ฤดูฝนระวังหนูระบาดทำลายพืชและแพร่โรคฉี่หนู

หนู เป็นศัตรูพืชที่สำคัญ ทำลายผลผลิตพืชในทุกฤดูกาล แพร่ขยายพันธุ์รวดเร็วมาก เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แพร่โรคฉี่หนู ทำให้คนเจ็บป่วยถึงตายได้ เกษตรอำเภอน้ำปาด แนะนำการป้องกันกำจัดหนู และเตือนระวังการติดเชื้อโรคฉี่หนู

“นายอดุลย์ศักดิ์ ไชยราช” เกษตรอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ แนะนำว่า หนูเป็นศัตรูพืชที่สำคัญ มีมากมายหลายประเภท ได้แก่ หนูพุกใหญ่ หนูพุกเล็ก หนูนาเล็ก หนูนาใหญ่ หนูหริ่งหางสั้น หนูหริ่งหางยาว หนูท้องขาว หนูป่ามาเลย์ หนูบ้านมาเลย์ หนูฟันขาวใหญ่ หนูฟานเหลือง หนูท้องขาวสิงค์โปร หนูจี๊ด ซึ่งมักจะระบาดทำลายใน นาข้าว ไร่ถั่ว ไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย ไร่มันสำปะหลัง สวนปาล์มน้ำมัน สวนมะพร้าว ในไร่นา ยุ้งฉาง รถบรรทุกผลผลิต คอกปศุสัตว์ บ้านเรือนฯลฯ

แนะนำให้ทำการป้องกันกำจัดหนูอย่างต่อเนื่อง และกว้างขวาง หนูนอกจากจะเป็นศัตรูพืชที่สำคัญแล้ว ยังเป็นพาหะแพร่เชื้อ “โรคฉี่หนู” หรือ “โรคเลปโตสไปโรซีส (leptospirosis หรือ Wail’s disease) เป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณะสุข ที่พบเจออยู่ประจำทุกปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อัตราการแพร่เชื้อจะมีมากในช่วงฤดูฝน ในสภาพที่มีน้ำท่วมขังนานๆ เช่นแปลงนาข้าว หรือสภาวะน้ำท่วมภัยธรรมชาติ น้ำท่วมขังที่ล้นมาจากท่อระบายน้ำ หรือแหล่งขยะ โสโครกต่างๆ เชื้อโรคที่ปนมากับปัสสาวะหนู เมื่อสัมผัสถูกตัวคน จะเข้าทางแผลเล็กๆ ที่ผิวหนัง รอยขีดข่วน ซอกเล็บ เยื้อบุตา ปาก จมูก และไชเข้าทางผิวหนังที่เปียกชื้นชุ่มน้ำนานๆ คนที่ติดเชื้อทางอ้อม ขณะย่ำดินโคลน ฯลฯ โรคฉี่หนู มีสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังหลายชนิด ที่เป็นพาหะนำเชื้อโรคแพร่กระจายมาสู่คน ได้ทางปัสสาวะ สัตว์กินพืชจะเป็นพาหะได้เป็นเวลานาน เพราะปัสสาวะเป็นด่าง เหมาะแก่การเจริญเติบโตของเชื้อในไต สัตว์ต่างๆโดยเฉพาะหนูแล้ว ที่สามารถเป็นพาหะแพร่เชื้อโรคได้ ได้แก่ สุกร โค กระบือ สำหรับสุนัข แมว จะเป็นพาหะได้ไม่นาน เพราะไตมีสภาวะเป็นกรด

สัตว์จำพวกหนู เป็นสัตว์ที่ติดเชื้อ โดยไม่แสดงอาการ เป็นรังของโรคได้นานหลายเดือน หรือตลอดชีวิต โดยเฉพาะหนูพุก จะเป็นประเภทที่เป็นพาหะเชื้อโรคนี้มากที่สุด ถึงร้อยละ 30 ของชนิดหนูทั้งหมด ส่วนหนูบ้านไมพบการติดเชื้อ เป็นเพราะหนูบ้านไม่ชอบความชื้น และไตไม่เหมาะสมกับการเจริญของเชื้อ ในการป้องกันกำจัดหนู ขอแนะนำวิธีการโดยสังเขปดังนี้

1.ให้ปรับปรุงสภาพแวดล้อม บริเวณแปลงไร่นาสวน กำจัดวัชพืช กำจัดแหล่งที่อยู่อาศัยของหนู เช่น จอมปลวก ตอไม้ พุ่มไม้ กองเศษวัสดุเหลือใช้

2.การขุด ดัก โดยใช้กรง หรือกับดักชนิดต่างๆ การล้อมตี การยิง การที่มีหน่วยรับซื้อหางหนู

3.ให้ศัตรูธรรมชาติของหนูจัดการ เช่น งูสิง งูแมวเซา งูแสงอาทิตย์ งูเห่า งูทางมะพร้าว งูเหลือม พังพอน เหยี่ยว นกแสก นกฮูก นกเค้าแมว แมว ตุ๊กแก นำเอาไปปล่อย หรืออนุรักษ์ไว้ในไร่นาสวน แม้ว่าจะเป็นที่น่าหวาดกลัว หรือเป็นอันตรายต่อคน แต่ก็เป็นประโยชน์ในการช่วยกำจัดหนูได้ดีมาก

4.การใช้สารเคมี เป็นวิธีการลดจำนวนประชากรหนูที่มีประสิทธิภาพมาก สามารถกำจัดทำลายหนูได้รวดเร็ว แต่แนะนำให้ใช้ในเวลาจำเป็น ในพื้นที่ ที่มีหนูระบาดหนัก ใช้ก่อนลงมือปลูกพืช วางยากำจัดหนู 1 รอบ โดยใช้สารออกฤทธิ์เร็ว ประเภทซิงค์ฟอสไฟด์ หรือ ประเภทสกิลลิโรไซด์ นำเหยื่อพิษผสมกับเมล็ดพืช ปลายข้าว วางเป็นจุดๆ กลบด้วยแกลบ แต่ควรใช้ครั้งเดียว เพราะจะเกิดความเข็ดขยาด ครั้งต่อไป ใช้สารออกฤทธิ์ช้า เช่น คลีแร็ต สะตอม เส็ด บารากี้ ราคูมิน ส่วนใหญ่สารเหล่านี้จะผลิตเป็นเหยื่อพิษสำเร็จรูปชนิดก้อนขี้ผึ้ง(wax bl0ck) ใช้วางล่อให้หนูกิน หนูจะคาบเข้าไปกินในรู ในรัง แบ่งปันให้สมาชิกในรังกิน ควรวาง 2-3 ครั้ง หนูกินจะตายภายใน 3-15 วัน

มีปัญหาสงสัย ต้องการทราบรายละเอียด ปรึกษาหารือ ขอคำแนะนำ ได้ที่นักวิชาการส่งเสรมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน หรือ เกษตรอำเภอน้ำปาด โทร.081-0364848

สนใจติดต่อสำนักงานเกษตรอำเภอน้ำปาด โทรศัพท์ 055-481006.