อาสาสมัครเกษตรตรัง ผลิกผืนดินทำเกษตรผสมผสานในสวนยาง สร้างรายได้งาม

ยางพารา เป็นพืชเศรษฐกิจที่นิยมปลูกมากในพื้นที่ภาคใต้ จากข้อมูลฐานข้อมูลทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร พบว่า ภาคใต้มีพื้นที่ปลูกยางถึง 4,600,645.97 ไร่ โดยส่วนใหญ่เกษตรกรปลูกยางพาราแบบพืชเชิงเดี่ยว เกษตรเชิงเดี่ยว หรือการทำการเกษตรโดยปลูกพืชเพียงชนิดเดียว มีความเสี่ยงสูงจากการผันผวนของราคา อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาครัฐมีนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยาง เช่น โครงการประกันราคายางพารา การส่งเสริมการปลูกพืชแซมยางและพืชร่วมยางเพื่อเสริมรายได้

ปลูกสะละร่วมยาง

พืชร่วมยาง หรือการทำเกษตรผสมผสานเป็นทางเลือกหนึ่ง สามารถลดความเสี่ยงนี้ได้ การปลูกพืชร่วมยาง คือ การปลูกพืชที่สามารถเจริญเติบโตควบคู่กับยางพาราเมื่อต้นยางอายุ 3 ปีขึ้นไป ต้องไม่มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นยางพารา ไม่ทำน้ำยางลดลงและสามารถให้ผลผลิตไปพร้อมกันได้ โดยพืชสามารถโตได้ดีในสภาพร่มเงา เช่น สะละ กาแฟ ขิง ข่า ผักพื้นบ้าน

ส่วนเกษตรผสมผสาน คือ การทำกิจกรรมการเกษตรตั้งแต่ 2 กิจกรรมขึ้นไป เช่น การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงปลา การเลี้ยงผึ้งในสวนยาง มีข้อดีคือ การลดความเสี่ยงและความไม่แน่นอนของรายได้ เพิ่มรายได้และกระจายรายได้ตลอดปี ช่วยลดต้นทุนการผลิตเหมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว เนื่องจากใส่ปุ๋ยครั้งเดียวแต่พืชอย่างน้อย 2 ชนิด สามารถดูดซึมไปใช้ได้ มีอาหารเพียงพอสำหรับบริโภคในครัวเรือน คุณสุวรรณ เขตตะเคียน เกษตรกรบ้านนาท่อม หมู่ที่ 9 ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง เป็นเกษตรกรที่มีความมุ่งมั่นทำการเกษตรให้ประสบความสำเร็จ โดยยึดหลักแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ทำเพื่อกินเพื่อใช้ในครัวเรือน แบ่งปัน เหลือก็จำหน่ายสร้างรายได้เสริม

ขุดร่องเลี้ยงปลาในสวนยาง

ปัจจุบัน คุณสุวรรณ เป็นอาสาสมัครเกษตรกรและเกษตรกรชาวสวนยาง ปลูกยางบนเนื้อที่ 6 ไร่ ในช่วงแรกมีรายได้หลักจากยางพาราเท่านั้น แต่การปลูกพืชเชิงเดี่ยวมีความเสียงต่อรายรับ จึงคิดหาวิธีเพิ่มรายได้บนพื้นที่เดิม

คุณสุวรรณ เล่าว่า ปี พ.ศ. 2559 สำนักงานเกษตรอำเภอห้วยยอด กรมส่งเสริมการเกษตร เข้ามาส่งเสริมการปลูกพืชแซมในสวนยางเพื่อเพิ่มรายได้ จึงมีความสนใจและตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ ได้รับความรู้และได้รับสนับสนุนต้นพันธุ์สะละ สายพันธุ์เนินวง ต่อมารู้สึกว่ายังมีพื้นที่เหลือ น่าจะต่อยอดได้อีก จึงปลูกสะละสายพันธุ์อินโดเพิ่มเติม ปัจจุบัน ปลูกสะละ ประมาณ 300 ต้น มีรายได้เสริมจากสะละอินโดและสะละเนินวง ประมาณ 30,000 บาท

นอกจากนี้ ยังเลี้ยงผึ้งโพรงเสริมรายได้ในสวนยาง ซึ่งปลูกสะละ จำนวน 80-90 ลัง โดยเลี้ยงผสมผสานในสวนยาง เลี้ยงแบบเลียนแบบธรรมชาติให้ผึ้งหาอาหารจากดอกสะละและช่วยผสมเกสรให้สะละ ดอกยางพารา ดอกปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ที่อยู่ติดกันเพื่อให้ได้น้ำผึ้งมีคุณภาพจากธรรมชาติ ทำให้มีรายได้เสริมจากการขายน้ำผึ้งปีละ 30,000-40,000 บาท

คุณสุวรรณ เขตตะเคียน เกษตรกรทำเกษตรแบบผสมผสาน

พื้นที่บ้านนาท่อม ตำบลเขากอบ ได้รับแหล่งน้ำเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคจากอ่างเก็บน้ำคลองท่างิ้ว อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดตรัง ทำให้มีน้ำตลอดปี ประกอบกับบริเวณดังกล่าวมีคูน้ำไหลผ่าน จึงขุดคูคลองไส้ไก่เข้ามาในสวนยางเพื่อเลี้ยงปลา ปัจจุบันเลี้ยงปลาประมาณ 10,000 ตัว ส่วนใหญ่เลี้ยงปลากินพืช ได้แก่ ปลานิล ปลาทับทิม ปลาอิสก ปลาดุก ปลาสวาย ปลากด ปัจจุบัน รายได้เสริมจากการเลี้ยงปลา ประมาณ 30,000 บาท ต่อปี นอกจากนี้มีการเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหอยขม รวมถึงปลูกผักเพื่อบริโภคในครัวเรือน

เลี้ยงผึ้งในสวนยาง

ในตอนท้าย คุณสุวรรณ ยังสรุปให้ฟังว่า การเลี้ยงปลาระหว่างร่องยางช่วยลดการเกิดโรครากขาวในยางพาราและไม่ต้องรดน้ำสะละ พยายามบริหารจัดการน้ำให้มีประโยชน์สูงสุด และการทำเกษตรผสมผสาน ทำให้มีรายได้จากหลายทางต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทั้งรายได้รายวัน รายเดือน รายสัปดาห์ และรายปี ปลูกเองกินเอง ไม่ต้องซื้อทำให้ลดรายจ่ายได้มาก

ท่านที่ต้องการทำเกษตรผสมผสาน หรือต้องการซื้อน้ำผึ้ง ติดต่อคุณสุวรรณ เขตตะเคียน โทร. 086-282-0885 หรือสำนักงานเกษตรอำเภอห้วยยอด โทร. 075-271-099