สาวประจวบฯ เพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ส่งตลาดทั้งในและต่างประเทศ ฟันรายได้งาม

สาหร่ายพวงองุ่น มีถิ่นกำเนิดตามชายฝั่งทะเลในแถบอินโด-แปซิฟิก เป็นหนึ่งในสาหร่ายรับประทานได้ และได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและชุ่มฉ่ำ มีคุณค่าทางอาหารสูง โดยสาหร่ายพวงองุ่นถูกเพาะเลี้ยงในเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในฟิลิปปินส์ ตามมาด้วยญี่ปุ่น และทั้งสองประเทศนี้ยังคงเป็นผู้บริโภคสาหร่ายพวงองุ่นอันดับต้นๆ ซึ่งในปัจจุบันการเพาะเลี้ยงได้แพร่กระจายไปยังประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม ไต้หวัน จีน รวมถึงประเทศไทยที่มีการเพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์ โดยนิยมบริโภคกันมากในภาคใต้และภาคตะวันออก รับประทานแทนผัก มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมด้วยวิตามินหลายชนิด สอดคล้องกับเทรนด์รักสุขภาพที่กำลังมาแรงในขณะนี้

คุณธัญรัตน์ ปรือปรัก หรือ คุณผึ้ง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น

คุณธัญรัตน์ ปรือปรัก หรือ คุณผึ้ง อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ที่ 3 ตําบลคลองวาฬ อําเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นสร้างรายได้มานานกว่า 10 ปี ด้วยข้อดีของสาหร่ายพวงองุ่นก็คือ ขายได้กำไรดี ตลาดกว้างส่งขายได้ทั้งในและต่างประเทศ และคุ้มค่ากับการลงทุนในระยะยาว

สาหร่ายพวงองุ่นที่เพาะเลี้ยงในบ่อคอนกรีต

คุณผึ้ง เล่าให้ฟังว่า ตนเองเริ่มเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นมาตั้งแต่ปี 2552 นับเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี โดยมีจุดเริ่มต้นย้อนไปเมื่อปี 2550 ตนเองมีโอกาสได้ไปทำงานที่ภูเก็ต ซึ่งตรงกับช่วงจังหวะที่สาหร่ายพวงองุ่นกำลังได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็เห็นพ่อค้าแม่ค้านำเอาสาหร่ายพวงองุ่นมาวางขายกันมากมาย จนได้ลองซื้อมารับประทาน แล้วเกิดความชื่นชอบในรสชาติ เวลาเคี้ยวแล้วมีความกรุบกรอบ อีกทั้งมีคุณค่าทางอาหารสูง จึงเป็นที่มาของจุดประกายความคิดในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเพื่อสร้างรายได้

ผลผลิตออกเป็นช่อ สีเขียวสวย น่ารับประทาน

“หลังจากที่เริ่มมีความสนใจในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ทำงานที่ภูเก็ตได้ 2 ปี พี่จึงตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านที่ประจวบฯ เพื่อจะกลับมาเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นสร้างรายได้อย่างจริงจัง โดยเริ่มต้นจากการเข้าไปขอความรู้และฝึกฝนการเพาะเลี้ยงจากกรมประมง จากนั้นพอเริ่มรู้หลัก ก็กลับมาทดลองเลี้ยงที่บ้านเป็นของตัวเอง จนเกิดการสร้างรายได้ ซึ่งมาประจวบเหมาะกับที่โครงการหลวงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ทำให้พี่เริ่มได้ออกสื่อมากขึ้น การตลาดก็โตไวมากๆ จากการได้ออกสื่อ และประกอบกับที่เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง ทำให้พี่สามารถสร้างรายได้จากการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นได้เป็นเงินหลักแสน และถือเป็นการสร้างโอกาสให้ชุมชน หรือกับคนที่ต้องการมีรายได้เสริม มารับสาหร่ายพวงองุ่นจากพี่ไปขายต่อก็ได้เหมือนกัน เพราะสาหร่ายกิโลหนึ่งนำไปต่อยอดรายได้ได้ไม่น้อย”

ขั้นตอนการเก็บสาหร่ายพวงองุ่นในบ่อดิน

“สาหร่ายพวงองุ่น” อาหารสุขภาพชั้นดี
เพาะเลี้ยงสำเร็จ สร้างรายได้งาม

เส้นทางในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นให้ประสบความสำเร็จ คุณผึ้ง บอกว่า ไม่ง่าย เนื่องด้วยเป็นพืชที่มีความละเอียดอ่อนและจะเจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่มีสารอาหารอุดมสมบูรณ์และแสงแดดที่เหมาะสม ซึ่งด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้ขั้นตอนการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นเป็นไปได้ยาก ผู้เลี้ยงต้องมีความชอบและใส่ใจจริงๆ ถึงจะสามารถเลี้ยงได้ โดยมีองค์ประกอบสำคัญคือ น้ำและอากาศ

ขั้นตอนการล้างทำความสะอาดก่อนส่งถึงมือลูกค้า

“การเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น เป็นอะไรที่ละเอียดอ่อน กว่าพี่จะเข้าใจและประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย แล้วก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากตรงนี้ โดยเฉพาะเรื่องของสภาพอากาศที่ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการเพาะเลี้ยง ก็คือในช่วงหน้าฝน สาหร่ายพวงองุ่นจะมีราคาแพงและหายาก เนื่องจากฝนที่ตกลงมาในปริมาณมากก็มีผลต่อการเพาะเลี้ยง ทำให้เลี้ยงสาหร่ายได้ยากขึ้น หรือถ้าเป็นในช่วงที่อากาศร้อนเกินไป ทำให้ค่าความเค็มของน้ำทะเลที่มากเกินไป ส่งผลทำให้สาหร่ายเสียหายได้เหมือนกัน ตรงนี้ถือเป็นอุปสรรคของมือใหม่ที่ต้องเจอ และนำไปสู่การแก้ปัญหา ซึ่งการแก้ปัญหาของเราคือการเปลี่ยนรูปแบบการเพาะเลี้ยง จากการเพาะเลี้ยงในบ่อดิน ก็พัฒนามาเลี้ยงในบ่อคอนกรีต เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการดูแล”

ขั้นตอนการเด็ด หรือตัดแต่งสาหร่ายเพื่อการจำหน่าย 

การเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในบ่อคอนกรีต

1. ที่ฟาร์มเลี้ยงในบ่อคอนกรีตขนาดความกว้าง 1.30 เมตร ยาว 10 เมตร โดยตัดท่อพีวีซีออกเป็น 4 ส่วน แล้วนำมาประกอบเป็นสี่เหลี่ยม ทำเป็นโครงแผง จากนั้นใช้ตาข่ายขนาด 1 เซนติเมตร ขึงให้เต็มกรอบสำหรับรองรับต้นพันธุ์ แล้วทำเชือกแขวนแผงสาหร่ายลงไปในบ่อเลี้ยงลึกจากผิวน้ำประมาณครึ่งเมตร หรือในระดับที่แสงส่องถึงเพื่อช่วยในการเจริญเติบโต

“ข้อดีของการเลี้ยงสาหร่ายในบ่อปูนคือ ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ง่ายกว่าการเลี้ยงในบ่อดิน ถ้าเลี้ยงในบ่อดินตอนเก็บขึ้นมาจะมีทั้งโคลนทั้งดิน เราต้องนำไปล้างทำความสะอาดเอาดินออก ถึงจะนำไปเด็ดได้ แต่ถ้าเลี้ยงในบ่อปูนสาหร่ายจะสะอาดกว่า เวลาการเก็บจะง่าย และช่วยให้เด็ดง่ายขึ้น แต่ว่าความสวยของพวงสาหร่ายก็จะไม่เหมือนกัน เนื่องจากสาหร่ายที่เพาะเลี้ยงในบ่อดินจะมีสารอาหารที่มากกว่า ทำให้สาหร่ายที่เลี้ยงในบ่อดินมีพวงที่สวยช่อเต็มมากกว่าเลี้ยงในบ่อปูน”

  1. เกลี่ยต้นพันธุ์สาหร่ายให้ทั่วแผง อัตราส่วน 0.5 กิโลกรัมต่อแผง ปิดทับด้วยตาข่ายพลาสติกอีกชั้น

ล้างทำความสะอาด สะเด็ดน้ำเรียบร้อยเตรียมส่งให้ลูกค้า

“ต้นพันธุ์สาหร่าย 1 ขีด เก็บผลผลิตได้ประมาณ 10-20 กิโลกรัม ใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงประมาณ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่ที่คุณภาพของน้ำ ถ้าหากได้น้ำดีการเลี้ยงจุลินทรีย์ในบ่อดี ผลผลิตก็จะได้ตามที่ตั้งเป้าไว้”

ระบบน้ำ ก่อนที่จะปล่อยน้ำเข้าสู่บ่อเลี้ยง จะต้องพักน้ำไว้ในบ่อพักก่อนประมาณ 2-3 วัน โดยขั้นตอนก่อนจะปล่อยน้ำเข้าบ่อเลี้ยงจะต้องมีการตรวจวัดค่าความเค็มของน้ำก่อนทุกครั้ง โดยค่าความเค็มของน้ำที่เหมาะสมในการเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นอยู่ในระหว่าง 25-35 ppt และน้ำต้องสะอาด จะส่งผลให้เจริญเติบโตได้ดี

สาหร่ายพวงองุ่นสด บรรจุในแพ็กเกจจิ้งสวยงาม ทันสมัย สะดวกต่อผู้บริโภค

การดูแล สำหรับการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นในบ่อปิดถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเลี้ยงที่น่าสนใจ เพราะไม่ต้องดูแลอะไรมาก อาศัยความขยันเปลี่ยนน้ำให้ได้อาทิตย์ละครั้ง แต่จะต้องมีการตรวจสอบค่าความเค็มของน้ำทุกครั้งก่อนเปลี่ยนถ่ายน้ำเข้าบ่อ และเปิดออกซิเจนตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญก็คือการเข้าถึงของแสงแดด หลังคาไม่ควรทึบเกินไปเพื่อให้แสงแดดส่องถึง

สาหร่ายพวงองุ่นอบแห้ง นวัตกรรมการแปรรูปต่อยอดสร้างมูลค่า

การเก็บเกี่ยวผลผลิต สามารถยกแผงสาหร่ายขึ้นมาแล้วเก็บได้เลย จากนั้นนำมาตัดส่วนยอดและคงเหลือส่วนโคนของสาหร่ายติดแผงไว้ หรือคงปริมาณไว้ 20-25 เปอร์เซ็นต์ เพื่อนำไปเลี้ยงต่อ และเก็บเกี่ยวครั้งต่อไป

ออกบูธขายในห้างสรรพสินค้า ได้รับความสนใจจากลูกค้าไม่น้อย

“การเด็ดและการตัดยอดสาหร่ายถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ เพราะบางคนเด็ดสาหร่าย เน้นเด็ดเร็วและเด็ดให้ได้เยอะๆ จะทำให้สาหร่ายช้ำเก็บรักษาไม่ได้นาน แต่ถ้าให้ความพิถีพิถันในการเด็ด ก็จะทำให้สาหร่ายเก็บได้นานขึ้น และจะได้สาหร่ายที่มีพวงช่อสวยงาม”

จากนั้นนำสาหร่ายที่ผ่านการคัดแยกไปพักทำความสะอาดในถังสกิมเมอร์ที่บรรจุน้ำเค็มสะอาด เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกที่ปนเปื้อนมากับสาหร่าย และย้ายไปทำความสะอาดครั้งสุดท้ายก่อนบรรจุในถังพักที่ติดตั้งระบบหมุนเวียนน้ำมีระบบอัลตราไวโอเลต (UV) และโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จากนั้นตัดแต่งเสร็จนำสาหร่ายไปพักไว้ในบ่อพักไว้ 1 คืน เพื่อให้สาหร่ายกรอบ และแข็งแรงพร้อมส่งในวันถัดไป โดยขั้นตอนจัดส่งจะต้องนำสาหร่ายมาพักสะเด็ดน้ำไว้ก่อน แล้วค่อยใส่ในกล่องโฟมจะช่วยเก็บอุณหภูมิได้ดี

รับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด เคี้ยวเพลิน คุณค่าทางอาหารสูง

“สาหร่ายพวงองุ่น” ตลาดยังกว้าง
ส่งขายได้ทั้งในและต่างประเทศ

คุณผึ้ง บอกว่า ปัจจุบันตลาดของสาหร่ายพวงองุ่นถือว่าเปิดกว้างมากๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนรักสุขภาพ และในตลาดต่างประเทศที่นิยมรับประทานกันมายาวนานและยังมีความต้องการสูง โดยที่ฟาร์มจะเน้นให้ความสำคัญกับคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง

“ตอนนี้ตลาดเปิดกว้างมาก การตลาดเราไม่ได้ขายเป็นพวงสดอย่างเดียว แต่เราเริ่มมีการพัฒนาจากที่เป็นผู้ผลิต มาเป็นแม่ค้า มีการต่อยอดรับตัวแทนจำหน่าย เรามีน้ำจิ้มซีฟู้ดแถมให้พร้อม ลูกค้าสามารถรับของเราแล้วไปขายได้เลย ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 50-250 บาท ซึ่งตลาดตรงนี้ถือว่ากำลังไปได้ดี มีพ่อค้ามารับไปขายต่อทั่วประเทศ ทั้งลูกค้าจากนครปฐม กรุงเทพฯ ราชบุรี เชียงใหม่ เชียงราย รวมถึงตลาดต่างประเทศ เช่น ลาว มาเลเซีย และตลาดในโซนยุโรป ที่เกิดขึ้นจากทางฟาร์มเล็งเห็นโอกาสจากโลกออนไลน์ จึงได้มีการพัฒนาทำในรูปแบบของสาหร่ายพวงองุ่นอบแห้ง ด้วยการนำมาแปรรูปยืดอายุโดยการใช้นวัตกรรมแบบใหม่ คือการคายเอาน้ำทะเลออกจากสาหร่าย เพื่อที่จะให้เก็บรักษาได้นานขึ้น เพราะปกติแล้วสาหร่ายพวงองุ่นสด สามารถเก็บได้ 7-10 วัน แต่เมื่อนำมาอบแห้งสามารถยืดอายุการเก็บได้นานหลายเดือน พี่จึงมองว่าการเพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่นถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่น่าสนใจ ด้วยเรื่องของเทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามิน สามารถแตกไลน์ทำได้อีกหลายผลิตภัณฑ์ โดยตอนนี้ทางฟาร์มกำลังพัฒนาออกมาในรูปแบบของเยลลี่กัมมีจากสาหร่ายพวงองุ่น เพื่อรองรับผู้บริโภคทุกกลุ่ม” คุณผึ้ง กล่าวทิ้งท้าย

เมนูยำกุ้งสุกใส่สาหร่ายพวงองุ่น อีกหนึ่งเมนูขายดี

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่เบอร์โทร. 090-435-6954 หรือติดต่อได้ที่เพจเฟซบุ๊ก : ผึ้ง สาหร่ายพวงองุ่น