สมุนไพรรักษาพยาธิใบไม้ตับ

“อย่ากินของสุกๆ ดิบๆ เดี๋ยวจะเจอพยาธิ” หลายท่านคงเคยได้ฟังคำเตือนเหล่านี้มาตั้งแต่จำความได้ ทั้งจากผู้ใหญ่ คุณครูในวิชาสุขศึกษา หน่วยงานสาธารณสุขต่างๆ แต่พยาธิก็ยังคงเป็นปัญหาสุขภาพของประชาชนจนถึงทุกวันนี้ อาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตหรือความเชื่อต่างๆ

สำหรับคอลัมน์นี้ จะขอกล่าวเฉพาะเจาะจงแต่พยาธิใบไม้ตับอย่างเดียว เพราะเป็นพยาธิที่ก่อให้เกิดโรคที่มีความร้ายแรงแก่คนไข้ และเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทยมากที่สุดคือ เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดมะเร็งท่อน้ำดีในคนไทย

พยาธิใบไม้ตับจะพบได้มากในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ พยาธิจะมูปร่างแบนคล้ายใบไม้ ตัวอ่อนอาศัยอยู่ในปลาน้ำจืดที่มีเกล็ด ซึ่งหากโตเต็มวัยและอยู่ในร่างกายมนุษย์แล้ว จะอาศัยอยู่ที่ท่อน้ำดี โดยที่ปัญหาพลังจากพยาธิเกาะในท่อน้ำดีแล้ว ก็จะทำให้ผนังท่อน้ำดีเกิดพังผืด หนาขึ้นเรื่อยๆ และเกิดการอักเสบซ้ำๆ สุดท้ายก็อาจมีโรคแทรกซ้อนขึ้นมาคือ มะเร็งของท่อน้ำดี

โดยคนไข้ก็มักจะมารักษากันเมื่อเกิดความผิดปกติมากๆ เช่น อาการตัวเหลือง ตาเหลือง อาจจะมีท้องบวม เบื่ออาหาร ซึ่งการรักษาคือการกินยาฆ่าพยาธิคือยา Praziquantel เป็นยาที่ได้ผลดีมากในระยะแรกๆ ที่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นมากๆ แล้ว ก็จะรักษาแบบประคับประคองตามอาการไป

สมุนไพรที่มีสรรพคุณในการรักษาพยาธิใบไม้ตับมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำซังข้าวโพด ดอกอัญชันแห้ง และขมิ้นชันแห้ง มาสกัดและทำเป็นผง (อัตราส่วน 7 : 2 : 1) โดยนำมาศึกษาฤทธิ์ต่างๆ ในสัตว์ทดลองที่เป็นพยาธิใบไม้ตับ

ในการศึกษานี้จะใช้ซังข้าวโพดข้าวเหนียว ซึ่งหาได้ง่ายในแถบภาคอีสาน และมีสาร Anthocyanin หลายชนิด รวมทั้งมีสาร Anti-oxidant เยอะกว่าพืชชนิดเดียวกัน ส่วนดอกอัญชันก็เป็นดอกไม้ที่มี Anthocyanin สูงเช่นเดียวกัน ในส่วนของขมิ้นชันก็เป็นสมุนไพรสารพัดประโยชน์อยู่แล้ว มีฤทธิ์ต่างๆ มากมาย เช่น ต้านมะเร็ง ต้านการอักเสบ ฤทธิ์ฆ่าเชื้อ เป็นต้น

ผลการศึกษาพบว่า ตำรับนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้น และสาร Anthocyanin มีความคงตัวมากกว่าสมุนไพรเดี่ยวๆ นอกจากนี้ จากผลการศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบในท่อน้ำดี ก็พบว่าตำรับมีฤทธิ์ลดการอักเสบได้และสามารถลดพังผืดในท่อน้ำดีได้ รวมทั้งลด Oxidative stress ซึ่งทำให้การทำลาย Cell หรือ DNA ลดลง ส่งผลดีต่อโรค สุดท้ายก็คือสามารถลดการทำลายตับจากพยาธิใบไม้ตับ

ก็เป็นอีกตำรับหนึ่งที่มีศักยภาพสูงและมีความเป็นไปได้ที่จะสามารถนำมาใช้จริงในมนุษย์ สุดท้ายอยากฝากว่าการป้องกันอันตรายที่ดีที่สุดจากพยาธิใบไม้ตับคือ การไม่รับประทานอาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ ตรวจอุจจาระอย่างสม่ำเสมอ เพื่อรักษาโรคตั้งแต่ยังไม่มีอาการ