เตรียมดัน GI “กาแฟโรบัสต้า” สร้างรายได้เกษตรกร ศรีสะเกษ

“กาแฟโรบัสต้า” นับเป็นสินค้าทางเลือกที่มีอนาคต ซึ่ง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายส่งเสริมพัฒนาการผลิตและการตลาดให้เป็นสินค้าสร้างรายได้แก่เกษตรกร

จังหวัดศรีสะเกษ เป็นแหล่งผลิตกาแฟโรบัสต้าที่มีคุณภาพสูง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นการรวมกลุ่มเกษตรกรในการผลิต ประกอบกับจังหวัดเตรียมผลักดันให้เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) ซึ่งคาดว่าจะได้ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ในอีกไม่ช้า

ปัจจุบัน เกษตรกรมีการปลูกแบบรายเดี่ยวและรวมกลุ่มการผลิต ส่วนใหญ่จะปลูกต้นกาแฟโรบัสต้าแซมในสวนทุเรียน มีกลุ่มผู้ปลูกกาแฟโรบัสต้า อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นกลุ่มตัวอย่างที่มีศักยภาพในการผลิต เนื่องจากเกษตรกรมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานการเกษตร เช่น แหล่งน้ำ และดินในการเพาะปลูก โดยเริ่มรวมกลุ่มเมื่อปี 2560 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกกาแฟกว่า 300 ไร่ มีสมาชิกเกษตรกร 7 ราย โดยเมื่อปีที่ผ่านมาทางกลุ่มได้เข้าร่วมโครงการฯ กับศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ซึ่งได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ในด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาด รวมถึงได้รับการสนับสนุนปัจจัยต้นพันธุ์กาแฟที่มีคุณภาพ

ด้านสถานการณ์การผลิตกาแฟโรบัสต้าของกลุ่ม ปี 2564 มีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 9,471 บาท/ไร่/ปี (เริ่มให้ผลผลิตในปีที่ 2 และเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 40 ปี) ผลผลิตจะออกสู่ตลาดช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน ผลผลิตรวม ประมาณ 1,800 กิโลกรัม/ปี ผลผลิตเฉลี่ย 10 กิโลกรัม/ไร่/ปี ผลตอบแทนเฉลี่ย 22,500 บาท/ไร่/ปี ผลตอบแทนสุทธิเฉลี่ย (กำไร) 13,029 บาท/ไร่/ปี ราคากาแฟโรบัสต้า (ผลสด) ณ วันที่ 15 กันยายน 2564 อยู่ที่ 25 บาท/กิโลกรัม ถ้าเป็นผลกาแฟแห้ง ราคาอยู่ที่ 125 บาท/กิโลกรัม ทั้งนี้ ผลผลิตของกลุ่มยังอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้น และเป็นช่วงเริ่มให้ผลผลิต

สถานการณ์ด้านตลาดของกลุ่ม พบว่า ผลผลิตกาแฟโรบัสต้า (ผลสด) ทั้งหมด เกษตรกรส่งจำหน่ายให้กับศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ โดยทางศูนย์จะนำผลผลิตไปแปรรูปเป็นกาแฟสด และนำไปวิจัย ขยายต้นพันธุ์ต่อ ซึ่งจากการที่กลุ่มเข้าร่วมโครงการฯ ประกอบกับได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องของการแปรรูปสร้างแบรนด์กาแฟศรีสะเกษ ทางกลุ่มจึงมีแผนจะดำเนินการผลิตกาแฟโรบัสต้าแบบครบวงจร โดยจะเน้นการแปรรูปเป็นกาแฟสด ประมาณ ร้อยละ 80 ของผลผลิต ส่วนด้านตลาดจะเน้นการขายทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม ประมาณร้อยละ 20

กาแฟโรบัสต้า นับเป็นพืชที่มีอนาคตสดใส เพื่อให้เกิดการพัฒนากาแฟโรบัสต้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงควรมีการฟื้นฟูต้นกาแฟที่มีอยู่เดิม ส่งเสริมการปลูกใหม่ในพื้นที่ที่เหมาะสมเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาด และมีผลผลิตเพียงพอต่อการนำไปใช้สำหรับแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์

เกษตรกรหรือท่านที่สนใจข้อมูลการผลิตกาแฟโรบัสต้า สามารถขอคำปรึกษาได้ที่ นายชนินธร ท้าวธงชัย ประธานกลุ่ม หมู่ที่ 10 ตำบลพราน อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ หรือ โทร. 084-936-2727 และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.11 อุบลราชธานี โทร. 045-344-655 หรือ อี-เมล [email protected]