วิศวกรหนุ่ม ปลูกมะเดื่อฝรั่งมากกว่า 60 สายพันธุ์ เน้นทำกิ่งพันธุ์ขาย ตีตลาดออนไลน์ คุ้มค่าการลงทุน

เกษตรกรรมเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ผู้คนหลากหลายอาชีพให้ความสนใจ เพราะนอกจากได้ทำสืบต่อครอบครัวแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ได้ทำกินอยู่บนที่ดินของตนเอง จึงทำให้คนรุ่นใหม่ในหลายพื้นที่ให้ความสนใจ ในเรื่องของการทำเกษตรในแบบที่ตั้งใจ และยังสร้างระบบการทำตลาดที่เข้มแข็งแบบระบบออนไลน์เข้ามาช่วย เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและส่งสินค้าได้ทั่วประเทศ 

คุณนุชา บุญมา หรือ คุณนุ
คุณนุชา บุญมา หรือ คุณนุ

คุณนุชา บุญมา หรือ คุณนุ วิศวกรหนุ่มที่สนใจในเรื่องของการทำเกษตร โดยศึกษาทดลองการปลูกมะเดื่อฝรั่ง (Fige) และนำความรู้ที่ได้เรียนมาทางด้านวิศวะ มาต่อยอดการจัดการระบบต่างๆ ของการปลูกมะเดื่อฝรั่ง ซึ่งคุณนุมองว่าไม้ผลชนิดนี้จะเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ไม่เพียงขายผลเท่านั้น ยังสามารถต่อยอดขายกิ่งพันธุ์ได้ด้วยเช่นกัน 

หลังจบการศึกษา 

กลับมาทำเกษตรเต็มตัว 

คุณนุ เล่าให้ฟังว่า หลังจบการศึกษาทางด้านวิศวะไม่ได้ไปทำงานตามสาขาที่ร่ำเรียนมา แต่กลับมาอยู่ที่บ้านเกิดและใช้ที่ดินว่างเปล่าของครอบครัวให้เกิดประโยชน์ โดยมาทดลองทำการเกษตรในแบบที่สนใจ โดยครั้งแรกปลูกเมล่อน แต่ก็มักเจอปัญหาค่อนข้างมาก ต่อมาจึงได้ปรับเปลี่ยนมาปลูกมะเดื่อฝรั่งที่มองว่าเป็นพืชที่น่าสนใจ ซึ่งหลังจากทดลองปลูกแล้วได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ และศึกษาสายพันธุ์ต่างๆ มาเรื่อยๆ จนสร้างเป็นธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน 

“พอได้ศึกษาข้อมูลเรื่อยๆ ก็ได้รู้ว่ามะเดื่อฝรั่งมีที่มาที่ไปน่าสนใจมากครับ และได้เจอกับกลุ่มคนปลูกเหมือนกัน จากช่องทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ก็ได้รับรู้ว่ามะเดื่อฝรั่ง มันมีหลายสายพันธุ์ ก็เลยทดลองสั่งสายพันธุ์แปลกๆ มาปลูกเองที่บ้าน ซึ่งสมัยก่อนโดยทั่วไป จะรู้จักแต่มะเดื่อฝรั่งที่เป็นสายพันธุ์ BTM 6 ที่เห็นเป็นส่วนมาก พอได้เห็นสายพันธุ์แปลกๆ ก็ปลูกสะสมสายพันธุ์อยู่เรื่อยๆ ตอนนี้ผมมีมากกว่า 60 สายพันธุ์ครับ” 

ปลูกมะเดื่อฝรั่งบนพื้นที่ 2 งาน

ปลูกได้มากกว่า 300 ต้น 

การปลูกมะเดื่อฝรั่งให้ได้คุณภาพนั้น คุณนุ บอกว่า การปลูกไม่มีแบบแผนตายตัว แต่จะปลูกทั้งต้นลงดินและปลูกลงในรองซีเมนต์ เพราะต้นที่ปลูกในวงบ่อซีเมนต์ จะสามารถนำมาปลูกในระบบโรงเรือนได้ ช่วยป้องกันในเรื่องของโรคและแมลงศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี   

ซึ่งสายพันธุ์ที่เลือกมาปลูกมากกว่า 60 สายพันธุ์ ค่อนข้างเป็นสายพันธุ์ที่คุณนุคัดมาแล้วว่าตลาดมีความต้องการ แต่ละสายพันธุ์จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไป บางสายพันธุ์ออกผลช้าบ้าง บางสายพันธุ์ก็ออกผลไว โดยสายพันธุ์ที่ทำผลขายได้จะมีประมาณ 10 กว่าสายพันธุ์ 

“สำหรับกิ่งพันธุ์ที่นำมาปลูก จะมีตั้งแต่กิ่งที่ได้จากการตอน หรือจะเป็นกิ่งที่เสียบยอดติดตาก็ได้ครับ ส่วนกิ่งที่ได้จากการเพาะเมล็ด จะไม่ค่อยได้รับความนิยมครับ เพราะว่าดอกมันจะไม่สมบูรณ์เพศ เวลาที่นำเมล็ดมาเพาะจะไม่ค่อยงอก ซึ่งส่วนใหญ่ต้นที่นำมาปลูก ควรจะมีอายุประมาณ 1-2 เดือน แต่ผมจะเน้นดูการเจริญเติบโตของไม้มากกว่า เพราะแต่ละต้นการเจริญเติบโตจะไม่เท่ากันครับ เวลาที่นำกิ่งตอนมาปลูกลงดินหรือภาชนะที่เตรียมไว้ ควรดูที่ใบและความสมบูรณ์ของกิ่งเป็นหลัก ก็จะนำมาปลูกได้”

วัสดุปลูกที่รองก้นหลุมหรือใช้ปลูกในบ่อซีเมนต์ที่เหมาะกับการปลูกมะเดื่อฝรั่ง คุณนุ บอกว่า จะมีกาบมะพร้าวสับ แกลบดิบ และปุ๋ยคอก อัตราส่วน 1 ต่อ 1 นำส่วนผสมเหล่านี้มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ซึ่งส่วนผสมดินที่ดีจะต้องเป็นดินที่ระบายน้ำ ไม่อัดแน่นหรือแข็งจนเกินไป ส่วนระยะห่างระหว่างต้นที่ปลูกลงดินไม่มีสูตรตายตัว หากต้องการให้ได้จำนวนต้นที่มากขึ้น สามารถปลูกระยะชิดได้ แต่ถ้าจะปลูกให้ได้ความสวยงาม ระยะห่างระหว่างต้นจะอยู่ที่ 1×1 เมตร โดยเฉลี่ยแล้วการปลูกลงดินในสูตรของคุณนุ 2 งาน สามารถปลูกได้ประมาณ 300 ต้น 

หลังปลูกต้นมะเดื่อฝรั่งแล้ว คุณนุ บอกว่า ดูแลรดน้ำต่ออีกประมาณ 6 เดือน ต้นก็จะโตเริ่มให้ผลผลิตได้ เพราะฉะนั้นการบำรุงต้นมะเดื่อฝรั่งมีความสำคัญ โดยเฉพาะตั้งแต่การรดน้ำ การบำรุงที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ต้นมะเดื่อฝรั่งมีความสมบูรณ์ต่อเนื่องและมีผลผลิตไว 

“การรดน้ำผมจะใช้มินิสปริงเกลอร์เป็นหลัก ให้น้ำในช่วงเช้าอย่างเดียว ดูที่ความชื้นของดินเป็นหลัก ถ้าให้มากและมีความชื้นเกินไป จะทำให้เกิดเชื้อราได้ ส่วนในเรื่องของการบำรุงต้นผมก็จะใช้ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 ประมาณ 2 กำมือ เดือนละ 1 ครั้ง พร้อมกับสลับให้ปุ๋ยหมัก พร้อมไปกับน้ำบ้าง ส่วนแมลงศัตรูก็จะมีเพลี้ยแป้ง เพลี้ยหอย ผมก็จะป้องกันไปตามที่เจอ จะไม่พยายามใช้สารเคมี ดูแลอย่างนี้หลังปลูกประมาณ 6 เดือน ต้นก็จะให้ผลผลิตได้ต่อเนื่อง”

ตลาดออนไลน์ ขายได้ไว 

เจอลูกค้าได้มากกว่าขายออฟไลน์ 

ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อขายมะเดื่อฝรั่งนั้น คุณนุ บอกว่า เนื่องจากการปลูกมีมากกว่า 60 สายพันธุ์ มี 10 กว่าสายพันธุ์ที่สำหรับผลิตผลขายผสมอยู่ด้วย ดังนั้น ในเรื่องของการทำตลาดขายผลกำลังผลิตอาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ คุณนุจะเน้นไปทำกิ่งพันธุ์ขายเป็นหลัก โดยเน้นสร้างเครือข่ายตลาดออนไลน์ เพราะสามารถทำตลาดได้เป็นวงกว้าง และเจอลูกค้าที่ชื่นชอบและสนใจการปลูกมะเดื่อฝรั่งมากกว่าการขายแบบออฟไลน์   

ซึ่งการทำกิ่งพันธุ์มะเดื่อฝรั่งขาย คุณนุ บอกว่า สร้างรายได้ตลอดทั้งปีซึ่งดีกว่าการทำผล โดย 1 ต้น สามารถตอนกิ่งขายได้ประมาณ 50 กิ่งต่อปี เฉลี่ย 1 เดือนลูกค้าที่สนใจจะสั่งซื้ออยู่ที่ 30 กิ่งต่อเดือน ซึ่งกิ่งพันธุ์มะเดื่อฝรั่งที่ขายราคามีตั้งแต่ 150 บาท และสูงขึ้นไปอยู่ที่กิ่งละ 400-500 บาท โดยราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของสายพันธุ์ โดยคุณนุจะหมั่นโพสต์ขายให้กับลูกค้าทางช่องทางออนไลน์ 

“กิ่งพันธุ์ที่ขายดี ก็จะเป็นไวท์มาเดรา ไวท์อิสราเอล และลองดุ๊ก ซึ่ง 3 สายพันธุ์นี้ลูกค้าค่อนข้างจะสั่งบ่อย ซึ่งการทำตลาดถือว่าขายออนไลน์ค่อนข้างตอบโจทย์ เพราะฉะนั้นใครที่สนใจอยากจะปลูกมะเดื่อฝรั่ง ก็อยากจะให้เริ่มจากมองจริงๆ ว่าชอบไหม มีใจรักจริงๆ หรือเปล่า เพราะไม้ชนิดนี้ต้องการการดูแลพอสมควร ยิ่งช่วงหน้าฝนต้องดูแลมากหน่อย ไม่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ถ้ามีความอดทนหมั่นเรียนรู้อยู่เสมอ ก็สามารถประสบผลสำเร็จได้ไม่ยากครับ” 

สำหรับท่านใดสนใจในเรื่องของการปลูกมะเดื่อฝรั่ง หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณนุชา บุญมา หรือ คุณนุ ได้ที่ บ้านเลขที่ 62 หมู่ที่ 10 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก หมายเลขโทรศัพท์ 085-179-9609