| ที่มา | ตั้งวงเล่า |
|---|---|
| ผู้เขียน | ทิดโส โม้ระเบิด |
| เผยแพร่ |
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงยิ่ง ช่วงนี้ขออนุญาตปากหวานสักนิดครับ เพราะว่าไม่ค่อยได้พบผู้คนมากนัก ทำงานอยู่กับบ้าน นานๆ ออกไปพบแหล่งข่าวตามที่นัดไว้เท่านั้น ด้วยว่าโรคระบาดตัวนี้มาแรงแซงทุกโค้งเหลือเกิน ยิ่งทางการแจ้งว่าการติดเชื้อต่อกันจะง่ายกว่าเดิมก็ยิ่งน่ากังวล เพราะเราเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวแล้ว คงเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีนักท่องเที่ยวบางคนนำเชื้อเข้ามาอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าหากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ระบบสาธารณสุขของไทยเราคงเอาอยู่
รอบนี้มีนัดกับสาว (เหลือ) น้อย และสาวน้อยสองแม่ลูก คุณแม่เป็นอดีตช่างเสริมสวยผู้หันหน้าเข้ามาสู่การเป็นเกษตรกรเต็มตัว เหตุเกิดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คุณแก้วตา อินหัน อาชีพช่างเสริมสวยที่เปิดร้านอยู่ที่สมุทรปราการ ทำอาชีพนี้มานานแล้ว ช่วงหนึ่งคิดถึงอนาคต คงจะมายืนแต่งหน้าทำผมให้ลูกค้าได้ตลอดไปไม่ไหว ประกอบกับในช่วงนั้นกระแสอินทผลัมกำลังมาแรง จึงเริ่มใช้เงินที่เก็บไว้ทยอยซื้อไปปลูกที่สวนในจังหวัดพิจิตร โดยมีญาติช่วยดูแลเรื่องรดน้ำใส่ปุ๋ยให้
เข็มนาฬิกายังคงเดินไปตามปกติ วงจรชีวิตในทุกวันก็ยังคงต้องทำหน้าที่ วันหนึ่งลูกสาวเรียนจบ รับปริญญาเรียบร้อย และสมัครเข้าทำงานได้ที่การบินไทย ความสุขของแม่ก็คงไม่มีอะไรเกินลูกได้มีอาชีพที่ดี ที่ดูมั่นคงในอนาคต ประกอบกับอินทผลัมเริ่มมีผลผลิต ระยะเวลาเพียง 3 ปี ตั้งแต่ปลูกลงดิน ถึงวันที่เขาเริ่มมีผล สร้างรายได้ก้อนใหญ่ให้เจ้าของ ผู้เป็นแม่จึงคิดและตัดสินใจ กลับสู่บ้านเกิดเพื่อไปเป็นเกษตรกรอย่างเต็มที่ แม้คนเดียวก็ต้องสู้
ในปี 2564 อินทผลัมที่สวนติดผลจำนวนมาก และเป็นสวนแรกๆ ในจังหวัดพิจิตรที่มีผลผลิตแล้วเช่นนี้ จึงทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาซื้อผล ชมสวน และจองต้นกล้า/หน่อจำนวนมาก ทำให้สวนชาละวันเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของผู้คนจำนวนมาก เรียกว่ายอดจองเฉพาะหน่อก็รอกันข้ามปีเลยทีเดียว ที่สำคัญ ราคาขายที่เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยได้สัมผัสถึง จึงทำให้เกิดกระแสความต้องการเป็นอย่างมาก ทั้งออนไลน์ และเดินทางมาเองถึงที่
และจะว่าข่าวร้ายหรือข่าวดีก็ไม่รู้สิ โควิด-19 ทำเอาผู้คนทั้งโลกต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตัวเอง แก้วตา ก็ได้รับผลกระทบอย่างแรง ข่าวลูกสาวอาจต้องยุติบทบาทการเป็นสาวการบินไทยก็ทำให้คิดหนักพอสมควร
“คิดหนักนี่เครียดใช่ไหมครับ”
“ไม่เลยจ้ะ คิดหนักว่าจะรีโนเวทบ้านยังไงดี ลูกสาวจะได้กลับมาอยู่ด้วยแล้ว”
“เสียใจรึ”
“โห! ดีใจสุดๆ ไปเลยจ้ะ มาเลย มาอยู่บ้านเรา มีที่ดิน มีสวน มีต้นไม้ มีผลผลิต จะไปกลัวอะไร”
น้องเบล-สุจีวรรรณ ใจเที่ยงแท้ คือสาวน้อยคนที่เรากล่าวถึง เมื่อโควิดกรายมา เธอได้รับผล กระทบไปด้วย จึงตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตในระยะนี้ หนึ่ง จะหางานใหม่ดีไหม หรือจะกลับไปตั้งต้นกับแม่สักพัก แล้วคำตอบก็ทำเอาแม่ยิ้มหน้าบาน เพราะเธอเลือกกลับมาอยู่กับแม่ ที่บ้านดงกลาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
บ้านไม้สองชั้นหลังโทรมๆ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง มีการปรับแต่ง ต่อเติม เสริมและแต้มสีสัน ชั้นบนเป็นเรือนนอนมีโถงโล่ง ชั้นล่างเป็นครัวและพื้นที่รับแขก ส่วนหนึ่งปรับเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่น้องเบลมีความรู้ในการชงชา-กาแฟมาเป็นอย่างดี อย่าบอกใครนะว่า กาแฟสูตรมะพร้าวน้ำหอมของน้องเบลอร่อยมาก ราคาไม่แพงด้วยนะครับ แก้วละ 20 บาท อิ่มอร่อยไม่แพ้ร้านใหญ่ๆ มีชื่อเลยเชียวแหละ ก็ผมชิมมาแล้วน่ะสิจึงพูดได้เต็มปาก กระซิบนะ อย่าไปบอกใคร
สองแม่ลูกช่วยกันบริหารจัดการทุกงานที่มีที่บ้านและสวน ก็อยู่ในพื้นที่เดียวกันนั่นแหละ ผมเล่าให้ดูงงๆ เล่นไปเท่านั้นเอง ลูกสาวชงชา-กาแฟที่ร้าน แม่เข้าสวนอินทผลัม ตัดแต่งใบ ใส่ปุ๋ย ดายหญ้า พรวนดิน ตรวจดูแมลงศัตรูพืชจะมารังแก และปลูกพืชสวนครัวเสริมระหว่างช่องว่างต้นอินทผลัม ที่เป็นรายได้เสริมเข้ามาได้ทุกวัน ทั้งพริก กะเพรา เพกา ผักบุ้ง และที่สำคัญปลูกยอเก็บใบ
“ไปไงมาไงถึงได้มาปลูกยอเนี่ย”
“แม่เก็บกะเพราส่งแม่ค้าค่ะ แล้ววันหนึ่งแม่ค้าถามว่าไม่มีใบยอมั่งรึ”
“แค่นั้นก็ปลูกเลย”
“ใช่จ้ะ เขารับซื้อทุกวัน เราแค่เก็บล้างทำความสะอาด บรรจุถุงละ 10 โล”
“ราคาเป็นไงหนูเบล”
“โลละ 10 บาทจ้ะ”
“ปลูกเยอะไหมเนี่ย”
“ตอนนี้ที่เก็บใบได้แล้วประมาณ 200 ต้นจ้ะ แต่เราปลูกกันแล้วตอนนี้ 500 ต้น”
พูดถึง ยอ หลายคนอาจเบือนหน้าเพราะไม่สู้กลิ่นที่ค่อนข้างแรง จริงๆ แล้วต้นยอเราใช้กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยายแล้ว สรรพคุณมีมากมาย ที่ผมจำได้คือช่วยขับลมในลำไส้ ช่วยบำรุงธาตุ ทำให้เจริญอาหาร แก้ร้อนใน แก้ตัวเย็น เป็นยาขับระดู เป็นยาระบาย ในตำรายาไทยก็มีการใช้ผลยอเป็นส่วนประกอบอยู่เช่นกัน
ถามว่าแล้วเราใช้ประโยชน์อะไรจากต้นยอได้บ้าง ที่เห็นชัดๆ คือใบครับ ห่อหมกใบยอ แกงปลาดุกใบยอ แกงหมูย่างใบยอ รสขมมันของใบยอทำให้อาหารมีรสชาติที่น่ากินเข้าไปอีก ผลดิบของยอเอามาเป็นส่วนผสมในการทำตำกล้วย วัตถุดิบหลักจะมีกล้วยตานีอ่อน ผลยอ มะเขือขื่น มะยม หรือสับปะรด ตำๆ โขลกๆ ไปตามสูตรของแต่ละคน แต่เชื่อได้เลยว่าอร่อยทุกครก ที่สำคัญเป็นทั้งอาหารว่างและยาสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพร่างกายแน่นอน
“หนูเบลคิดหนักไหม จากสาวออฟฟิศกลับกลายมาเป็นชาวสวนแบบนี้”
“เชื่อว่าทุกคนก็คงเป็นค่ะ ตอนแรกก็คงเป็นช่วงทำใจไม่น้อย แต่เมื่อเราปรับตัวได้แล้ว ทุกอย่างก็เป็นสิ่งที่เราทำเพราะชอบ”
“เก็บใบยอทุกวัน ไม่เบื่อหรือ”
“บางคนอาจมองเป็นรายได้เสริม แต่หนูมองว่านี่คืออีกหนึ่งการทำเกษตรทางเลือกค่ะ คนอื่นมองข้ามแต่หนูว่านี่คือโอกาส”
“กับรายได้ไม่มากนัก”
“ตอนนี้วันละ 10 กิโล กิโลละ 10 บาทก็ได้ 100 บาท หากทั้ง 500 ต้นเก็บได้ก็จะมีรายได้มากขึ้นค่ะ รวมถึงอย่างอื่นอีก ทั้งพริก กะเพรา ผักบุ้ง รวมๆ แล้วเช้าหนึ่งก็หลายเงินไม่น้อยค่ะ”
“ต้องเก็บทุกต้นไหม”
“ไม่จ้ะ สลับต้นเก็บ บริหารให้ดีจะมีเก็บได้ทุกวันค่ะ”
“เรียกว่าติดใจใบยอแล้วสิ”
“เรียกว่า บ้ายอก็ได้ค่ะ”
หากนับรายได้หลักจากการขายผลอินทผลัม รายได้เสริมก็ยังมีการขายหน่อ/ต้นกล้าอินทผลัมอีก ซึ่งหากไม่คิดอะไรมากก็พออยู่ได้สบายแล้ว แต่ก็ยังมีรายได้เสริมอื่น เช่น ร้านกาแฟ เก็บผักส่งแม่ค้าในตลาด โดยเฉพาะใบยอ ใครจะคิดว่าไม้ชนิดนี้จะสร้างรายได้ให้ได้ทุกวันเช่นนี้ ที่สำคัญน้องเบลบอกว่าไม่ได้หยุดอยู่แค่นี้นะ ตลาดออนไลน์คือเป้าหมายต่อไป และจะพัฒนาคุณภาพให้ได้ดีมากกว่านี้ อาจจะได้ใบสวย ใบใหญ่กว่าปัจจุบันก็ได้ นี่แหละครับ คนบ้ายอของผม
สนใจอยากชมสวน หรือซื้อหาผลผลิตก็โทร.ไปที่ 080-162-9894 รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ บอกแล้วไง บ้ายอ 555
