หนุ่มปทุมฯ ทำธุรกิจหญ้าปูสนาม ปลูกหญ้านวลน้อยเป็นหลัก ตลาดต้องการสูง รายได้ดีต่อเนื่อง

การทำไร่หญ้า หรือการปลูกหญ้าเพื่อจำหน่าย นับเป็นอีกหนึ่งอาชีพทำเงินได้เป็นอย่างดี โดยแหล่งผลิตหญ้าปูสนามที่สำคัญเกือบทั้งหมดจะอยู่ในพื้นที่มีนบุรี, จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนครนายก เนื่องด้วยสภาพพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม ประกอบกับการเป็นแหล่งซื้อขายต้นไม้ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงง่ายต่อการติดต่อซื้อขาย ถ้าหากใครที่ต้องการจัดสวน ปูสนาม ก็ต้องนึกถึงแหล่งผลิตที่นี่ แต่การปลูกหญ้าปูสนาม ยังเป็นอาชีพที่ไม่ใช่ใครทำก็ได้ เนื่องจากต้องใช้พื้นที่เยอะในการปลูกขยายพันธุ์ และต้องอาศัยประสบการณ์ ความชำนาญของทั้งเจ้าของธุรกิจและคนงานอยู่มากพอสมควร ถึงจะประสบความสำเร็จได้ แต่ถ้าท่านใดสามารถก้าวข้ามผ่านข้อจำกัดเหล่านี้ไปได้ การทำธุรกิจหญ้าสนามถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมที่น่าสนใจไม่น้อย

คุณมูฮัมหมัดศอดิก ประดับญาติ หรือ บังหมัด

คุณมูฮัมหมัดศอดิก ประดับญาติ หรือ บังหมัด เจ้าของสวนประดับสกุล พันธุ์ไม้ ไร่หญ้า ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 35/5 หมู่ที่ 4 คลองสิบสาม ซอยประดับญาติ ตำบลบึงคอไห อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี Young Smart Farmer รุ่นใหม่ไฟแรง ที่ยึดอาชีพการทำหญ้าปูสนามมานานกว่า 6 ปี พร้อมกับการทำไทรช้อนเงินช้อนทองเสียบยอด เป็นอาชีพเสริมฟันรายได้ต่อเดือนไม่น้อย

พื้นที่ทำไร่หญ้าของบังหมัด หญ้าสีเขียวสวย มองแล้วสบายตา

บังหมัดเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการก้าวเข้าสู่วงการปลูกหญ้าปูสนามให้ฟังว่า การปลูกหญ้าปูสนามเกิดขึ้นหลังจากที่ตนเองเรียนจบจากต่างประเทศ จากนั้นได้แต่งงานมีครอบครัว ซึ่งธุรกิจหญ้าปูสนามเป็นธุรกิจที่ครอบครัวภรรยาแนะนำสนับสนุน โดยมีพี่ชายของภรรยาประกอบอาชีพนี้อยู่ และได้ให้คำปรึกษาเรื่องการทำไร่หญ้ามาตลอด ประกอบกับพื้นฐานที่บ้านคุณพ่อและญาติพี่น้องคลุกคลีอยู่ในวงการเกษตรปลูกไม้ประดับเป็นอาชีพมาก่อนแล้ว ตนเองเริ่มทำมาตั้งแต่อายุ 12 ปี เริ่มจากการทำต้นไม้ประดับไทรเสียบยอดช้อนเงินช้อนทอง ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากคุณพ่อและคุณลุง จนทุกวันนี้ผ่านมา 18-19 ปี ไทรเสียบยอดช้อนเงินช้อนทองก็ยังได้รับความนิยม ส่วนการปลูกบอนไซทำด้วยใจรัก ตนเองจึงเลือกที่จะทำทั้งสองอย่างด้วยใจรักควบคู่ในการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวให้มั่นคง

ถึงกำหนดเวลาแซะหญ้าขาย

“หญ้านวลน้อย” สายพันธุ์หลักสร้างรายได้
ปลูกง่าย ตลาดต้องการสูง จัดเป็นหญ้าอเนกประสงค์

บังหมัด บอกว่า การทำไร่หญ้าของตนเองจะเน้นปลูกหญ้านวลน้อยเป็นหลักเพียงสายพันธุ์เดียว เพราะเป็นหญ้าสายพันธุ์ที่ปลูกและดูแลง่าย ทนทุกสภาพอากาศ ทนต่อการเหยียบย่ำ ตลาดมีความต้องการสูง ใช้งานได้หลากหลาย เช่น นำไปปูสนามกีฬา สนามเด็กเล่น สวนสาธารณะ สวนหย่อมบริเวณบ้าน สนามกอล์ฟ เป็นต้น หากนำมาเปรียบเทียบกับหญ้ามาเลเซียที่ใช้ประโยชน์ได้เหมือนกัน แต่มีการดูแลที่แตกต่างกันคือ หญ้ามาเลเซีย เป็นหญ้าที่ต้องการน้ำอย่างเพียงพอหรือดินมีความชุ่มชื้นเสมอ ควรปลูกไว้ในสถานที่มีแดดรำไร หรือถ้าหากเป็นหญ้าพาสพาลั่ม เป็นหญ้าสายพันธุ์ที่สนามฟุตบอลระดับโลกไว้วางใจ ใช้ปูสนาม ให้ความสวยงาม เดินแล้วนุ่มเท้า และยังช่วยลดการบาดเจ็บของนักกีฬาได้ แต่ยังไม่ได้รับความนิยมในไทยเท่าที่ควรเนื่องจากมีราคาค่อนข้างสูง เพราะต้องใช้ความพิถีพิถันในการปลูกและดูแลมากเป็นพิเศษ

คนงานช่วยกันแซะหญ้าอย่างขยันขันแข็ง

โดยปัจจุบันมีพื้นที่ทำนาหญ้าทั้งหมด 8 ไร่ แบ่งปลูกเป็น 4 ล็อก ล็อกละ 1,200-1,400 ตารางเมตร ในแต่ละล็อกหญ้าจะออกมาไม่พร้อมกันเป็นการวางแผนการวางเพื่อให้มีหญ้าขายได้ตลอดทั้งปี หรือถ้ามีการสั่งจองล่วงหน้าก็สามารถวางแผนให้หญ้าออกจำหน่ายได้พร้อมกัน

วางเรียงกันเป็นชั้น เตรียมส่งให้ลูกค้า

การเตรียมพื้นที่ปลูกหญ้า

สำหรับการทำไร่หญ้าครั้งแรก บังหมัด บอกว่า อาจจะต้องใช้ต้นทุนสูงในการปรับหน้าดินให้เสมอกันและดินต้องแน่น น้ำอย่าให้ขาด แต่ถ้าผ่านครั้งแรกไปได้ครั้งต่อไปก็ไม่มีอะไรมาก

ต้องใช้คนงานที่มีประสบการณ์ ถึงจะได้หญ้าแผ่นสวย

“ในแต่ละครั้งที่เราแซะหญ้าไปขาย เราจะเหลือหญ้าส่วนหนึ่งเก็บไว้เพื่อทำการขยายพันธุ์ในครั้งต่อไป ซึ่งก่อนที่จะเริ่มดำหญ้า เราจะต้องล้างทำความสะอาด ฉีกเศษหญ้าเก่าออกให้หมด ล้างทำความสะอาดพื้นจนมั่นใจว่าสะอาดพอแล้ว จากนั้นจะใช้คนงานฉีกหญ้าเป็นแผ่นเล็กๆ มาดำ เรียกว่าการดำหญ้า โดยในระหว่างการฉีกแปะหญ้า จะมีการเปิดน้ำหล่อไปด้วย ทีนี้หลังจากดำหญ้าเสร็จจะเป็นขั้นตอนการขึ้นเลน คือการดูดเลนขึ้นมารดหญ้า เพื่อให้หญ้ายึดเกาะติดกับพื้น แล้วตากเลนทิ้งไว้ 1 วัน แล้วรดน้ำในวันถัดมา เพราะถ้ารดน้ำในวันเดียวกัน น้ำจะชะล้างเอาเลนออกไปหมด”

หญ้า 1 แผ่น เท่ากับครึ่งตารางเมตร

การดูแลใส่ปุ๋ย พื้นที่ปลูกประมาณ 1,400 ตารางเมตร ใช้ระยะเวลาในการปลูกประมาณ 40 วัน ถึง 1 เดือน เฉลี่ยค่าปุ๋ยประมาณ 3,000 กว่าบาทต่อ 1 ล็อก ซึ่งในระยะเวลาก่อนที่จะแซะหญ้าขายได้จะมีการตัดใบ 2 ครั้ง และในเรื่องของการหว่านปุ๋ยจะหว่านทั้งหมด 3 ครั้ง

ครั้งที่ 1 หลังจากการขยายพันธุ์เสร็จ 1-2 วัน เริ่มใส่ปุ๋ยครั้งแรก

ครั้งที่ 2 นับไปอีก 10 วัน เป็นช่วงตัดใบครั้งแรก พร้อมกับการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 2

ครั้งที่ 3 นับไปอีก 10 วัน เป็นช่วงตัดใบครั้งที่ 2 พร้อมกับการใส่ปุ๋ยครั้งที่ 3

ฉีกหญ้าเป็นแผ่นเล็กๆ มาดำ เรียกว่าการดำหญ้า

โดยปุ๋ยที่ใส่จะมีอยู่ 2 สูตรหลักๆ คือ ปุ๋ยยูเรีย กับปุ๋ยสูตร 18-4-5 ครั้งละประมาณครึ่งกระสอบ ในช่วงนี้ปุ๋ยยูเรียมีราคาแพงอาจจะแบ่งใส่เป็น 3 ส่วน ให้ได้ 3 ครั้งต่อ 1 กระสอบ นำปุ๋ยทั้ง 2 สูตรมาผสมกันแล้วหว่านให้ทั่ว

ส่วนปุ๋ยเกล็ด 25-5-5 ใช้ผสมน้ำฉีดในช่วงหลังตัดใบครั้งที่ 2 เป็นสูตรเฉพาะของที่ไร่ เพื่อเป็นการบำรุงให้หญ้ามีความเขียว สวยงาม ก่อนที่จะจำหน่าย

รับจ๊อบจัดสวนนอกสถานที่

ระบบน้ำ ให้ดูจากสภาพอากาศเป็นองค์ประกอบ หากวันไหนสภาพอากาศค่อนข้างร้อน ฝนไม่ตก จะรดน้ำวันละ 3 ครั้ง ด้วยระบบน้ำสปริงเกลอร์ และพอถึงช่วงใกล้ครบกำหนดก่อนแซะหญ้าขายประมาณ 1 อาทิตย์ ให้งดน้ำ 1-2 วัน เพื่อไม่ให้หญ้าพุ่งจนเกินไป ซึ่งถ้าหากวันที่แซะหญ้าแดดแรงไป ให้โชยน้ำสักหน่อยเพื่อให้แซะหญ้าได้ง่ายขึ้น

โรคแมลง จะเจอหนอนที่มากัดกินหญ้า พบมากในช่วงฤดูหนาว หรือมีวิธีการสังเกตง่ายๆ คือถ้ามีนกลงมาเมื่อไหร่ แปลว่ามีหนอน ที่ไร่จะป้องกันและกำจัดด้วยการผสมฮอร์โมนฉีดพ่น

ราคาขายหญ้าต่อ 1 ตารางเมตร ขึ้น-ลง ตามกลไกของตลาด ต้องดูสถานการณ์ตลาดกลางประกอบว่าความต้องการของหญ้ามีมากน้อยแค่ไหน ถ้ามีความต้องการของตลาดมาก หญ้าอาจจะหาได้ยากขึ้น ราคาหญ้าก็จะปรับสูงขึ้นตาม หรือถ้าช่วงไหนหญ้าล้น ติดช่วงเทศกาลราคาก็จะปรับลดลงมา

เจ้าของลงมือจัดสวนให้ลูกค้าเองกับมือ

“ในช่วงเทศกาลเช่นเดือนเมษายน คือคนหยุดงานพักผ่อน ไปเที่ยวออกต่างจังหวัด ถ้าเกิดไร่ไหนมีหญ้าหลงเหลืออยู่ในช่วงนี้ ราคาหญ้าก็อาจจะดรอปลงมา ซึ่งถ้าหากสวนไหนขายหญ้าในไร่เพียงอย่างเดียว ไม่รับจัดสวน ไม่รับปูสนาม ทุนกำไรก็ได้ไม่มาก สมมุติว่าหญ้า 1 ล็อก มีเนื้อที่ใช้ขยายพันธุ์หญ้าอยู่ 1,900 ตารางเมตร เราสามารถที่จะขายหญ้าในล็อกนี้ได้เพียงแค่ 1,400 ตารางเมตร ส่วนอีก 500 ตารางเมตร เราจะเก็บไว้เป็นหญ้าพันธุ์ เพื่อที่จะขยายพันธุ์ในครั้งถัดไป แล้วในขั้นตอนตั้งแต่การดำหญ้าจนถึงขั้นตอนแซะหญ้า มันจะมีงบลงทุน ถ้าในตอนนั้นขายหญ้าได้ตารางเมตรละ 15 บาท จากในไร่ 1,400 ตารางเมตร จะตกที่ 21,000 บาท หักต้นทุนออกไป 10,000 บาท ในเรื่องของค่าดูแลของคนงาน จะมีค่าดูแลตกตารางเมตรละ 1 บาท แล้วจะมีค่าแซะหญ้าตารางเมตรละ 2.50 บาท ค่าปุ๋ยต่อ 1 ล็อก อีกประมาณไร่ละ 3,000 กว่าบาท”

ลูกค้าประจำเข้ามารับหญ้าถึงในไร่

ปัจจุบัน ราคาขายในไร่ อยู่ที่ประมาณ 15-16 บาทต่อ 1 ตารางเมตร หญ้า 1 แผ่นจะมีความกว้าง 50×100 เซนติเมตร 2 แผ่นเท่ากับ 1 ตารางเมตร เฉลี่ยแล้วราคาจะไม่ต่ำกว่า 11 บาท และราคาสูงสุดที่เคยได้ 18-19 บาทต่อ 1 ตารางเมตร หากคิดเป็นรายได้ในราคาตารางเมตรละ 15 บาท หญ้า 1 ล็อก จะได้กำไรล็อกละ 10,000 บาท หากขายได้พร้อมกัน 2 ล็อก กำไรก็ 20,000 บาท ถือเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจสำหรับคนที่มีพื้นที่ และมีคนงานที่ไว้วางใจได้ เพราะเจ้าของสวนจะมีเวลาไปทำงานเสริมอย่างอื่น หรือถ้าท่านใดอยากทำเป็นอาชีพหลักก็ยิ่งดี เพราะจะหมายความว่าต้นทุนค่าแรงงานก็จะต่ำลง กำไรจะเพิ่มขึ้น

“ไทรเสียบยอดช้อนเงินช้อนทอง” อีกหนึ่งงานสร้างรายได้ด้วยใจรัก

การตลาด หาได้ไม่ยากเนื่องจากที่นี่มีข้อได้เปรียบตรงที่ร้านตั้งอยู่ในละแวกของคนทำไร่หญ้า และคนจัดสวนอยู่แล้ว การหาตลาดจึงไม่ใช่เรื่องยากอาศัยช่องทางจากคนรู้จักบ้าง คอนเน็กชั่นจากญาติพี่น้องที่มีอยู่แล้วบ้าง ซึ่งการทำนาหญ้าไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้ เมื่อถึงเวลาหญ้าออก จะมีคนติดต่อมาตลอด เพราะความต้องการของตลาดมีอยู่เรื่อยๆ รวมถึงปัจจุบันเป็นยุคของสื่อโซเชียล ทางสวนก็จะใช้โอกาสจากช่องทางนี้ในการหาลูกค้าเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง

อบรมเครือข่ายยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์จังหวัดปทุมธานี

เกษตรกรมือใหม่อยากลงทุน
ต้องเตรียมตัวอย่างไร

ต้องมีงบลงทุนก่อนเป็นอันดับแรก เพราะไร่หญ้าปกติที่ทำกันทั่วไป เดิมเป็นผลพลอยมาจากการทำนาครั้งเก่า เป็นพื้นที่นาเก่า ซึ่งถ้าหากเป็นพื้นที่นาเก่าหรือว่าเป็นพื้นที่ที่เคยทำไร่หญ้ามาก่อนงบลงทุนจะไม่มาก อาจจะเป็นการเซ้งต่อ แต่ถ้าเป็นไร่หญ้าเก่าจะยิ่งดีตรงที่ว่าอาจจะไม่ต้องวางระบบน้ำใหม่ หรือค่าอุปกรณ์ อย่างอื่นจิปาถะ หากใครอยากเป็นรุ่นบุกเบิก คงต้องมาเรียนรู้การปลูกหญ้าก่อน คุณต้องมีทีมงานที่เป็นงานเพราะว่าการทำไร่หญ้าต้องอาศัยประสบการณ์  ไม่ใช่ใครทำก็ได้ คนทำต้องมีความรู้เรื่องการขยายพันธุ์หญ้า แม้แต่การแซะหญ้ามันก็ต้องมีความรู้ในการแซะ แซะยังไงให้ออกมาเป็นแผ่นสวยงาม ส่วนเรื่องการตลาดถ้ามือใหม่ไม่รู้จักใครเลยก็ต้องใช้เวลาในการสร้างคอนเน็กชั่นสักพัก แต่จะไม่ได้ยากเหมือนสมัยก่อนเพราะสมัยนี้สื่อโซเชียลพัฒนาไปไกล ก็ให้ใช้ช่องทางตรงนี้ในการโปรโมตตัวเองไป” บังหมัด กล่าวทิ้งท้าย

เพาะเลี้ยงบอนไซด้วยใจรัก มานานกว่า 7 ปี

ท่านใดสนใจหญ้าปูสนามหรือสนใจสอบถามรายละเอียดการทำธุรกิจหญ้าปูสนามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 098-369-9704 หรือติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : สวนประดับสกุล พันธุ์ไม้ ไร่หญ้า และ PDS Bonsai บอนไซประดับสกุล

……………………………………………………

สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิงก์ https://shorturl.asia/0zJwQ – Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354