.2-3.5 เซนติเมตร มีสีน้ำตาลอมส้มหรือสีน้ำตาลปนดำ ลักษณะของปากยาวบอบบาง มีงวงโค้ง มีจุดแต้มสีน้ำตาลแต้มกระจายบริเวณด้านบนของอกปล้องแรก ซึ่งจุดแต้มนี้มีหลายรูปแบบ ปีกคู่หน้ามีริ้วรอยเป็นเส้นๆ ตามความยาวของปีก

คุณเยาวเรศ เชื้อทอง หรือ คุณผึ้ง

ปัจจุบันด้วงสาคูกำลังได้รับความนิยมนำมาบริโภคโดยเป็นระยะตัวอ่อนหรือตัวหนอน ซึ่งสามารถประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู พร้อมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งงานสร้างรายได้ให้กับใครหลายๆ คนที่กำลังมองหาอาชีพเสริม เหมือนเช่น คุณเยาวเรศ เชื้อทอง หรือ คุณผึ้ง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ที่ 1 ตำบลซับเปิบ อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้นำด้วงสาคูมาเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมให้กับเธอได้ดีไม่น้อยทีเดียว โดยเธอได้มีการพัฒนาการเลี้ยงอย่างเป็นระบบจนสามารถทำการเลี้ยงได้แบบเต็มรูปแบบที่นอกจากจำหน่ายลูกอ่อนด้วงสาคูแล้ว เธอยังพัฒนาการเลี้ยงจนสามารถสร้างเป็นพ่อแม่พันธุ์จำหน่ายให้กับลูกค้ารายอื่นที่สนใจอีกด้วย

คัดเตรียมส่งลูกค้า

คุณผึ้ง เล่าให้ฟังว่า อาชีพหลักที่ทำอยู่ค้าขายขนมเค้กทั่วไป ต่อมาได้มาโอกาสเห็นเพื่อนที่สนิทเลี้ยงด้วงสาคูจำหน่ายสร้างรายได้ ช่วงนั้นเธอยังไม่ได้ให้ความสนใจมากนักเพราะรู้สึกกลัวและยังไม่กล้าสัมผัส แต่เมื่อกระแสความนิยมของการบริโภคด้วงสาคูกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เธอจึงต้องการที่จะสร้างรายได้จึงได้เรียนรู้การเลี้ยงจากเพื่อนอย่างจริงจังจนประสบผลสำเร็จ

เตรียมนำส่งลูกค้า

“ยุคนี้อย่างที่เรารู้กันดีว่า เป็นยุคที่เราต้องมีอาชีพเสริมสำรองไว้ พอเราเห็นโอกาสว่าน่าจะเลี้ยง จึงได้ไปศึกษาการเลี้ยงจากเพื่อนอย่างจริงจัง พร้อมทั้งศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทางออนไลน์ ก็ประสบผลสำเร็จ สามารถเลี้ยงได้ดี ทีนี้เราก็มาขยับขยายการเลี้ยงที่บ้าน ก็มีลูกค้าเข้ามาติดต่อขอซื้ออยู่เรื่อยๆ ทำให้เรามั่นใจว่าน่าจะขายได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เลี้ยงมาเรื่อยๆ และพัฒนาสร้างเป็นพ่อแม่พันธุ์จำหน่ายเองด้วย” คุณผึ้ง บอก

การแยกตัวอ่อนออกจากอาหารที่เลี้ยง

ในขั้นตอนของการเลี้ยงด้วงสาคูนั้น คุณผึ้ง อธิบายให้ฟังว่า อาหารสำหรับเลี้ยงมีด้วยกันอยู่ 2 ชนิด 1. อาหารที่ได้จากต้นสาคูโดยตรง และ 2. เลี้ยงด้วยอาหารที่เป็นมันสำปะหลังตากแห้งพร้อมกับแช่น้ำทิ้งไว้ 2 คืน ส่วนประกอบอื่นๆ ที่ใช้เลี้ยงก็จะมีกาบมะพร้าวสับและไม่สับ กากน้ำตาล รำอ่อน

จากนั้นเตรียมพ่อแม่พันธุ์ที่มีอายุ 3 เดือนขึ้นไปมาใส่ลงในกะละมังที่เตรียมไว้ อัตราส่วนพ่อพันธุ์ 5 ตัวต่อแม่พันธุ์ 5 ตัว จากนั้นใส่อาหารและส่วนประกอบอื่นๆ ตามลงไปในกะละมังด้วยเช่นกัน ประกอบด้วยกาบมะพร้าว หัวอาหารหมู มันสำปะหลัง และน้ำเปล่า 1 ขัน ในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 จากนั้นปิดด้านบนให้สนิทปล่อยทิ้งไว้ 15 วัน จะเปิดกะละมังออกมาดูเมื่อเห็นพ่อแม่พันธุ์ผสมจนเกิดเป็นตัวหนอนลูกด้วงออกมาแล้ว ก็จะย้ายพ่อแม่พันธุ์ไปผสมในกะละมังอื่นๆ ต่อไป โดยพ่อแม่พันธุ์ 1 คู่ สามารถให้ตัวอ่อนได้ประมาณ 3-4 รุ่นทุก 15 วัน

นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู

“หลังจากที่ตัวอ่อนออกมาแล้ว ช่วงนี้เราก็จะดูแลตัวอ่อนให้โตขึ้น โดยจะเลี้ยงด้วยผลไม้ที่เราหาได้ในพื้นที่ ใส่อาหารลงไปในกะละมังเพื่อให้ตัวอ่อนเติบโตเต็มที่ โดยอายุของตัวหนอนด้วงสาคู เราจะเลี้ยงให้มีอายุประมาณ 45 วัน เป็นไซซ์ตัวหนอนที่โตเต็มที่เราก็สามารถคัดแยกออกจากกะละมัง แล้วนำส่งขายได้ทันที ส่วนแมลงศัตรูที่ต้องระวังของตัวด้วงอ่อนก็จะเป็นพวงแมลงวันลาย เราต้องป้องกันให้ดีอย่าให้เข้าไปในกะละมังได้” คุณผึ้ง บอก

นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู

สำหรับในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายตัวหนอนด้วงสาคูนั้น คุณผึ้ง บอกว่า เมื่อลูกค้าในพื้นที่รู้ว่าเธอมีการเลี้ยงจำหน่าย ก็จะมีลูกค้าภายในพื้นที่เข้ามาติดต่อขอซื้อถึงภายในบ้าน เพื่อนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นด้วงทอด แกงด้วงสาคูใส่หน่อไม้ และอื่นๆ อีกมากมายแล้วแต่ผู้บริโภคจะรังสรรค์เมนู และอีกส่วนหนึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาติดต่อขอซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อในพื้นที่อื่นๆ

พื้นที่เลี้ยง

โดยราคาด้วงสาคูที่เป็นตัวอ่อนสำหรับนำไปประกอบอาหารเพื่อกิน จำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-250 บาท เมื่อการเลี้ยงของเธอมีการพัฒนาขึ้น จึงได้มีการเพาะพ่อแม่พันธุ์เองโดยที่ไม่ต้องไปซื้อจากฟาร์มอื่นเข้ามาเลี้ยง เธอจึงทำเป็นชุดพ่อแม่พันธุ์ทดลองเลี้ยงให้กับผู้ที่สนใจอยากจะทดลองเลี้ยงสร้างเป็นอาชีพ จำหน่ายอยู่ที่ชุดละ 300 บาท ใน 1 ชุด จะประกอบด้วยพ่อแม่พันธุ์และอาหารเลี้ยงที่เตรียมไว้ให้ เมื่อลูกค้าซื้อไปสามารถทดลองเลี้ยและเก็บตัวอ่อนได้ทันที

พ่อแม่พันธุ์ที่ส่งจำหน่าย

“ตอนนี้ก็ถือว่าการเลี้ยงหนอนด้วงสาคูเป็นอาชีพเสริมที่ค่อนข้างสร้างรายได้ดีทีเดียว อย่าง 1 อาทิตย์เราก็จะจับขายได้ทันที มีรายได้ทั้งอาทิตย์ ถือว่าตลาดค่อนข้างเป็นที่นิยม สำคัญใครที่สนใจอยากจะเลี้ยงก็ลองเลี้ยงดูได้ การเลี้ยงไม่มีอะไรที่ยุ่งยาก เพียงแต่เราต้องมีอาหารที่เพียงพอให้ตัวด้วงกิน มีการจัดการที่ดี การเลี้ยงด้วงสาคูก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ดี” คุณผึ้ง บอก

สำหรับท่านใดสนใจในเรื่องของการเลี้ยงด้วงสาคู สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณเยาวเรศ เชื้อทอง หรือ คุณผึ้ง หมายเลขโทรศัพท์ 080-128-4789