เกษตรสร้างชีวิต อดีตผู้ช่วยพยาบาล กลับบ้านเกิด ทำ โคก หนอง นา สร้างรายได้

ชีวิตของลูกเกษตรกร ที่ไม่ได้ร่ำเรียนมาสูง แต่สามารถเลือกทางเดินชีวิตตนเองได้ ด้วยการกลับมาทำการเกษตรที่บ้าน เป็นนายตัวเอง ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร

คุณชุติมา จักษุมา ชาวอำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เรียนจบผู้ช่วยพยาบาล ทำงานโรงพยาบาลเอกชนในกรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง ก่อนลาออกกลับบ้านเกิด และสมัครงานในตำแหน่งผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 2 แห่ง ใกล้บ้าน แต่ตอนนี้ เธอเป็นนายของตัวเองมาได้ 8 เดือนแล้ว

ถามว่า ทำไมจึงเป็นนายตัวเอง คุณชุติมาให้คำตอบว่า เธอลาออกจากงานประจำทั้งหมดที่ทำอยู่ เพื่อออกมาทำเกษตร “โคก หนอง นา” เป็นเกษตรกรเพียงอาชีพเดียว

“รายได้เดือนละ 8,000-10,000 บาท ยืนพื้น อาจจะมีมากหรือน้อยกว่าบ้าง แต่ละวันแทบไม่ได้ใช้จ่ายอะไรเลย”

เกือบ 3 ปีก่อน คุณชุติมาลาออกจากงานประจำที่กรุงเทพฯ กลับมาอำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ยังคงทำงานตามวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา ทั้งที่ลึกๆ ในใจ อยากทำตามความฝันของตนเอง คือการดำเนินชีวิตตามกระแสพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้อยู่อย่างพอเพียง

“เงินที่เก็บมาและขอที่ดินจากพ่อและแม่ ตั้งใจจะทำโคก หนอง นา โชคดีที่พ่อและแม่ไม่ขัด ทำให้เราทำตามความฝันเราได้ ใช้เงินไปทั้งหมดก้อนแรก 53,000 บาท ขุดบ่อ ทำคันนา ปรับสภาพที่ดินเริ่มจากพื้นที่ 6 ไร่ ค่อยๆ ปรับแต่งพื้นที่ ลงปลูกต้นไม้ตามทฤษฎีการปลูกพืชแบบผสมผสาน นำความรู้จากการเข้าอบรมการทำโคก หนอง นา ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง มาใช้ เรียกได้ว่าเป็นการหักดิบ เพราะตอนนั้น นอกจากพ่อและแม่แล้ว ไม่มีใครเห็นด้วยกับสิ่งที่กำลังทำ”

พื้นที่ 6 ไร่ ขุดเป็นบ่อน้ำ 2 บ่อ ทำคลองไส้ไก่รอบพื้นที่ ปลูกพืชแบบผสมผสาน เป็นไม้ 5 ระดับ ไม้สูง ไม้กลาง ไม้เตี้ย ไม้เรี่ยดิน และไม้กินหัว ซึ่งพืชแต่ละชนิด สามารถปลูกผสมผสานกันได้ในทุกพื้นที่ และให้ผลผลิตแตกต่างกันแต่ละช่วงเวลา ทำให้สามารถเก็บมาประกอบอาหารและจำหน่ายได้

จังหวัดอุทัยธานี เป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่า แล้งมากจังหวัดหนึ่ง

คุณชุติมา บอกว่า โชคดีที่บริเวณพื้นที่มีบ่อบาดาลน้ำตื้น 6 เมตร สูบน้ำขึ้นมาใช้ในพื้นที่ได้ แตกต่างจากพื้นที่อื่นที่อาจจะขุดไม่เจอน้ำบาดาล นอกจากนี้ ดินในพื้นที่ยังเป็นดินเหนียว ทำให้การขุดบ่อเก็บกักน้ำไม่เกิดปัญหา

“การเกษตรที่สำคัญที่สุดคือ น้ำ โชคดีที่เรามีน้ำในที่ดินของตัวเอง ฤดูแล้งก็ยังมีน้ำ ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกไว้เจริญเติบโตงอกงามดี แต่ถึงอย่างไร เมื่อเราเริ่มจากการไม่ใช้เคมี ทำเกษตรในลักษณะของอินทรีย์ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะถูกแมลงศัตรูพืชรุมทำลายพืชที่ปลูกไว้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้ผู้บริโภคและตัวเราเองรู้ว่า ผลผลิตของเราปลอดสาร มีความปลอดภัย”

ช่วงแรกของการเริ่มทำโคก หนอง นา คุณชุติมายังคงทำงานเป็นผู้ดูแลเด็กของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กใกล้บ้าน จึงมีเงินเดือนประจำและมีรายได้เล็กน้อยจากแปลงโคก หนอง นา ที่ทำอยู่ เริ่มแรกมีผลผลิตแค่ทำกินในครัวเรือน เมื่อเวลาผ่านไปผลผลิตที่ได้เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้น ผลผลิตเริ่มมีมากขึ้น จากทำกินในครัวเรือน เริ่มแบ่งปันเพื่อนบ้านและขยายต่อไปถึงการจำหน่าย

ภายในแปลง แบ่งเป็นพื้นที่ทำนาประมาณ 2 ไร่ ระยะแรกทำงานช่วงกลางคืนมากกว่ากลางวัน เพราะต้องปรับปรุงดินด้วยการห่มฟางกลางคืน

11 ไร่ในปัจจุบัน เป็นบ่อที่เชื่อมต่อถึงกัน 5 บ่อ และคันนาปลูกพืช ยังมีบ่อน้ำอีก 2 บ่อ ที่ไม่เชื่อมต่อกับบ่ออื่นสำหรับเลี้ยงปลากรายและปลาสวาย ส่วนหอยและกุ้งฝอยอยู่ในแหล่งน้ำทั้งหมดในแปลง จะจับเมื่อไหร่ก็ทำได้

คุณชุติมาบอกเราว่า ไม่เคยนำผลผลิตออกไปจำหน่ายที่ไหน มีแต่พ่อค้าแม่ค้าติดต่อเข้ามาขอซื้อและเข้ามารับซื้อผลผลิตถึงแปลง และการขายก็ตั้งราคาถูกกว่าท้องตลาด เพราะคิดเสมอว่า ให้ขายด้วยความรู้สึกของการให้ 8 เดือนก่อนหน้านี้ คุณชุติมาตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาเป็นเกษตรกรเต็มตัว ดูแลโคก หนอง นา

เมื่อถามว่า ทำไมต้องลาออก ทั้งที่งานประจำถึงเวลาก็รับเงินเดือน คุณชุติมาบอกด้วยความภาคภูมิใจว่า จากการที่ทำโคก หนอง นา มากว่า 2 ปี เพื่อนบ้านมองค้าน มีเพียงครอบครัวที่เห็นด้วย แต่โคก หนอง นา ที่ทำอยู่ประสบความสำเร็จ มีรายได้เข้าครัวเรือนเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี จากพืชต่างชนิดกันแต่ปลูกผสมผสานอยู่ด้วยกัน นอกจากนี้ ยังเลี้ยงปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ซึ่งทุกอย่างแปรผันเป็นเงินให้จับต้องได้อย่างไม่ลำบาก แม้กระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 ที่หลายคนประสบปัญหาว่างงาน รายได้ลดลง หรือประกอบอาชีพบางอย่างไม่ได้นั้น แต่การทำโคก หนอง นา กลับไม่ได้รับกระทบแม้แต่น้อยตลอดช่วงเวลา 2 ปีที่โควิด-19 ระบาด รวมถึง กรมการพัฒนาชุมชน เห็นความตั้งใจและผลที่ได้จากการทำโคก หนอง นา จึงยกให้เป็นแปลงต้นแบบของจังหวัดอุทัยธานี ทั้งยังให้งบประมาณเพิ่มเติมมา สำหรับการจัดสรรพื้นที่อีก 3 ไร่อีกด้วย

“การจะทำโคก หนอง นา ไม่ได้มีทฤษฎีอะไรตายตัว จริงๆ แล้วการทำการเกษตรทั้งหมดอยู่ที่ตัวเอง มีความมุ่งมั่นตั้งใจมากเพียงใด เมื่อพบปัญหา รู้จักแก้ปัญหาและปรับปัญหาให้เป็นทางออกที่ดี เป็นแนวทางใหม่ที่อาจจะไม่เคยทำมาก่อนเลยได้หรือไม่ต่างหาก”

แปลงโคก หนอง นา ของคุณชุติมา ตั้งชื่อง่ายๆ ว่า โคกหนองนาตากะยาย ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 5 ตำบลเขากวางทอง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี หากจะโทรศัพท์มาสอบถามเส้นทาง เพื่อเข้ามาศึกษาดูงาน คุณชุติมาก็ยินดี โทรศัพท์ 097-969-4522 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ เฟซบุ๊ก นางชุติมา จักษุมา