เกษตรกรเมืองระยอง ขายผลสด-แปรรูปสับปะรด ปีละ 100 ตัน ฟันรายได้หลักแสนต่อเดือน

ในช่วงที่สถานการณ์โลกไม่แน่นอน ทั้งสงครามและโรคระบาด ทุกอาชีพที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด ในครั้งนี้ขอพูดถึงอาชีพเกษตร ที่ได้รับผลกระทบทั้งในด้านปัจจัยค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าอาหารสัตว์ ที่ต่างพร้อมใจกันขึ้นราคา สวนทางกับรายได้ที่ต่ำลง เพราะราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ มองไม่เห็นทุน ไม่เห็นกำไร ทางออกเบื้องต้นที่พอจะทำให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ก็คงจะหนีไปพ้นการทำเกษตรสมัยใหม่ หันมาปลูกพืชผสมผสานให้มากขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงการลด ละ เลิก การใช้สารเคมี แล้วมาพึ่งธรรมชาติให้มากขึ้น และที่ขาดไม่ได้เลยคือปรับปรุงต่อยอดการตลาด เพิ่มช่องทางการขายสินค้าจากที่เคยขายผ่านพ่อค้าคนกลางเพียงอย่างเดียว ก็อาจจะต้องปรับมาขายในช่องทางออนไลน์และขายหน้าร้านเองมากขึ้น หรือการแปรรูปก็นับเป็นทางออกที่ช่วยให้เกษตรกรหลายรายเอาตัวรอดและได้ดิบได้ดีกับวิธีการนี้ กลายเป็นเกษตรกรที่ไม่มีหนี้ เป็นเกษตรกรที่มีความสุข เพราะไม่ต้องกังวลกับปัญหาสินค้าล้นตลาดหรือสินค้าราคาตกต่ำอีกต่อไป

คุณจณิกาญจน์ รัชภูมิพิพัฒน์ หรือ พี่อ้อ

คุณจณิกาญจน์ รัชภูมิพิพัฒน์ หรือ พี่อ้อ เจ้าของไร่บ้านอ้อ ตั้งอยู่เลขที่ 39/2 หมู่ที่ 2 ซอยเขาระฆัง ตำบลตาสิทธิ์ อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง อดีตพนักงานบริษัทเอกชน ลาออกมาทำไร่ต่อจากพ่อแม่ที่วางมือแล้ว เปลี่ยนจากการปลูกพืชเชิงเดี่ยวคือ มันสำปะหลัง มาเป็นสวนผสมผสาน ปลูกปาล์มน้ำมัน ยางพารา สับปะรด ในขณะที่มันสำปะหลังก็ยังคงอยู่ แต่ลดพื้นที่การปลูกให้น้อยลง

แปลงปลูกสับปะรดทองระยอง

ปลูกสับปะรดหลากสายพันธุ์
เพื่อศึกษาช่องทางการตลาด

พี่อ้อ บอกว่า หลังจากที่ตนเองลาออกจากงานประจำ จนถึงปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า 9 ปี ที่ได้เข้ามาเป็นเกษตรกร โดยเลือกปลูกสับปะรดสร้างรายได้หลัก เนื่องจากสภาพดิน สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกับการปลูกสับปะรด รวมถึงตลาดโรงงานรับซื้ออยู่ไม่ไกลจากไร่มากนัก ทำให้ตัดสินใจเลือกปลูกสับปะรดได้ไม่ยาก

กำลังปลูกสับปะรดรอบใหม่

ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกสับปะรดประมาณ 100 ไร่ แบ่งปลูกเป็นแปลง แปลงละ 2-20 ไร่ โดยสายพันธุ์ที่ปลูกมีพันธุ์ปัตตาเวีย (ศรีราชา), พันธุ์ทองระยอง และพันธุ์เอ็มดีทู

สับปะรดทองระยอง

สับปะรดแต่ละสายพันธุ์จะมีจุดเด่นจุดด้อยที่แตกต่างกันออกไป ที่ไร่บ้านอ้อใช้ทำการตลาดคือ พันธุ์ทองระยอง เป็นพืช GI ของจังหวัดระยอง มีรสหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ถ้าสุกคาต้นรสชาติจะหวานจนเกือบไม่รู้สึกถึงความเปรี้ยวและมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใครกินก็ติดใจ ซึ่งประสบการณ์ที่คลุกคลีกับสับปะรดมานานเกือบ 10 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่า สับปะรดที่อร่อยที่สุดคือ ผลที่แก่จัดคาต้น ในแต่ละปีสามารถผลิตสับปะรดได้ประมาณ 100 ตัน รวมทุกสายพันธุ์ที่ปลูก

สับปะรดทองระยองไซซ์จิ๋ว

เทคนิคการปลูกสับปะรดให้โดนใจลูกค้าเบื้องต้น

เจ้าของอธิบายถึงเทคนิคการปลูกสับปะรดต่อว่า การปลูกสับปะรดให้ดีต้องเริ่มจากการไถเตรียมดินให้ลึก เตรียมดินให้ดี คัดต้นพันธุ์ให้เสมอกัน ปลูกในระยะห่างระหว่างต้นที่เหมาะสม ใส่ปุ๋ยให้พอดี เน้นว่าให้สับปะรดสุกจัดค่อยเก็บผลขาย เพื่อให้รสชาติที่ดีสุดตามสายพันธุ์

สับปะรดทองระยอง ไร่บ้านอ้อ วางขายที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลระยอง
สับปะรดปัตตาเวีย หวานฉ่ำ หอม อร่อย

โดยปกติแล้วสับปะรดจะออกผลได้ตลอดทั้งปี ปลูกแบบอาศัยน้ำฝนธรรมชาติ แต่ถ้าผลผลิตออกในช่วงฝนแล้งจะต้องให้ระบบน้ำเพิ่มเติม อย่างปีนี้ผลผลิตของที่ไร่จะเริ่มออกตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ยังมีไม่ตลอดเนื่องจากปีที่แล้วมีปัญหาเรื่องแรงงานจึงปลูกได้น้อย แต่ดีตรงมีเครือข่าย ถ้ามีลูกค้าสนใจก็สามารถติดต่อเครือข่ายที่มีผลผลิตให้ได้

“ทองระยอง” เตรียมส่งแม่ค้า

อุปสรรคสำคัญในการปลูกสับปะรด

  1. ปัญหาแรงงาน การปลูกสับปะรดเกือบทุกขั้นตอนต้องใช้แรงงาน ในตอนนี้ยังไม่มีเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่มาใช้ทดแทนแรงงานคนในการหักหน่อหรือปลูกแทนคนได้ ที่ไร่จะแก้ไขโดยการปลูกเป็นแปลงเล็กๆ ใช้คนน้อย แต่ปลูกเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี
  2. ปัญหาของพืชทุกชนิดคือปุ๋ยที่มีราคาแพง ต้องปลูกให้น้อยลง และปรับลดการใช้สารเคมี เพิ่มการใช้ปุ๋ยหมักเองให้มากขึ้น โดยที่ไร่จะใช้ปุ๋ยหมักในขั้นตอนการปลูก แต่การลดปุ๋ยระหว่างให้ผลผลิต จะลดจากการใช้ปุ๋ยเม็ด เป็นปุ๋ยน้ำพ่นใบ ให้ปุ๋ยหมักบ้าง ทำให้ไม่เสียรสชาติ เพราะให้ตอนเมื่อผลสุกเต็มที่คาต้น รสชาติที่ได้เป็นไปตามสายพันธุ์
  3. สับปะรดเป็นพืชที่ออกผลได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีช่วงพีกมากๆ คือช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะเป็นช่วงที่สับปะรดออกเองมากที่สุด ราคาถูกที่สุด แต่ก็เป็นช่วงที่อร่อยที่สุด ออกมาชนกับทุเรียน ทำให้เกิดปัญหาล้นตลาด ที่ไร่ก็จะพยายามไม่ให้สับปะรดออกช่วงนั้น แต่ในบางครั้งก็ไม่สามารถฝืนธรรมชาติได้
แม่ค้ารับไปขาย

เพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูป
“น้ำสับปะรดสกัดเย็น”

ที่ไร่บ้านอ้อ จะเน้นใช้สับปะรดทองระยองเป็นสายพันธุ์หลักในการแปรรูป เนื่องจากสีเข้ม รสจัด แปรรูปออกมาได้สีสวยและอร่อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และอีกปัจจัยคือ พันธุ์ทองระยองเป็นพันธุ์กินสด โรงงานไม่รับซื้อ โดยผลิตภัณฑ์หลักที่ไร่แปรรูปจะเป็นไอศกรีมสับปะรด กับน้ำสับปะรดสกัดเย็น 100 เปอร์เซ็นต์ ทำส่งให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนใกล้ๆ หรือในบางช่วงที่มีเวลาเหลือก็จะทำข้าวเกรียบสับปะรดขึ้นมาขายสร้างรายได้เพิ่มเติม

สับปะรดสกัดเย็น 100 เปอร์เซ็นต์

ในครั้งนี้จะมาแนะนำสูตรการทำ “น้ำสับปะรดสกัดเย็น” แบบง่ายๆ แต่อร่อย ทำกินได้ ทำขายดี

  1. เลือกสับปะรดทองระยองที่สุกเต็มผล
  2. ปอกเปลือกสับปะรดออก แล้วหั่นเป็นชิ้นๆ
  3. นำสับปะรดที่หั่นเสร็จแล้วไปใส่เครื่องคั้นผลไม้สกัดเย็น
  4. เติมเกลือลงไปครึ่งช้อนชาต่อน้ำสับปะรด 1 ลิตร คนให้เข้ากัน
  5. บรรจุใส่ขวดแช่เย็นพร้อมดื่มหรือใส่แก้วเติมน้ำแข็งพร้อมเสิร์ฟ

หอมหวาน กรอบอร่อย ไม่กัดลิ้น

แบ่งสัดส่วนการตลาดให้ชัดเจน
ตัวช่วยผ่านพ้นทุกวิกฤต

ในส่วนของปัญหาด้านการตลาด พี่อ้อ บอกว่า ในตอนที่ตนเองปลูกสับปะรดพันธุ์ทองระยองครั้งแรก ขายไม่เป็นเลย และไม่รู้ด้วยว่าสับปะรดจะสุกเมื่อไหร่ กว่าจะรู้ตัวอีกทีสับปะรดก็สุกทั้งแปลงแล้ว ต้องแก้ปัญหาด้วยการเอาไปฝากเพื่อน ฝากผู้ใหญ่ที่นับถือ รวมถึงพ่อกับแม่ช่วยกันเอาไปขายที่ตลาด ซึ่งผลจากการที่นำเอาไปขายที่ตลาดทำให้ได้ลูกค้าประจำกลับคืนมา และทำให้ได้พบคำตอบอีกข้อว่า “สับปะรดที่สุกคาต้นเป็นช่วงที่อร่อยที่สุด” และสามารถอยู่ได้นานกว่าพันธุ์ศรีราชา โดยจะนำเอาส่วนของผลที่สุกเกินไป นำมาคั้นน้ำสกัดเย็นใส่ขวด จะได้น้ำสับปะรดที่อร่อยมากๆ ทำให้น้ำสับปะรดสกัดเย็นกลายเป็นสินค้าหลักของบ้านอ้อไปโดยปริยาย

ไอศกรีมสับปะรด

และก็มาถึงวิกฤตใหญ่ระดับโลกคือสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ไร่ก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่น้อย ตลาดทุกตลาดปิดหมด ลูกค้าจากต่างจังหวัดยกเลิกออร์เดอร์สินค้าทั้งหมด ที่ไร่ต้องปรับตัวเอาตัวรอดด้วยการขายออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการโพสต์ผลผลิตทุกรูปแบบที่สวนมี ทั้งผลสด แปรรูป ลงในเฟซบุ๊ก : ไร่บ้านอ้อ สับปะรดผลสด กระแสตอบรับดีมาก ทั้งเพื่อนๆ และเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ เข้ามาซื้อแล้วแชร์ต่อออกไป ทำให้ผลผลิตขายหมดและยังช่วยคนอื่นขายได้ด้วย

ส่งสินค้านอกสถานที่

กลายเป็นประสบการณ์ที่ทำให้แข็งแกร่งจากการเอาปัญหาที่พบเจอในแต่ละวันมาพัฒนาต่อยอดด้วยการแบ่งสัดส่วนการตลาดอย่างชัด คือ 1. สับปะรดพันธุ์ศรีราชา ขายส่งโรงงาน 2. สับปะรดทองระยอง ขายส่งให้แม่ค้า 50 เปอร์เซ็นต์ ขายปลีกลูกค้านัดรับ และออกบู๊ธงานต่างๆ 20 เปอร์เซ็นต์ ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 7-12 บาท ถ้าเป็นไซซ์จิ๋ว ราคาลูกละ 3 บาท 3. ขายออนไลน์ 20 เปอร์เซ็นต์ ขายออนไลน์เป็นกล่อง กล่องละ 220, 350, 450 บาท และ 4. แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ในแต่ละเดือนสามารถสร้างรายได้จากการขายสับปะรดเฉลี่ยเดือนละประมาณ 100,000-200,000 บาทก่อนหักค่าใช้จ่าย

บรรจุใส่กล่องส่งลูกค้าต่างจังหวัด

“ปัจจุบันการตลาดของที่ไร่อยู่ตัวแล้ว เป็นเพราะการปรับตัวไปตามสถานการณ์ไม่หยุดนิ่งรอปัญหา แต่เป็นการวิ่งไปให้ไกลจากปัญหา ปลูกและบังคับผลให้ออกเท่าที่จะสามารถขายได้ มีฐานลูกค้าที่เป็นแม่ค้า มีลูกค้าออนไลน์ที่สั่งประจำ มีลูกค้าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมใกล้บ้าน แล้วก็มีออกบู๊ธที่หน่วยงานต่างๆ จัดให้เป็นครั้งคราว มีไม่มาก แต่สับปะรดเราก็ไม่เหลือทิ้ง มีรับจากสวนเครือข่ายช่วยกันขายได้บ้าง และในบางครั้งก็มีวางขายที่ตลาดจริงใจของท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างแม็คโครก็ให้โอกาสไปขายด้วย แต่ด้วยปัญหาแรงงานปีที่แล้ว ทำให้ไม่มีผลผลิตไปส่งได้อย่างต่อเนื่อง ในอนาคตจะมีสับปะรดทองระยองวางขายในห้างแม็คโครอีกแน่นอนค่ะ”

เป็นแปลงต้นแบบการเพิ่มประสิทธิภาพ การผลิตสับปะรดคุณภาพ

แนะเกษตรกรชาวสวนสับปะรด

สำหรับเกษตรกรชาวสวนสับปะรดที่ปลูกมานานแล้ว มีต้นทุนที่ดีกว่า ด้านความรู้ ประสบการณ์ เครื่องมือ หน่อพันธุ์ ต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์ ถ้าลดการผลิตน้อยลงก็ต้องเพิ่มประสิทธิภาพให้มากขึ้น หาตลาดที่ได้ราคามากขึ้น ปัจจุบันมีช่องทางการขายมากขึ้น ถ้าเราทำให้อร่อย ขายเองได้ จะได้ราคากว่าขายส่ง ลูกค้าได้สับปะรดที่อร่อย แล้วเขาจะกลับมาซื้ออีก คนปลูกได้ราคาที่น่าพอใจ จะทำให้มีลูกค้าต่อเนื่อง และประเด็นสำคัญคือการแปรรูปให้ได้ เพราะนอกจากการเพิ่มมูลค่าแล้ว ยังช่วยยืดอายุ ส่งทางไกลได้สะดวก เพิ่มกลุ่มลูกค้าได้อีกมากมาย” พี่อ้อ กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดการปลูกและแปรรูปสับปะรดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 083-782-6993 หรือติดต่อได้ที่ช่องทางเฟซบุ๊ก : ไร่บ้านอ้อ สับปะรดผลสด