| เผยแพร่ |
|---|
วันที่ 9 มิถุนายน 2565 หรืออีกเพียงไม่กี่วันข้างหน้า ก็จะมีการปลดล็อก ‘กัญชา’ พ้นจากการเป็นยาเสพติด เหตุการณ์นี้นับเป็นก้าวประวัติศาสตร์ทั้งในด้านการแพทย์ และเศรษฐกิจ เพราะกัญชาถือเป็นพืชมากคุณประโยชน์ ที่สามารถนำมาทำเป็นยาบรรเทารักษาอาการเจ็บป่วย ทั้งยังนำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างมูลค่าเพิ่มได้มหาศาล ซึ่งหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้นำกัญชามาใช้ประโยชน์ก็คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นั่นเอง
เรื่องนี้ นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขได้ย้ำถึงการใช้กัญชา-กัญชง เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี แม้ทุกส่วนของพืชทั้ง 2 ชนิด จะไม่เป็นยาเสพติด ประชาชนนำไปใช้ประโยชน์ได้ แต่การนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ยังต้องได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น หากผลิตเป็นอาหารต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. อาหาร พ.ศ. 2522 ผลิตเป็นยาต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 และผลิตเครื่องสำอางต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. เครื่องสำอาง พ.ศ. 2558 เป็นต้น
“เราขับเคลื่อนกัญชามาอยู่ในจุดที่พลิกประวัติศาสตร์อีกหน้าไปแล้ว ฉะนั้น ขอให้ทุกคนเข้าใจว่า ต้องใช้กัญชาอย่างเข้าใจ เราจะไม่ดึงกัญชากลับไปถูกล็อคเหมือนเดิม ต้องเน้นย้ำเรื่องการสร้างความรู้ให้ประชาชน
“ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้าเชิงรุกในหลายเขตสุขภาพ เช่น มีการจัดมหกรรมกัญชาในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น” รองนายกฯ และ รมว. สาธารณสุข เผย
ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ (สสจ. บุรีรัมย์) เตรียมจัด ‘มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร’ ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ในวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565 ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต อ.เมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกัญชา-กัญชง แก่ประชาชนในมิติต่างๆ ตอกย้ำความสำเร็จ ‘มหกรรมกัญชากัญชง 360 องศา เพื่อประชาชน’ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในปี 2564
“งานนี้นับเป็นงานใหญ่ครั้งแรกหลังปลดล็อกกัญชา-กัญชง ภายในงานจะมีการแจกต้นกล้ากัญชา 1,000 ต้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการกัญชา 1 ล้านต้น พัฒนาสายพันธุ์โดยกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ประชาชนปลูกในครัวเรือน เพื่อใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ รวมถึงส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกตามมาตรฐาน GAP เพื่อพัฒนาเป็นพืชเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้เกษตรกร และนำรายได้เข้าสู่ประเทศ” นายอนุทินเผย
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวในการแถลงข่าว ‘มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร’ ว่า นโยบายกัญชาเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่กระทรวงสาธารณสุขพยายามดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ ให้เกิดการส่งเสริมสุขภาพในการรักษาโรค ซึ่งกระทรวงฯ ได้ดำเนินการปลดล็อคกัญชา เพื่อให้สามารถใช้ได้อย่างถูกกฎหมาย ดังนั้น ประชาชนต้องได้ความรู้เรื่องการใช้กัญชา โดยได้ดำเนินการให้ความรู้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับบุคคลที่ใช้กัญชาเพื่อสุขภาพ รวมทั้งระดับเศรษฐกิจ เพราะเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้ และสามารถใช้ในครัวเรือนได้เช่นกัน
“วันที่ 10-12 มิถุนายนนี้ ที่จะมีมหกรรมกัญชา ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะช่วยสร้างความรับรู้ให้ประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งกระทรวงเองก็จะเดินหน้าสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ” นพ.เกียรติภูมิย้ำ
‘มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร’ ไม่ได้มีไฮไลต์แค่การแจกต้นกล้ากัญชาฟรี! วันละกว่า 300 ต้น รวมทั้งหมด 1,000 ต้นเท่านั้น แต่ยังจัดเต็มสาระความรู้เกี่ยวกับกัญชา-กัญชง มากมาย ในรูปแบบนิทรรศการ ผลงานวิจัยและนวัตกรรม ชวนทำความรู้จักแอปพลิเคชัน ‘ปลูกกัญ’ โดย อย. ที่ให้ประชาชนจดแจ้งการปลูกกัญชาได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ทั้งยังมีตำรับยาที่สกัดจากกัญชา ผลิตภัณฑ์จากกัญชามากมายให้ชิม-ช้อป รวมทั้งคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการ ที่เปิดให้บริการตรวจรักษาฟรีอีกด้วย
ขาดไม่ได้! คือเวทีเสวนาตลอด 3 วัน ที่ระดมกูรูผู้คลุกวงในกัญชา-กัญชง และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ระดับเบอร์ต้นของประเทศ มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมมองหาช่องทางต่อยอดสู่อนาคตอันสดใสของกัญชา-กัญชง ทั้งในแง่การเกษตร การแพทย์ เศรษฐกิจ/ธุรกิจ กฎหมาย นวัตกรรม เรียกว่ามางานเดียว ครบจบทุกด้านเกี่ยวกับพืชมาแรงตัวนี้อย่างแท้จริง!
วันที่ 10-12 มิถุนายนนี้ เคลียร์คิวให้ว่าง แล้วไปเปิดประสบการณ์ทำความรู้จักโลกของกัญชา-กัญชง ให้มากขึ้นกันได้เลย! ใน ‘มหกรรม 360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร’ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต งานนี้เข้าชมฟรี แล้วเจอกัญ!
