มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท มุ่งมั่นสานภารกิจ “ขจัดความยากจน” ยกระดับคุณภาพชีวิต หนุนชุมชนพึ่งตนเอง

นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ผู้ช่วยบริหาร สำนักประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลา 33 ปี ของการดำเนินงานของมูลนิธิฯ มุ่งมั่นสานต่อภารกิจ สร้าง 4 ดี พัฒนา 4 ด้าน “สร้างคนดี พลเมืองดี อาชีพดี และชุมชนสิ่งแวดล้อมดี” โดยภารกิจหลักที่สำคัญอีกด้านหนึ่งคือ ร่วมขจัดความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชน จากการที่มูลนิธิฯ ดำเนินโครงการต่างๆ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตรเป็นแหล่งเรียนรู้ของเกษตรกรที่อยู่โดยรอบ ‘ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ’ ตำบลสามพระยา อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โครงการหมู่บ้านสหกรณ์ตามพระราชประสงค์ รวม 7 แห่ง โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกาญจนบุรี โครงการเกษตรผสมผสานตามแนวพระราชดำริ อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ โครงการพัฒนาอาชีพตำบลปากรอ จังหวัดสงขลา ตามดำริของ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา และโครงการพัฒนาการตลาดร้านค้าชุมชนและ E Commerce เป็นต้น

 

ผลสำเร็จจากความมุ่งมั่นดำเนินโครงการต่างๆ คือ ส่งเสริมให้เกษตรกรและชุมชนพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ การลดรายจ่าย และส่งเสริมการออม ช่วยบรรเทาปัญหาความยากจน ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนและเกษตรกรให้ดีขึ้น โดยที่ผ่านมา สะท้อนได้จากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ แล้วมากกว่า 5,000 ราย สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจจากโครงการส่งเสริมอาชีพและโครงการด้านสังคมประมาณ 1,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อจัดการอาชีพ สามารถเป็นแบบอย่างในการถ่ายทอดความรู้และขยายผลต่อเนื่อง เกิดเป็นกลุ่มอาชีพใหม่ กลุ่มออมทรัพย์ เกษตรกรได้เรียนรู้การมีวินัยในการออมเงินและรู้จักวางแผนการออม รวมทั้งสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ ในเป้าหมายที่ 1 ขจัดความยากจน

“ปณิธานการทำงานของมูลนิธิฯ มีเป้าหมายตอบแทนคุณแผ่นดิน สร้างประโยชน์ให้กับสังคมและประเทศชาติ เรามุ่งมั่นเป็นส่วนหนึ่งของการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยให้ดีขึ้น ดูแลชุมชนและเกษตรกรให้มีความมั่นคงด้านอาชีพ ด้านรายได้ พึ่งตนเองและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล และสนับสนุนเป้าหมาย SDGs” นายจอมกิตติ กล่าว

 

นายจอมกิตติ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการส่งเสริมอาชีพและโครงการด้านพัฒนาสังคมที่มูลนิธิฯ ดำเนินการส่งผลเชิงบวกทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการห้วยองคตอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกาญจนบุรี เน้นส่งเสริมเกษตรกรพึ่งตนเอง ด้วยการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ระบบ EVAP ให้เกษตรกร รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ไข่ โดยมี บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ สนับสนุนและมอบองค์ความรู้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่เกษตรกร และลูกหลาน เกษตรกรขยายผลปลูกพืชผักเพื่อจำหน่ายในพื้นที่และส่งตลาดในจังหวัดใกล้เคียง ยังมีการส่งเสริมการรวมกลุ่มจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มแม่บ้านสร้างอาชีพในชุมชน สมาชิกของครอบครัวได้เรียนหนังสือจนสำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา มีบ้าน มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง