เผยแพร่ |
---|
ข้าวตราฉัตร ผู้นำธุรกิจข้าวสารบรรจุถุงเมืองไทย เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ที่ได้เบอร์หนึ่งแบรนด์ข้าวยอดนิยมในใจผู้บริโภคทั้งประเทศ ด้วยการคว้าสุดยอดรางวัล “Marketeer No.1 Brand Thailand 2023” หรือ “รางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคทั่วประเทศไทย” ในหมวดธุรกิจข้าวสารบรรจุถุง ครองอันดับหนึ่งติดต่อกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 จากผู้เข้ารับรางวัลทั้งหมด 65 แบรนด์ นับเป็นรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ และช่วยตอกย้ำมาตรฐาน คุณภาพสินค้า และการบริการ จากเสียงสะท้อนของผู้บริโภคทั่วประเทศที่ให้การยอมรับ และไว้วางใจเลือกข้าวตราฉัตรมาโดยตลอด
นายยงยุทธ พฤกษ์มหาดำรง รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เปิดเผยว่า “ข้าวตราฉัตรขอบคุณผู้บริโภคทั่วประเทศ ทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกข้าวตราฉัตรเป็นแบรนด์เบอร์ 1 ในใจผู้บริโภคมาต่อเนื่องถึง 12 ปีซ้อนจากผลโหวตของผู้บริโภค ผู้ที่อุปการะของข้าวตราฉัตร ขอบคุณทีมงานข้าวตราฉัตร ไม่ว่าจะเป็นส่วนหน้าหรือส่วนหลังก็ตาม รางวัลนี้ถือเป็นกำลังใจให้กับพวกเราทุกคน มุ่งมั่นพัฒนามาตรฐาน คุณภาพสินค้า และต่อยอดความสำเร็จของข้าวตราฉัตรต่อไป ขอบคุณชาวนาไทย บุคคลสำคัญที่ขาดไม่ได้ ที่มีส่วนร่วมในการผลิตข้าวที่ดีมีคุณภาพ และสุดท้ายขอบคุณพันธมิตรคู่ค้าข้าวตราฉัตรทุกท่าน ที่ช่วยสนับสนุนเป็นกำลังสำคัญในการจำหน่ายสินค้าข้าวตราฉัตร ไม่ว่าจะเป็น Modern Trade, Local Modern Trade, Traditional Trade, ช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ ทุกคนมีส่วนร่วมกับรางวัลนี้ ที่ทำให้เราเป็นสินค้าคุณภาพ และได้รับการยอมรับมาอย่างต่อเนื่อง 12 ปีติดต่อกัน ซึ่งก็เป็นปณิธานใหญ่ของข้าวตราฉัตร ภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ท่านประธานอาวุโสให้นโยบายไว้ เรื่อง 3 ประโยชน์ คือ ประเทศชาติ ประชาชน และบริษัท ด้วยปรัชญานี้ทำให้ข้าวตราฉัตรดำเนินธุรกิจข้าวในประเทศไทยให้มีความยั่งยืน มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ถือเป็นกลยุทธ์หลักสำคัญ และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้ คือความกตัญญูต่อประเทศชาติ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้บริโภคทั้งหมด ถือเป็นแกนหลักที่ทำให้ข้าวตราฉัตรดำเนินธุรกิจและได้การยอมรับตลอดที่ผ่านมา
ซึ่งปัจจุบันการแข่งขันตลาดข้าวสารบรรจุถุงไทยในตอนนี้ เป็น Red Ocean ดุเดือด มีหลากหลายแบรนด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่การสร้างแบรนด์ให้ติดตลาดและเติบโตอย่างยั่งยืนไม่ใช่เรื่องง่าย และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้าวตราฉัตรยังคงเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ในใจผู้บริโภคทั่วประเทศไทย มาจาก หนึ่ง คุณภาพที่ดี ต้องมีเกณฑ์สูงกว่ามาตรฐานข้าวไทยทั่วไปที่ภาครัฐกำหนด ดั่งสโลแกนที่ยึดมั่นมากว่า 30 ปี “มาตรฐานแน่นอนทุกถุง เหมือนกันทั่วโลก” ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทุกคนต้องได้กินข้าวที่มีมาตรฐานเดียวกันหมด สอง พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ต่อเนื่อง อย่างการนำเทคโนโลยีการเก็บรักษาข้าวสารมาใช้เพื่อล็อกความสดใหม่ของข้าว ทำให้ข้าวหอม นุ่ม เหนียว ตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นผู้นำในไทยที่เก็บข้าวไว้ที่ความเย็น 15 องศา ก่อนนำมาบรรจุถุงเมทัลไลซ์ ที่ช่วยรักษาคุณภาพและความสดใหม่ได้นานขึ้นจนถึงมือผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภครับประทานข้าวอร่อยได้ตลอดปี ขณะเดียวกัน ก็พัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อย่างการส่งเสริมปลูกข้าวสายพันธุ์ กข 43 หรือ ข้าวฉัตรไลท์ ข้าวน้ำตาลน้อย เป็นทางเลือกใหม่ของคนที่ต้องการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด ที่สำคัญ อร่อย นุ่ม น้ำตาลน้อย ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสุขภาพ สาม การกระจายสินค้า หรือ Distribution ที่ดี ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้าวตราฉัตรได้สะดวกมากขึ้น ทั้ง Modern Trade, Local Modern Trade, Traditional Trade, ช่องทางออนไลน์ หรือออฟไลน์ ตลอดจนการทำ Delivery มีพาร์ตเนอร์ครบทุกช่องทางการขาย และยังมีกลุ่มเชนร้านอาหารรายใหญ่ทั่วประเทศ ที่เป็นอีกหนึ่ง Touch Point ที่ทำให้ผู้บริโภคได้ลองสินค้าในวงกว้าง สี่ บริการที่ดี มีบริการรับประกันสินค้า ภายใต้โลโก้ Satisfaction Guarantee (เจ้าเดียวในประเทศไทยที่เปลี่ยนสินค้าทันทีหากไม่พึงพอใจ) หากลูกค้าซื้อไปแล้วพบว่าบังเอิญหยิบผิดสี หรือมีปัญหาด้านการจัดเก็บรักษา สามารถโทร.แจ้งได้ทันที มีทีมงานบริหารความพึงพอใจ ติดต่อประสานงานกลับ และเข้าไปเปลี่ยนสินค้าให้ใหม่ทันที พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านข้าวให้คำแนะนำกับผู้บริโภค สามารถติดต่อสอบถามได้ 24 ชั่วโมง ห้า สินค้าที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกกลุ่มความต้องการ ทั้ง B2C และ B2B นอกจากกลุ่มข้าวหอมมะลิ มีกลุ่มข้าวราคาประหยัด หรือข้าวที่เหมาะสำหรับทำข้าวผัด ข้าวเหนียวมะม่วง ปลายข้าวที่เอาไปทำโจ๊ก หก แบรนด์ดีที่ผู้บริโภคเชื่อมั่น ด้วยสิ่งสำคัญที่ข้าวตราฉัตรทำเสมอมาคือ “ความซื่อสัตย์กับลูกค้า” หน้าถุงเขียนไว้อย่างไร ในถุงเราก็เป็นแบบนั้น จะไม่หลอกหลวงผู้บริโภค ไม่ทำให้เกิดความสับสน
การได้รับรางวัลในครั้งนี้ จึงคิดเสมอว่าพอใจได้แค่วันเดียว และเรายังต้องมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีกว่าเดิม ในอนาคตจะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำข้าวต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และนวัตกรรมนี้ต้องเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ และตอบโจทย์ทุกความต้องการให้กับผู้บริโภคของเราได้ อีกทั้งยังช่วยให้สุขภาพของคนไทยดีขึ้นอีกด้วย”
ข้าวตราฉัตร ขอยืนเคียงข้างคนไทย ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ อีกทั้งให้บริการที่คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก พร้อมคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาสินค้าและบริการ ให้ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง