จากที่ดินทำกินสู่โรงสีข้าวสหกรณ์ ฟื้นชีวิตสมาชิกสหกรณ์นิคมแม่สอด

สหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด มีสมาชิก จำนวน 2,541 ครอบครัว ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำไร่ข้าวโพด ถั่วเขียว และนาข้าว โดยเฉพาะนาข้าวที่มีพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิมากถึง 5,000 ไร่ ซึ่งสหกรณ์ได้ส่งเสริมการผลิตเพื่อให้ได้ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี มีการจัดหาปัจจัยการผลิต เมล็ดพันธุ์ดี เงินทุน และพัฒนาองค์ความรู้ให้กับสมาชิก มีการทำการเพาะปลูกแบบพันธะสัญญา และทำการรวบรวมผลผลิต จึงทำให้สมาชิกมีตลาดรองรับผลผลิตที่แน่นอน ไม่ถูกเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง อีกทั้งสหกรณ์ยังเป็นกลไกสำคัญของรัฐในการช่วยเหลือพยุงราคาผลผลิตทางการเกษตรไม่ให้ตกต่ำ เช่น โครงการชะลอการขายข้าว และสร้างมูลค่าเพิ่ม

ซึ่งในแต่ละปีสหกรณ์ได้ดำเนินการรวบรวมข้าวเปลือกของสมาชิกมีปริมาณค่อนข้างสูง ปีละ 1,000-2,000 ตัน ส่วนหนึ่งได้ทำเมล็ดพันธุ์จำหน่าย และอีกส่วนหนึ่งรอราคาขายให้กับโรงสี ในขณะเดียวกัน ตามมติที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์นิคมแม่สอด จำกัด โดยได้จัดสรรงบประมาณของสหกรณ์กว่า 1.96 ล้านบาท ทำการก่อสร้างโรงสีข้าว ขนาด 10 ตันต่อวัน เพื่อแปรรูปข้าวสาร เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ลดปัญหาการขาดทุนหากสหกรณ์จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ไม่หมดหรือราคาข้าวตกต่ำ ทั้งนี้ ในอำเภอแม่สอดมีพื้นที่ปลูกข้าวมากกว่า 48,000 ไร่ แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 22,000 ไร่ ข้าวเหนียว 8,000 ไร่ ข้าวไร่ 18,000 ไร่

ไม่เพียงโรงสีข้าวเท่านั้นที่สมาชิกได้รับประโยชน์ แต่ยังมีเกษตรกรสมาชิกที่อาศัยพื้นที่นิคมสหกรณ์แม่สอดประกอบอาชีพมาเป็นเวลานานได้รับเอกสารสิทธิในที่ดินทำกินของนิคมสหกรณ์ฯ อีกด้วย โดยในครั้งนี้มีเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์นิคมแม่สอด จก. ได้รับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมสหกรณ์ (กสน.3) จากอธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์ จำนวน 6 ราย รวมเนื้อที่ 67 ไร่ 3 งาน 36 ตารางวา และหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (กสน.5) อีกจำนวน 9 ราย เนื้อที่รวม 64 ไร่ 3 งาน (เฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่สอด) ซึ่งเอกสารสิทธิดังกล่าวสามารถนำมาออกเป็นโฉนดได้ในอนาคต