สาวชลบุรี จากปลูกกระบองเพชรเล่นๆ สู่นักพัฒนา สร้างลูกไม้ใหม่ขายติดตลาด

กระบองเพชร (Cactus) เป็นพรรณไม้ที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกษตรกรหลายท่านก่อนที่จะประสบผลสำเร็จและทำเป็นการค้าได้นั้น ล้วนแล้วผ่านการปลูกที่เริ่มต้นมาจากความรักความชอบมาก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาและขยายพันธุ์กระบองเพชรให้มีจำนวนมากขึ้น เมื่อเกิดความชำนาญและเชี่ยวชาญในสิ่งเหล่านี้จึงช่วยให้เกิดรายได้ตามมา สามารถสร้างเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูครอบครัวได้เป็นอย่างดี  

กระบองเพชรเป็นไม้ที่มีขนาดต้นเล็กไปจนถึงปานกลาง ส่วนของลำต้นมีสีเขียวหรือเขียวคล้ำ บางสายพันธุ์มีขนและหนามรอบลำต้น และมีดอกและสีที่ต่างกันไป เช่น สีแดง สีเหลือง และสีขาว ซึ่งขนาดของดอกเล็กใหญ่ตามชนิดสายพันธุ์ นอกจากนี้ ยังเป็นไม้ที่นิยมนำมาปลูกประดับบนโต๊ะทำงานหรือประดับในพื้นที่ต่างๆ ตามต้องการ จึงทำให้เข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย

คุณธิติพร จตุพงษ์ หรือ คุณเฟิร์น (ซ้าย)

คุณธิติพร จตุพงษ์ หรือ คุณเฟิร์น เจ้าของสวน Sahara Cactus (ซาฮาร่าแคคตัส) ถือเป็นอีกหนึ่งท่านที่ปลูกกระบองเพชรโดยเริ่มจากความชอบและปลูกเล่นๆ และต่อมาได้ขยายการปลูกเรื่อยๆ จนมีกระบองเพชรมากขึ้น จากนั้นเธอได้ทดลองจำหน่ายและเห็นว่าสามารถทำตลาดได้ จึงทำให้เธอได้นำกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์เข้ามาปลูก จนทำให้จากที่เป็นผู้ปลูกเลี้ยงดูเล่น กลับกลายเป็นนักพัฒนาสายพันธุ์กระบองเพชร จนสร้างรายได้หลักให้กับครอบครัวของเธอมาจนถึงปัจจุบัน

การเพาะเมล็ด 

ออกจากงานประจำมาทำสวนกระบองเพชร

คุณเฟิร์น เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของการมาปลูกกระบองเพชรนั้น เกิดจากเห็นโต๊ะทำงานยังไม่มีไม้ประดับ ทำให้ได้มีโอกาสไปเดินดูตลาดต้นไม้และเกิดความสนใจในต้นกระบองเพชร โดยในช่วงแรกหาซื้อมาเพียง 1 ต้น เพื่อตั้งประดับในโต๊ะทำงาน เมื่อดูแลมาได้สักระยะกระบองเพชรต้นนั้นออกดอก จึงเกิดกำลังใจและหลงเสน่ห์ในกระบองเพชรขึ้นมาเป็นระยะ จากไม้ประดับโต๊ะทำงานทำให้เกิดความสนใจและสะสมสายพันธุ์จนมาเป็นนักพัฒนาในเวลาต่อมา

เมล็ดที่เพาะแล้วงอกออกมา

“ช่วงแรกไม่ได้คิดที่จะทำเป็นการค้าเลย แฟนซื้อมาประดับโต๊ะทำงานเพียงอย่างเดียว แต่พอเลี้ยงดูแลไปมา กระบองเพชรออกดอกสวยมาก กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้เราเกิดกำลังใจ จากนั้นก็หมั่นไปเที่ยวตลาดต้นไม้กับแฟนอยู่เสมอ ทำไปทำมาไม้เริ่มเยอะขึ้นมาก พื้นที่คอนโดฯ ตรงระเบียงเราก็เอามาปลูกด้วย โดยหลังจากที่มีกระบองเพชรเยอะขึ้น ทำให้มองไปถึงการค้าว่าน่าจะทำเป็นการค้าได้ เพราะด้วยประสบการณ์ทำให้เรารู้ว่าต้องดำเนินการอย่างไรและจะมีจุดขายอย่างไรบ้าง เพื่อให้กระบองเพชรในสวนติดตลาด”

ต้นที่คัดความสวยงาม

ช่วงแรกที่ทดลองนำกระบองเพชรมาจำหน่ายเข้าสู่วงการตลาดนั้น คุณเฟิร์น บอกว่า ให้แฟนดำเนินการทำเพียงคนเดียวก่อน และเมื่อทำตลาดได้อย่างต่อเนื่องและสร้างรายได้สม่ำเสมอ จึงทำให้เธอลาออกจากงานประจำมาเป็นนักพัฒนากระบองเพชรอย่างเต็มตัวด้วยเช่นกัน

กระบองเพชรที่ปลูกใส่กระถาง 2 นิ้ว 

การพัฒนาสายพันธุ์ช่วยให้มีลูกไม้ใหม่ๆ

คุณเฟิร์น เล่าต่อให้ฟังว่า กระบองเพชรทั้งหมดที่มีอยู่ภายในสวน เป็นทั้งกระบองเพชรที่สะสมมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เริ่มแรกที่ปลูกและบางส่วนซื้อเข้ามาจากสวนอื่นเพื่อเป็นพ่อแม่พันธุ์ แต่ที่เป็นจุดเด่นของสวนจะเป็นยิมโนเขียวเอกลักษณ์ มีลักษณะพิเศษคือไม่ใช่ในเรื่องของความด่าง แต่จะมีเอกลักษณ์คือพื้นผิว ลักษณะของหนาม และสีเขียวเข้มที่ไม่มีความด่าง โดยยึดการทำรูปแบบที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้มาตลอดมากว่า 10 ปี

พื้นที่โรงเรือน

การเลือกพ่อแม่พันธุ์กระบองเพชรสำหรับพัฒนาสายพันธุ์ ใช้ต้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมาผสมเข้าด้วยกัน อย่างเช่นนำพ่อพันธุ์ที่มีผิวสีม่วงเข้ามาผสมกับแม่พันธุ์ที่ไม่มีหนาม เมื่อได้ลูกไม้ออกมาบางครั้งได้อย่างที่ใจจินตนาการไว้ หรือถ้าเกินความคาดหมายอาจจะได้ลูกไม้ใหม่ที่แปลกหรือดีกว่าที่คิดไว้ไปเลย ซึ่งอายุของพ่อแม่พันธุ์ที่เหมาะสมจะใช้อยู่ที่ 8-9 ปีขึ้นไป ก็จะช่วยให้ลูกไม้ที่เกิดขื้นมาค่อนข้างมีคุณภาพ

กระบองเพชรภายในสวน

“หลังจากผสมเกสรเรียบร้อยแล้ว รอประมาณ 2 อาทิตย์ ก็จะได้เมล็ดออกมาให้เห็น หรือบางต้นใช้เวลาเป็น 1 เดือนก็มี หลังจากได้เมล็ดมาแล้ว นำล้างเมือกออกตากให้แห้ง และนำมาเพาะลงในวัสดุเพาะจำพวกพีทมอส ผสมกับพวกเพอร์ไลท์ และก็ดินใบก้ามปูละเอียดนิดหน่อย นำเมล็ดกระบองเพชรมาเพาะลงไป พร้อมทั้งมัดปากถุงปิดให้สนิท ประมาณ 3 วัน เมล็ดก็งอกออกมา หรือบางสายพันธุ์ก็ใช้เวลามากกว่า 1 อาทิตย์ ก่อนที่เราจะย้ายออกจากถุง เพาะเมล็ดก็จะให้อยู่แบบนี้ประมาณ 6 เดือน”

หลังจากที่ต้นกระบองเพชรโตเป็นต้นใหญ่ครบอายุ 6 เดือนแล้ว จะทำการคัดลูกไม้ใหม่ทั้งหมด โดยเลือกต้นที่มีลักษณะเด่นไว้สำหรับเลี้ยงต่อไป ส่วนต้นที่มีลักษณะพื้นๆ ทั่วไป หากไม่ต้องการจะกำจัดออกทันที เพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพื้นที่ภายในสวน จากนั้นนำกระบองเพชรที่เป็นลูกไม้ใหม่ที่คัดแล้ว มาปลูกลงในภาชนะที่เตรียมไว้ และวัสดุปลูกที่ใช้จะเน้นเป็นดินใบก้ามปูให้มีปริมาณที่เพิ่มขึ้น ผสมดินภูเขาไฟเบอร์ 00 เพอร์ไลท์ และใส่ปุ๋ยละลายช้าเข้ามาผสมด้วย จากนั้นดูแลในช่วงนี้ต่อไปอีก 3-6 เดือน จึงย้ายลงไปปลูกลงในกระถาง 2 นิ้วต่อไป หรือถ้ามีลูกค้าสนใจก็สามารถจำหน่ายได้ทันที

การออกร้านจำหน่าย

“หากยังไม่ได้ขายในกระถาง 2 นิ้ว ที่มีอายุ 1 ปี เราก็จะดูแลต่อไปให้มีอายุประมาณ 2 ปี จึงจะขาย โดยการดูแลไม้ก็จะมีการรดน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง รดให้ชุ่มๆ เลย พร้อมทั้งมีการให้ยากันเชื้อราและยาป้องกันเพลี้ยต่างๆ เดือนละ 1 ครั้ง ดูแลอยู่ประมาณนี้เรื่อยๆ ก็จะช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืชได้ ทำให้กระบองเพชรไม่ได้รับความเสียหายและโตสมบูรณ์เป็นที่ต้องการของตลาด”

 

เน้นออกร้าน ทำตลาด ช่วยเข้าใจความต้องการลูกค้า

คุณเฟิร์น เล่าถึงหลักการทำตลาดของเธอว่า สมัยก่อนที่โควิด-19 จะเข้ามาระบาด การทำตลาดกระบองเพชรก็ยังจำหน่ายได้เรื่อยๆ เพราะยังมีกลุ่มลูกค้าที่สนใจอยู่เสมอ แต่เมื่อสถานการณ์โควิด-19 รุนแรงมากขึ้น ทำให้ทุกคนต้องหยุดอยู่บ้านระยะหนึ่ง จึงทำให้กระบองเพชรค่อยๆ กลับมาจำหน่ายได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการทำตลาดออนไลน์หรือการไปออกร้านที่ตลาดนัดจตุจักร ทำให้กระบองเพชรในสวนของเธอมีลูกค้าทั้งรายใหม่และรายเก่าแวะเวียนมาซื้ออยู่เป็นประจำ

โดยการผลิตกระบองเพชรให้เป็นที่ต้องการของตลาด แต่ละรอบก็จะแตกต่างกันไป จากการที่ได้ออกร้านอยู่เป็นประจำนี้เอง จึงทำให้เข้าใจและทราบความต้องการของลูกค้า ว่าแต่ละช่วงต้องการกระบองเพชรสายพันธุ์แบบไหนออกมาจำหน่าย เพราะแต่ละช่วงลูกค้าจะนิยมกระบองเพชรที่แตกต่างกันไป และราคาจำหน่ายกระบองเพชรในสวนของเธอมีราคาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อหลากหลายอีกด้วย

Greenday

“การจะทำให้ไม้ติดตลาดได้ตลอด เราต้องพัฒนาสายพันธุ์อยู่เสมอ เพื่อให้กระบองเพชรในสวนของเรามีความหลากหลายและมีลูกไม้ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้เลือกซื้ออยู่เสมอ การปรับตัวก็จะช่วยให้มีไม้ตามความนิยมอยู่ตลอด โดยราคาขายของสวนเราถูกสุดราคาอยู่ที่ 20 บาท ส่วนกระบองเพชรที่พัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่เรื่อยๆ ราคาก็จะมีตั้งแต่หลักร้อย หลักพัน และหลักหมื่นบาทจะเป็นกระบองเพชรพ่อแม่พันธุ์”

ลูกไม้ของที่สวน

มุมมองการทำตลาดกระบองเพชรในอนาคตการปลูกเป็นการค้านั้น คุณเฟิร์น บอกว่า ตลาดกระบองเพชรยังสามารถไปต่อได้เรื่อยๆ เพราะยังมีกลุ่มลูกค้าที่สนใจซื้ออย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ผู้ผลิตต้องพัฒนาสายพันธุ์ให้เกิดลูกไม้ใหม่ๆ ออกมา ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกเพิ่มขึ้นก็สามารถทำตลาดได้แน่นอน ส่วนคนที่อยากทำเป็นการค้า ถ้าเป็นผู้ปลูกรายใหม่ต้องเริ่มต้นจากความชอบก่อน จากนั้นจะมองเห็นช่องทางอื่นตามมาเองในอนาคตอย่างแน่นอน

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ คุณธิติพร จตุพงษ์ หรือ คุณเฟิร์น เจ้าของสวน Sahara Cactus (ซาฮาร่าแคคตัส) ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 5/7 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านสวน อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 086-970-7191 หรือพบได้ที่ ตลาดนัดจตุจักร วันอังคารตั้งแต่ 12.00-20.00 น. และวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 09.00-18.00 น.