นักวิชาการ ย้ำ เนื้อหมู ต้องปรุงสุกก่อนทาน พร้อมแนะวิธีเลือกซื้ออย่างปลอดภัย

นักวิชาการ ม.เกษตรฯ ชี้ฝีหนองในเนื้อหมูไม่ใช่ภาวะโรค แนะผู้บริโภคหากพบเนื้อหมูที่มีฝีหนองปนเปื้อน ให้ตัดเนื้อส่วนนั้นทิ้ง และต้องปรุงสุกก่อนทาน ย้ำควรเลือกซื้อจากผู้ผลิตและแหล่งจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน มีตราสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” เพื่อความปลอดภัย

อาจารย์พิชัย จิรวัฒนาพงศ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหาร คณะสัตวแพทยศาสตร์ กำแพงแสน อาจารย์ประจำภาควิชาเวชศาสตร์และทรัพยากรการผลิตสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยว่า จากการที่มีผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง พบฝีหนองในเนื้อหมูสดสไลซ์ ในร้านชาบูดังแห่งหนึ่ง กรณีดังกล่าวนั้น “ฝีหนอง” ไม่ได้เกิดจากการที่หมูเป็นโรค แต่เกิดจากการจัดการเรื่องความสะอาดในการใช้เข็มฉีดวัคซีนหรือยาในหมู หากขั้นตอนไม่สะอาด จะมีเชื้อโรคติดเข้าไปทำให้เกิดฝีหนองตรงตำแหน่งฉีด สำหรับโรงชำแหละที่มีกระบวนการผลิตเนื้อหมูที่ได้มาตรฐานโอกาสที่จะมีฝีหนองหลุดออกมาจำหน่ายนั้นน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย เพราะมีการตรวจสอบเนื้อสัตว์ ทั้งกระบวนการตัดแต่งและก่อนจำหน่าย

“ฝีหนอง คือเชื้อโรคอย่างหนึ่ง ที่จะส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภค ส่วนใหญ่มักจะพบในเนื้อหมูบริเวณแถวคอหมู ซึ่งเกิดจากความสกปรกในการฉีดยาหรือวัคซีน แล้วทำให้เชื้อโรคที่มีอยู่ตามผิวหนังของหมูแทรกเข้าไปตามรอยเข็ม แล้วก่อเป็นฝีหนองที่แถวคอหรือบริเวณที่ฉีด ไม่ได้เกิดจากตัวยาหรือตัววัคซีนแต่อย่างใด หากพบต้องเฉือนหรือตัดส่วนที่เกิดฝีหนองนั้นทิ้งไปห้ามทาน ส่วนที่ไม่เกิดหนองยังสามารถทานได้ เพราะฝีหนองปกติอยู่ในรูปแบบของแคปซูลหากไม่ได้แพร่กระจายออกไปจะไม่เกิดปัญหา แต่ในแง่ของความสบายใจของผู้บริโภค ที่มองว่าเนื้อชิ้นนั้น เกิดฝีหนองแล้วไม่น่าทานจะทิ้งไปทั้งชิ้นเลยก็ได้” อาจารย์พิชัย กล่าว

อาจารย์พิชัย จิรวัฒนาพงศ์

“ผู้บริโภคอย่าหวั่นวิตกหากพบเนื้อหมูที่มีฝีหนองปนเปื้อน สามารถตัดชิ้นเนื้อนั้นทิ้ง ส่วนของเนื้อที่ไม่มีก้อนฝีหนองยังคงทานได้ โดยต้องปรุงสุกที่อุณหภูมิ 74 องศาเซลเซียสขึ้นไปเท่านั้น สำหรับผู้ประกอบการ ร้านชาบู-หมูกระทะ ต้องเลือกซื้อเนื้อหมูจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบสภาพเนื้อหมู สด สะอาด ราคาไม่ถูกเกินไป และได้รับการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ โดยสังเกตสัญลักษณ์ “ปศุสัตว์ OK” เครื่องหมายการันตี มาตรฐานการผลิตตลอดกระบวนการ ตั้งแต่การเลี้ยง การเชือด-ชำแหละ การแปรรูป จนถึงสถานที่จำหน่ายเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค” อาจารย์พิชัย กล่าวทิ้งท้าย