วช. ส่งเสริมแปรรูป “ขิง” พืชเศรษฐกิจอำเภอเขาค้อ

“เขาค้อ” เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงที่หนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ เนื่องจากมีความหลากหลายทางชีวภาพ พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์แล้ว ที่นี่ยังเป็นทำเลทองของการเพาะปลูกพืชผักไม้ผลนานาชนิด รวมทั้ง “ขิง” พืชสมุนไพรทำเงิน ที่สร้างอาชีพและรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวอำเภอเขาค้อมาอย่างยาวนาน

คุณยงชาติ ชมดี และ ผศ.ดร.นิอร โฉมศรี แนะนำผลงานวิจัย

ขิง พืชทำเงิน

ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นชุมชนชาวเขาเผ่าม้งปลูกขิงอย่างแพร่หลายกว่า 30 ปี นอกจากปลูกขิงขายสร้างรายได้แล้ว ยังนิยมบริโภคขิงบำรุงสุขภาพอีกด้วย เนื่องจากขิงเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามากมาย ช่วยขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น หากนำขิงแก่มาต้มน้ำดื่มยิ่งได้ประโยชน์ เพราะขิงแก่มีรสเผ็ดร้อนและมีใยอาหารมาก ใช้ดื่มบำรุงสุขภาพ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะจากโรคไข้หวัดได้อย่างดี

การปลูกขิงให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี เกษตรกรต้องพิถีพิถันในการปลูกดูแล เริ่มจากการคัดเลือกพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม เนื่องจากขิงเป็นพืชที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคพืชและไม่ทนต่อสภาพน้ำขัง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ขิงเน่าเสียได้ง่าย เกษตรกรส่วนใหญ่จึงนิยมปลูกบนเชิงเขาเพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาน้ำท่วมขังในแปลงเพาะปลูก

ผู้บริหาร วช. ทีมนักวิจัย มทร.ล้านนา และ คุณยงชาติ ชมดี

ก่อนปลูกในช่วงเตรียมดิน เกษตรกรจะใส่ปุ๋ยขี้ไก่เพื่อบำรุงดิน นิยมปลูกขิงด้วยเหง้า โดยนำเหง้าขิงไปตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนนำไปปลูกในหลุม ใช้เศษใบหญ้าคลุมดินเพื่อบังแสงแดด เมื่อต้นขิงเริ่มเจริญเติบโตจะนำดินมาถมทับรอบกอเพื่อบังคับให้ขิงเกิดการแตกตาแตกหน่อมากขึ้น หลังจากนั้นใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเร่งราก บำรุงใบ ลำต้น และใส่ปุ๋ยเคมีสูตรเร่งหัวตามลำดับ โดยทั่วไป พื้นที่ปลูกขิง 1 ไร่จะได้ผลผลิตเฉลี่ย 3-5 ตัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับฝีมือการเพาะปลูกและการจัดการปัญหาโรคพืชของเกษตรกรแต่ละรายเป็นสำคัญ

เกษตรกรอำเภอเขาค้อนิยมปลูกขิงช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เริ่มเก็บเกี่ยวขิงอ่อนออกขายช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ส่วนขิงแก่จะเก็บขายในช่วงเดือนธันวาคม หลังเก็บเกี่ยวขิงเสร็จ ต้องสลับปลูกขิงในแหล่งใหม่ เพื่อลดการระบาดของโรค ปลูกขิง 1 ครั้งต้องเว้นพื้นที่ไป 4-5 ปี จึงจะกลับมาปลูกได้ใหม่

คุกกี้รสขิง อีกหนึ่งผลงานของทีมนักวิจัย มทร.ล้านนา

เมื่อเร็วๆ นี้ คุณลักขณา พรหมเศรณี เกษตรอำเภอเขาค้อ และคณะ ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนแปลงปลูกขิง จำนวน 3 ไร่ ของ คุณอัฐพร ลีพัฒนเศรษฐ์ เกษตรกรผู้ปลูกขิงในพื้นที่ตำบลเข็กน้อย อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยคุณอัฐพรให้ข้อมูลว่า ปีนี้ราคาขิงตกต่ำอย่างมาก โดยแบ่งการขายขิงได้เป็น 3 เกรด คือ เกรด A เกรด B เกรด C โดยเกรด A เป็นเกรดที่ส่งออกยุโรป เกรด B เป็นเกรดที่ส่งออกประเทศมาเลเซีย

ปัจจุบันขิงเกรด A ราคาเพียง 4.50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งปกติราคาไม่ต่ำกว่า 15 บาทต่อกิโลกรัม และหากขายเป็นขิงรวมจะได้ราคา 3 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคาจะไม่ต่ำกว่า 10-12 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนการปลูกขิงปีนี้อยู่ที่ 50,000 บาทต่อไร่ ผลผลิตประมาณ 9 ตันต่อไร่ ซึ่งถ้าราคาขายขิงรวม 3 บาท จะขายได้เพียง 27,000 บาทต่อไร่ ซึ่งจะขาดทุนถึง 23,000 บาทต่อไร่ เกษตรกรจึงยังไม่ขายผลผลิตเพราะไม่คุ้มต่อค่าแรงเก็บเกี่ยว คุณลักขณาจึงได้แนะนำให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันและเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ เพื่อจะได้วางแผนการผลิต การตลาด พัฒนาคุณภาพสินค้าและมาตรฐาน จนสามารถพัฒนาสู่วิสาหกิจชุมชนได้ต่อไป

ขิงเขาค้อ

วช. หนุนแปรรูปขิง

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เล็งเห็นศักยภาพและโอกาสทางการตลาด ของ “ขิง” ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจทำเงิน เป็นของดีเมืองเพชรบูรณ์ จึงสนับสนุนทุนวิจัยให้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (มทร.ล้านนา) พัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากขิง จำนวน 2 โครงการ เพื่อนำองค์ความรู้งานวิจัยมายกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นให้เติบโตในเชิงอุตสาหกรรม เกิดผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค อันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าทางการเกษตรของอำเภอเขาค้อ ให้เกิดความมั่นคงทางอาชีพและรายได้ในพื้นที่ พร้อมเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตร เพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์

ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักประสานงานชุดโครงการการพัฒนาผลิตภัณฑ์ Innovative House สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า ผลงานวิจัยภายใต้การสนับสนุนจาก วช., สวทช. และ สกสว. ล้วนมีการนำไปต่อยอดแล้วในระดับอุตสาหกรรม เพื่อยกระดับและเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ (SMEs) เกิดผลพวงหลายอย่าง โดยมุ่งเน้นการผลิตเอง ด้านสาธารณสุขในการลดหรือชะลอปัญหาการเกิดโรคต่างๆ จากการบริโภคอาหาร เป็นต้น จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่งานวิจัยได้มีส่วนช่วยต่อการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์จากขิง เป็นของดีเมืองเพชรบูรณ์ ตอบโจทย์ตลาดคนรักสุขภาพและผู้บริโภคทั่วไป

เครื่องดื่มสุขภาพชนิดสปาร์กกิ้งจากขิงออร์แกนิก

มทร.ล้านนา พัฒนา 2 สูตร

ผลิตภัณฑ์จากขิง บำรุงสุขภาพ

ผศ.ดร.นิอร โฉมศรี สถาบันเทคโนโลยีเกษตร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เจ้าของโครงการการพัฒนาเครื่องดื่มสุขภาพชนิดสปาร์กกิ้งจากขิงออร์แกนิกด้วยเทคนิคการสกัดและการหมัก กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการผลิตเครื่องดื่มประเภทนี้ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งใช้การอัด CO2 เข้าไป แต่เครื่องดื่มที่ทีมวิจัยพัฒนาสูตรให้ผู้ประกอบการจะใช้กระบวนการหมักยีสต์ (จุลินทรีย์ที่ดี) กับขิง น้ำเปล่าและน้ำตาล เป็นเวลา 15 ชั่วโมง ในอุณหภูมิปกติ จนเกิดฟองแก๊สโดยธรรมชาติ มีกลิ่มหอม รสสัมผัสนุ่มละมุน ให้ความสดชื่นและดื่มง่ายมากกว่าเครื่องดื่มจากขิงประเภทอื่นๆ อย่างชัดเจน

ขณะนี้ได้ทดลองบรรจุแบบขวดพาสเจอไรซ์ ให้สามารถเก็บได้อุณหภูมิปกติ พร้อมศึกษาอายุการเก็บรักษาและคุณค่าทางอาหาร ซึ่งขิงมีสรรพคุณช่วยขับลม บรรเทาอาการวิงเวียน อยู่แล้วจากการอ้างอิงของงานวิจัยต่างๆ โดยจะสนับสนุนการควบคุมการผลิตของ SMEs ให้มีคุณภาพสม่ำเสมอในทุกๆ ล็อต

ถังที่ใช้หมักยีสต์เพื่อให้เกิดจุลินทรีย์ที่ดีกับขิง

ด้าน ผศ.เฉลิมพล ถนอมวงค์ จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก เจ้าของโครงการ “การพัฒนาผลิตภัณฑ์สเปรดช็อกโกแลตรสขิงลดไขมัน” กล่าวว่า วิถีชีวิตของคนไทยที่เร่งรีบ และกระแสความนิยมรับประทานขนมปังคู่กับผลิตภัณฑ์ประเภทสเปรดแบบชาวตะวันตกในท้องตลาดทั่วไป นักวิจัยและบริษัท สุธัมบดี จำกัด จึงร่วมกันพัฒนาสูตรอาหารสเปรดช็อกโกแลตไขมันต่ำโดยเสริมขิงผงและข้าวหอมมะลิแดง

เบื้องต้นทีมนักวิจัยสามารถลดองค์ประกอบของไขมันลงไปได้ร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับสเปรดช็อกโกแลตอื่นๆ ในท้องตลาด ได้กลิ่นและรสชาติจากขิงที่ลงตัว วิธีการผลิตคล้ายกับการผลิตแยมผลไม้ทั่วๆ ไป แต่ใช้ต้นทุนต่ำกว่า สามารถรับประทานได้ทุกช่วงวัย ในขั้นต่อไปจะทดสอบสูตรให้ถูกใจผู้บริโภคมากขึ้น เพื่อที่ SMEs จะได้ผลิตให้ได้มาตรฐานต่อไป

 

ผศ.เฉลิมพล ถนอมวงค์

“เขาค้อเฮอร์เบอรี” SMEs เขาค้อ

ผู้นำตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์

ด้านผู้ประกอบการ (SMEs) ที่เข้าร่วมโครงการวิจัยในครั้งนี้ คือ บริษัท สุธัมบดี จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสินค้าเกษตรอินทรีย์ ภายใต้แบรนด์ เขาค้อเฮอร์เบอรี (Khaokhoherbary) มาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีแนวคิดผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับการผลิตวัตถุดิบทางการเกษตรที่หลากหลาย เพื่อรักษาคุณภาพ ตลอดจนแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ ในการผลิต พร้อมถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนความรู้ดังกล่าวแก่ผู้ที่สนใจทั้งภาครัฐและเอกชนดังที่ได้ปฏิบัติเสมอมา เพื่อกระตุ้นให้มีการใช้วัตถุดิบภายในประเทศ โดยเฉพาะพืชผัก ผลไม้ และสมุนไพร และยังมุ่งหวังให้เป็นศูนย์การผลิต จำหน่าย วิจัยค้นคว้าและพัฒนาอีกด้วย

คุณยงชาติ ชมดี ผู้บริหารบริษัท สุธัมบดี จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยมองหาผลิตผลใกล้ตัวในท้องถิ่นมาแปรรูปสร้างมูลค่าโดยเล็งเห็นว่า “ขิง” ซึ่งเป็นของดีในอำเภอเขาค้อ ยังไม่มีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในรูปแบบใหม่อย่างจริงจัง จึงร่วมมือกับนักวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องดื่มสุขภาพชนิดสปาร์กกิ้งจากขิงออร์แกนิกด้วยเทคนิคการสกัดและการหมัก และผลิตภัณฑ์สเปรดช็อกโกแลตรสขิงลดไขมัน

ผลิตภัณฑ์สเปรดช็อกโกแลตรสขิงลดไขมัน

บริษัทมีความทักษะความรู้ด้านโรงงานผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ มาตรฐาน GMP อยู่แล้ว เมื่อได้องค์ความรู้ทางการวิจัยมาช่วยสนับสนุน เชื่อว่าจะสามารถขยายไปถึงการส่งออก อัพเกรดสินค้าให้มีความพรีเมี่ยม สามารถผลักดันเป็นสินค้าทางเลือกสู่มือผู้บริโภคได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้งช่วยชูโรงเป็นของฝากส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ส่วนหนึ่ง