| ผู้เขียน | วิภาวรรณ เพ็ชรศรี |
|---|---|
| เผยแพร่ |
คุณน่านน้ำ หรือ คุณอักษราภัค ศรีฟ้า สาวสวยเจ้าของฟาร์ม “BZ Bizotic pets งูบอลและหนูเหยื่อ” ในพื้นที่ถนนไมตรีจิต แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบ กรุงเทพมหานคร ที่นำความชอบทางด้านการเลี้ยงสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ก่อนจะหันมาเลี้ยงงูบอลไพธอนอย่างจริงจัง เพราะด้วยสีสันและลวดลายที่หลากหลาย สามารถพัฒนาได้ในอนาคต จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการต่อยอดธุรกิจดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นมาจากครอบครัวที่รักในการเลี้ยงสัตว์แปลกหลากหลายชนิดทั้งสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม และอื่นๆ อีกมากมาย จนได้เริ่มเลี้ยงงูบางชนิด แต่ด้วยขนาดของงูหลายๆ ชนิดที่ค่อนข้างใหญ่และรู้สึกว่ามีการดูแลที่ยุ่งยากเกินไป จนเริ่มศึกษา หางูชนิดใหม่ๆ ที่มีขนาดเล็กลงและดูแลง่ายขึ้น จนมาพบกับงูบอลไพธอน ซึ่ง ณ ขณะนั้นงูบอลไพธอนยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก และเราพบว่างูบอลไพธอนมีสีสันที่หลากหลาย ทั้งยังสามารถเพาะเลี้ยงในประเทศไทยและพัฒนาสีสันและลวดลายได้อีกด้วย
“จริงๆ การเลี้ยงงูเป็นงานอดิเรกนะคะ ตอนแรกๆ เราเพาะหนูเหยื่อก่อน เราก็จะมีลูกค้าที่เลี้ยงสัตว์ต่างๆ เยอะค่ะ จนมาถึงช่วงหนึ่งคนเลี้ยงงูเริ่มเยอะขึ้น แล้วก็เป็นงูหลามบอลแบบนี้ค่ะ ซึ่งน่าสนใจดีแบบนี้ค่ะ เราก็เลยเริ่มต้นที่จะเริ่มเลี้ยงงูบอล คือเหมือนเราจะได้ลูกค้าทั้งสองทางด้วย ทั้งลูกค้าหนูเหยื่อและลูกค้างู เพราะเขาซื้อหนูเรา เขาก็ซื้องูเราแบบนี้ค่ะ”
เมื่อสอบถามถึงวิธีการเพาะพันธุ์ คุณน่านน้ำ เล่าให้ฟังอีกว่า งูบอลไพธอนจะมีการผสมพันธุ์ที่ซับซ้อน เพราะด้วยจำนวนสีที่มีมากกว่า 10,000 สี จึงมีเรื่องของยีนเด่นและยีนด้อยเข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเอง
สำหรับการผสมพันธุ์งูบอลไพธอนจะเริ่มขึ้นเมื่อตัวเมียอายุประมาณ 2 ปี น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ตัวผู้ก็จะมีอายุประมาณ 1 ปี น้ำหนักประมาณ 600-800 กรัม จะผสมพันธุ์โดยการใส่ตัวผู้ลงไปในกล่องตัวเมีย สามารถใช้ตัวผู้ 2 ตัวต่อตัวเมีย 1 ตัวได้ เมื่อผสมพันธุ์เสร็จหางของตัวเมียและตัวผู้จะอยู่ในลักษณะคล้ายการเกี่ยวก้อยในมนุษย์ จากนั้นจะทำการแยกตัวผู้ออกจากตัวเมียทันที เพื่อป้องกันอาการเหนื่อยล้าหลังการผสมพันธุ์เสร็จ
เมื่อผสมพันธุ์เสร็จแล้วตัวเมียจะตั้งท้องประมาณ 2 เดือน ต่อด้วยการฟักไข่อีก 2 เดือน รวมทั้งหมด 4 เดือน ซึ่งสามารถให้ไข่ครั้งละ 3-8 ฟองต่อครั้ง หลังจากแม่งูฟักไข่แล้ว จะทำการแยกแม่งูและลูกงูออกจากกันทันที เพื่อป้องกันในเรื่องของความชื้นที่อาจจะไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของลูกงู จึงจำเป็นต้องแยกไข่ออกจากแม่งูหลังจากคลอดทันที
“การเพาะพันธุ์ของเขาค่อนข้างที่จะซับซ้อน เพราะว่าตอนนี้ค่อนข้างมีหลายสี เป็นหมื่นสีเลยค่ะ แล้วก็จะแบ่งเป็นเรื่องของยีนเด่น ยีนด้อยแบบนี้ค่ะ ถ้าเป็นยีนด้อยก็จะแฝงอยู่ตัวงู เราก็ต้องหาวิธีทำให้ยีนด้อยนี้ออกมาแสดงผลให้เป็นสีใหม่ๆ มากขึ้น และการผสมพันธุ์งูเขาจะไม่แสดงออกมาว่าฮีตหรือพร้อมผสมพันธุ์แล้วค่ะ เราจะดูเป็นอายุของงูมากกว่า ตัวเมียก็จะเริ่มประมาณ 2 ปี น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ตัวผู้ก็จะมีอายุประมาณ 1 ปี น้ำหนักประมาณ 600-800 กรัมค่ะ สามารถใช้ตัวผู้ 2 ตัวต่อตัวเมีย 1 ตัวได้ค่ะ เราก็จะใส่ตัวผู้เข้าไปในกล่องเลี้ยงของตัวเมีย แล้วก็รอดูว่าเขาผสมพันธุ์กันหรือยังค่ะ ถ้าเขาผสมพันธุ์กันแล้ว หางตัวเมียและหางตัวผู้ก็จะเกี่ยวกันแบบเกี่ยวก้อยค่ะ หลังจากผสมพันธุ์เสร็จแล้ว เราจะหยิบตัวผู้ออกมาทันที ไม่เช่นนั้นตัวผู้อาจจะเหนื่อยได้ แล้วบางทีเรามีตัวผู้ไม่พอแบบนี้ค่ะ เราต้องใช้ตัวผู้นั้นไปผสมกับตัวเมียตัวอื่นได้ด้วยเช่นกันค่ะ ตัวเมียเราจะผสมซ้ำอีกสัก 2 รอบก็ได้ค่ะ เพื่อให้แน่ใจว่าผสมติดแล้วจริงๆ ค่ะ ปล่อยให้เขาอยู่ในกล่องเลี้ยงเหมือนเดิมได้เลย เราจะสังเกตลักษณะตัวเมียตอนท้องก็คือ จะเข้าคราบ ไม่กินอาหาร หรือสังเกตเห็นจากภายนอกคือตัวเมียจะบวมขึ้นค่ะ ท้องจะเป็นปล้องๆ เราก็จะเห็นได้เลยค่ะ เขาจะอุ้มท้องประมาณ 2 เดือน จากนั้นฟักไข่อีก 2 เดือนหรือประมาณ 60 วันค่ะ ให้ไข่ครั้งละ 3-8 ฟองค่ะ”
การเลี้ยงดูงูบอลไพธอน ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากหรือซับซ้อน เพราะด้วยนิสัยของงูบอลไพธอนเป็นสัตว์ที่รักสันโดษ ให้อาหารอาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยการให้เป็นหนูแช่แข็ง โดยคำนวณจากน้ำหนักของงู ซึ่งงูบอลไพธอนเหมาะและตอบโจทย์กลุ่มคนรักสัตว์ Exotic และกลุ่มผู้ที่อยากเลี้ยงสัตว์แต่ไม่มีเวลาดูแล
“การดูแลน้องงูง่ายมากเลยค่ะ เขาจะกินอาหารอาทิตย์ละ 1 ครั้ง และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำ กล่องเลี้ยงก็เป็นกล่องเลี้ยงธรรมดาก็ได้ค่ะ จะซื้อมาเจาะรูเองหรือตกแต่งได้ตามที่เจ้าของต้องการได้เลยค่ะ คนที่ไม่มีเวลาดูแลแบบนี้ค่ะ ก็สามารถเลี้ยงได้ อย่างเช่น พนักงานออฟฟิศที่ต้องทำงานจันทร์ถึงศุกร์ ก็จะมีแค่ช่วงวันหยุดที่จะสามารถดูแลน้องงูได้อย่างเต็มที่ และอีกอย่างงูเขาเป็นสัตว์สันโดษ ไม่ได้ต้องการให้คนมาจับเล่นตลอดเวลา เขาสามารถอยู่ตัวเดียวได้ค่ะ อาหารก็จะแนะนำเป็นหนูแช่เท่านั้นค่ะ หนูเป็นก็ได้ค่ะ แล้วแต่ใครจะสะดวกให้แบบไหน แต่ถ้าให้แนะนำก็จะเป็นหนูแช่ดีกว่าค่ะ”
ในด้านโรคที่เกิดขึ้นนั้น แทบจะเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะงูบอลไพธอนเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ถัดมาในด้านความต้องการทางด้านการตลาด คุณน่านน้ำ เล่าว่า ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ Exotic เป็นจำนวนมาก เพราะด้วยสีและลวดลายที่มีให้เลือกมากกว่า 10,000 สี และสามารถเลือกจัดสรรได้ตามงบประมาณตามที่ผู้เลี้ยงต้องการได้นั่นเอง
ราคาในการขายงูบอลไพธอนของร้าน BZ Bizotic pets งูบอลและหนูเหยื่อ จะเริ่มต้นที่ 1,800-120,000 บาท ซึ่งราคาจะมีความผันผวนตามกระแสของสีและความต้องการทางด้านการตลาดในช่วงนั้นๆ
สำหรับท่านใดที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับงูบอลไพธอน สามารถติดต่อ คุณน่านน้ำ หรือ คุณอักษราภัค ศรีฟ้า ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก “BZ Bizotic pets งูบอลและหนูเหยื่อ” หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 091-421-9666 คุณน่านน้ำยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
