อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ลงพื้นที่จังหวัดนครพนมและบึงกาฬ เยี่ยมชมผลสำเร็จโครงการส่งเสริมอาชีพการเกษตร

อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์นำทัพคณะสี่อมวลชนลงพื้นที่จังหวัดนครพนมและบึงกาฬ ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้า การส่งเสริมอาชีพและการตลาดโดยใช้ระบบสหกรณ์เพื่อสนับสนุนเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ คทช. อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ตรวจเยี่ยมความหน้าของการส่งเสริมอาชีพและสนับสนุนด้านการตลาดให้กับเกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯ ในเขตตำบลอุ่มเหม้า อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายในโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) จำนวน 1,524 ไร่ มีเกษตรกรได้รับจัดสรรที่ดิน 198 ราย จำนวน 210 แปลง และได้มีการจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด เมื่อปี 2558 เพื่อบริหารจัดการผลผลิตและดูแลเกษตรกรในพื้นที่ด้านการส่งเสริมอาชีพ การจัดอบรมให้ความรู้ด้านการเกษตร จัดหาปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยลดต้นทุน และส่งเสริมช่องทางตลาด

ปัจจุบันมีสมาชิกสหกรณ์แห่งนี้จำนวน 136 ราย โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สนับสนุนก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ให้กับสหกรณ์ เพื่อใช้ในการจัดอบรมและจัดกิจกรรมประชุมกลุ่มสมาชิก พร้อมทั้งจัดสรรเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 3.1 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์ไปปล่อยกู้แก่สมาชิกได้นำไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพ

นางจันทร์ชนก ระเวงวรรณ เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ คทช. ธาตุพนม เป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ยึดอาชีพทำเกษตรผสมผสาน โดยได้รับจัดสรรที่ดินทำกินจำนวน 14 ไร่ แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งทำนา และขุดบ่อเลี้ยงปลานิล 5,000 ตัว จำนวน 2 บ่อ เมื่อสิ้นฤดูเกี่ยวข้าว ได้ปรับเปลี่ยนนาข้าวเป็นพื้นที่ปลูกดาวกระจายเพื่อจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ให้กับสมาชิกและพื้นที่อีกส่วนหนึ่งได้ปลูกผักสวนครัวผสมผสาน เลี้ยงกระบือและเลี้ยงไก่พื้นเมือง

โดยได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 170,000 บาท

ด้าน นายวิภพ คำมุงคุณ เกษตรกรอีกหนึ่งรายที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด และอาศัยอยู่ในพื้นที่ คทช. ธาตุพนม มีที่ดินทำกิน 15 ไร่ ยึดอาชีพหลักทำสวนยางพารา และมีอาชีพเสริมเลี้ยงโค-กระบือ เลี้ยงไก่พื้นเมือง และทำนาปลูกข้าวเพื่อเก็บผลผลิตไว้บริโภค

โดยสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนมได้ประสานเจ้าหน้าที่จากเกษตรจังหวัดและปศุสัตว์จังหวัดเข้ามาให้คำแนะนำเรื่องการประกอบอาชีพ เกษตรกรรายนี้ได้กู้ยืมเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ผ่านสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด ตั้งแต่ปี 2560 จำนวน 40,000 บาท เพื่อเป็นทุนและจัดหาปัจจัยการผลิต ในการประกอบอาชีพ

ทำให้ปัจจุบันนายวิภพมีรายได้จากการทำสวนยางพาราและเลี้ยงโค-กระบือ ปีละประมาณ 340,000 บาท กลุ่มอาชีพทำเกษตรผสมผสานเป็นอาชีพทางเลือกที่สหกรณ์เข้ามาส่งเสริมให้กับสมาชิก ปัจจุบันมีสมาชิก 50 ราย สหกรณ์ได้แนะนำให้สมาชิกปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เหมาะสมกับการปลูกพืชผักแต่ละชนิด เพื่อสร้างรายได้เสริม สามารถดำเนินการได้ในบริเวณพื้นที่สวนยางพารา และพื้นที่ส่วนที่เหลือจากการปลูกยางพารา มีการอบรมความรู้การทำเกษตรอินทรีย์และการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรให้คุ้มค่า และขอการรับการสนับสนุนเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เพื่อนำมาให้สมาชิกกู้ยืมไปเป็นเงินทุนขุดสระน้ำในไร่นารายละ 50,000 บาท และได้ส่งเสริมให้ใช้หลักตลาดนำการผลิต โดยให้สหกรณ์เป็นผู้หาช่องทางการตลาดเพื่อการวางแผนการผลิตให้แก่สมาชิก ให้ความรู้ด้านการเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร การพัฒนาสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์เพื่อเป็นช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตของสมาชิกและมีการเชื่อมโยงเครือข่ายกับสหกรณ์อื่นๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับเกษตรกรในอำเภอเซกาอีกด้วย

ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการทำโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกสหกรณ์ โดยการส่งเสริมอาชีพการทำเกษตร ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ปี 2564 มีรายได้รวมเฉลี่ย 56,474 บาทต่อเดือนต่อคน และสามารถแก้ไขปัญหาสมาชิกสหกรณ์ที่มีหนี้ค้างนาน และผิดนัดชำระหนี้คืนสหกรณ์ได้ จาก 150 ราย สามารถชำระหนี้ได้ 118 ราย จำนวนรวม 10,295,035.93 บาท คิดเป็นร้อยละ 85.68 ของหนี้ที่ค้างชำระ

ทำให้สหกรณ์ลดค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้ที่ผิดนัดชำระ อีกทั้งสหกรณ์มีผลประกอบการดีขึ้น มีความมั่นคงทางการเงินและมีกำไรเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.66 ในปี 2563 ส่งผลให้สหกรณ์มีเงินทุนหมุนเวียนและมีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นเฉลี่ย เดือนละ 7,168,020.61 บาท ทุนดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.58 สหกรณ์สามารถบริการสมาชิกได้มีประสิทธิภาพและสมาชิกสหกรณ์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้ชีวิตที่มีความสุขและเกิดความช่วยเหลือซึ่งกันและกันของคนชุมชน ทำให้เป็นสังคมที่มีความเข้มแข็ง นอกจากนี้ สหกรณ์การเกษตรเซกา จำกัด ได้รับการคัดเลือกให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสหกรณ์ต้นแบบในการขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และได้รับรางวัลจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในปี 2564 ที่ผ่านมา