ชัยภูมิ โชว์ ‘กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน’ เตรียมเปิดจอง พ.ค. นี้

นางสุจารีย์ พิชา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 5 นครราชสีมา (สศท.5) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิมีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตสินค้าเกษตรที่ให้ผลตอบแทนสูง และคุ้มค่า สนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มการผลิต และให้เกษตรกรเป็นผู้บริหารจัดการแบบครบวงจรทั้งด้านการผลิต แปรรูป และการตลาด รวมถึงสนับสนุนแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรอีกทางหนึ่ง โดยในปี 2562 จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอเทพสถิต ดำเนินโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ และจัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ เน้นการรวมกลุ่มเกษตรกร ถ่ายทอดความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต เกษตรกรส่วนใหญ่ได้มาตรฐาน GAP แล้ว ซึ่งในปี 2565 อยู่ระหว่างการดำเนินการขอรับรองมาตรฐาน GAP ในนามเกษตรแปลงใหญ่ต่อไป

 

สศท.5 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การผลิตของกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน พบว่า ปี 2564 มีเนื้อที่ปลูกทั้งหมด 1,063 ไร่ เนื้อที่เก็บเกี่ยว 655 ไร่ ปัจจุบัน มีสมาชิก 51 ราย โดยมี นาย   สมพงษ์ ดีเดิม เป็นประธานแปลงใหญ่ สำหรับพื้นที่เพาะปลูกทุเรียนโอโซนของกลุ่มแปลงใหญ่มีความเหมาะสม เนื่องจากปลูกบนภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 800 กว่าเมตร ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายตลอดทั้งปี ลักษณะพื้นดินภูเขาที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุต่างๆ ทำให้มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น มีรสชาติเฉพาะตัว หวานละมุน กรอบอร่อย กลิ่นเบากว่าทุเรียนพันธุ์อื่น เนื้อละเอียดไม่มีเส้นใย จึงเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งพันธุ์ที่นิยมปลูกส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ทุเรียนหมอนทอง เนื่องจากเป็นพันธุ์ยอดนิยมที่ผู้บริโภค ทั้งในประเทศและต่างประเทศชื่นชอบ

ด้านต้นทุนการผลิตทุเรียนโอโซนของกลุ่มแปลงใหญ่เฉลี่ย 27,196 บาท/ไร่/ปี (เริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 6 และเก็บเกี่ยวได้ระยะยาว) เกษตรกรนิยมปลูกในช่วงต้นฤดูฝน (เดือนเมษายน-พฤษภาคม ของทุกปี) เริ่มติดดอกช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ เก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ผลผลิตเฉลี่ย 2,460 กิโลกรัม/ไร่/ปี หรือคิดเป็นผลผลิตรวมของทั้งกลุ่มอยู่ที่ 1,611 ตัน/ปี ราคาที่เกษตรขายทุเรียนโอโซนได้ในรอบปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 150 บาท/กิโลกรัม ผลตอบแทนเฉลี่ย 369,042 บาท/ไร่/ปี คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 341,846 บาท/ไร่ หากคิดเป็นผลตอบแทนทั้งหมดของกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซนจะได้กำไรปีละ 223 ล้านบาท โดยการจำหน่ายผลผลิตจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ร้อยละ 70 ขายที่หน้าสวนโดยตรง และร้อยละ 30 จำหน่ายผ่านทางออนไลน์ อาทิ Face book และ Line ของเกษตรกรเอง

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานเกษตรอำเภอเทพสถิต ได้ส่งเสริมให้กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเป็นศูนย์เรียนรู้เกษตรผสมผสาน (ซุปเปอร์ฟาร์ม) โดยจัดให้มีการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ยั่งยืน มีกิจกรรมเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมสวนทุเรียน สินค้าของแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรและเครือข่าย ซึ่งในส่วนของการบริหารจัดการทุเรียนของกลุ่มแปลงใหญ่ ทางกลุ่มมีแนวโน้มขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดทุเรียนยังเปิดกว้าง และผลผลิตยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค

“สำหรับปีนี้ ลูกค้าสามารถสั่งจองผลผลิตได้แต่ตั้งเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ผลผลิตเริ่มติดผล หรือลูกค้า ท่านใดอยากมาเลือกซื้อผลผลิตด้วยตนเองในช่วงที่ผลผลิตออกเต็มที่แล้ว สามารถซื้อได้ที่หน้าสวนของเกษตรกรได้ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม นอกจากนี้ ยังมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย เช่น โทร.สั่งซื้อหรือสั่งออนไลน์ ซึ่งมีบริการจัดส่งจากสวนส่งตรงถึงหน้าบ้าน

 

หากท่านที่สนใจข้อมูลการผลิตทุเรียนโอโซน ของกลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนโอโซน สามารถสอบถามเพิ่มเดิมได้ที่ นายสมพงษ์ ดีเดิม ประธานแปลงใหญ่ทุเรียน หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ โทร. 081-723-3075 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.5 นครราชสีมา โทร. 044-465-120 หรือ อี-เมล [email protected]” ผู้อำนวยการ สศท.5 กล่าวทิ้งท้าย