ทุเรียนถ่านหิน ดินแดนเคียนซา ของดีมาแรง แห่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี

“ทุเรียนถ่านหินพันธุ์หมอนทอง ที่เป็นทุเรียนที่มีรสชาติหวาน มัน กรอบ อร่อย และกลิ่นไม่ฉุนมากเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากบริเวณพื้นที่ปลูกมีถ่านหินจำนวนมาก ทำให้ทุเรียนได้รับธาตุซัลเฟอร์หรือกำมะถันที่ปะปนอยู่ในถ่านหิน ประกอบกับได้รับไนโตรเจนสูง จึงส่งผลต่อรสชาติของทุเรียนเป็นลักษณะเฉพาะ”

หากพูดถึงพืชทางการเกษตรในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลายท่านคงได้แต่นึกถึงเพียงยางพาราและปาล์มเท่านั้น คงไม่มีท่านใดนึกถึงทุเรียนอย่างแน่นอน ในช่วง 10 ปีหลังที่ผ่านมา เกษตรกรในพื้นที่จำนวนมาก หันมาทำเกษตรแบบผสมผสานด้วยการปลูกพืชหลายชนิดในแปลงเดียวกัน รวมถึงเลือกปลูกทุเรียนถ่านหินพันธุ์หมอนทองกันมากขึ้น และปรับรูปแบบการทำเกษตรแบบกึ่งสารเคมีและสารชีวภาพ

คุณณที นุ่นมา

เช่นเดียวกับ คุณณที นุ่นมา เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนและประธานแปลงใหญ่ทุเรียนถิ่นถ่านหิน หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เล่าให้ฟังว่า เริ่มจัดตั้งเป็นแปลงใหญ่เมื่อปี 2565 มีสมาชิก 66 คน พื้นที่ปลูก 699 ไร่ คนสมาชิกส่วนใหญ่ได้รับรองมาตรฐาน GAP เนื่องจากทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานเกษตรอำเภอเคียนซา ได้เข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อให้ทุเรียนมีคุณภาพ และปลอดภัย ส่วนการขอขึ้นทะเบียน GI อยู่ระหว่างดำเนินการในเรื่องเอกสาร ซึ่งจะต้องยื่นเรื่องไปที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นผู้พิจารณา ปัจจุบันมีสมาชิกทั้งหมด 67 คน มีพื้นที่ปลูก 799 ไร่

“นอกจากนี้ ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี และสำนักงานเกษตรอำเภอเคียนซา ยังเข้ามาส่งเสริมในเรื่องการดูแลและบำรุงต้นทุเรียน โดยให้เน้นการใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ และน้ำหมักชีวภาพแทนการใช้ปุ๋ยเคมี เพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการแนะนำให้เกษตรกรใช้สารชีวภัณฑ์ต่างๆ ในการกำจัดศัตรูพืช และแนะนำการใช้ระบบน้ำเพื่อลดการใช้แรงงานคน เพื่อให้เกิดการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้า และเป็นเกษตรกรสมัยใหม่ หรือ Smart Farmer”

ผลสุกพร้อมรับประทาน

ปัจจุบันสมาชิกในกลุ่มส่วนใหญ่ได้ขายทุเรียนให้กับล้ง (ผู้ประกอบการรับซื้อทุเรียน) ราคาหน้าสวนอยู่ที่กิโลกรัมละ 120-150 บาท อีกทั้งยังมีการขายผ่านช่องทางออนไลน์ในกิโลกรัมละ 180 บาท ถือเป็นราคาที่ดีทำให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอและยั่งยืน

โดยทุเรียนถ่านหิน มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีรสชาติหวาน มัน กรอบ และกลิ่นไม่ฉุนมาก ไม่เหมือนทุเรียนที่อื่นที่เวลาสุกจะมีกลิ่นฟุ้งกระจาย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในรสชาติของทุเรียน แต่ไม่ชอบกลิ่นฉุน ทำให้มีลูกค้าชอบรับประทานและมีออร์เดอร์สั่งซื้อทุเรียนถ่านหินเคียนซาจำนวนมากอย่างไม่ขาดสาย

สำหรับทุเรียนถ่านหิน หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา มีลักษณะผลใหญ่ ทรงกลม น้ำหนักประมาณ 2.5-5 กิโลกรัม เปลือกบาง หนามเป็นรูปพีระมิด เนื้อสีเหลืองนวล เนื้อแน่นแห้งไม่ติดมือ เส้นใยเหนียวนุ่ม รสชาติ หวานมัน กลมกล่อม กลิ่นไม่ฉุนมาก เมล็ดเล็ก และมีค่าความหวานประมาณ 12 องศาบริกซ์ขึ้นไป โดยเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี

กลุ่มแปลงใหญ่ทุเรียนถิ่นถ่านหิน อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เร่งขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ด้านกรมส่งเสริมการเกษตร ปูพรมให้ความรู้เกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพสินค้าสู่มาตรฐานสากล

ทุเรียนถ่านหินเริ่มให้ผลผลิต

ด้าน คุณรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวถึงจุดเด่นและผลการดำเนินงานของแปลงใหญ่ทุเรียนถิ่นถ่านหิน หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่าเป็นทุเรียนถิ่นพันธุ์หมอนทอง ที่มีรสชาติหวาน มัน กรอบ อร่อย และกลิ่นไม่ฉุนมากเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

เนื่องจากบริเวณพื้นที่ปลูกมีถ่านหินจำนวนมาก ทำให้ทุเรียนได้รับธาตุซัลเฟอร์ หรือกำมะถัน ที่ปะปนอยู่ในถ่านหิน ประกอบกับได้รับไนโตรเจนสูง จึงส่งผลต่อรสชาติของทุเรียนเป็นลักษณะเฉพาะ จนได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคที่ชื่นชอบอย่างแพร่หลาย

โดยพื้นที่การปลูกทุเรียนหมอนทองถิ่นถ่านหิน ครอบคลุมพื้นที่ในอำเภอเคียนชา ประกอบด้วยตำบลเขาตอก ตำบลเคียนซา ตำบลพ่วงพรมคร ตำบลอรัญคามวารี และตำบลบ้านเสด็จ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้ชื่อว่า ทุเรียนหมอนทองถิ่นถ่านหิน@เคียนชา

ถัดมา คุณชัยพร นุภักดิ์ เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังบอกเล่าเพิ่มเติมว่า ภายในปี 2566 สำนักงานเกษตรจังหวัดได้ดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น กิจกรรมส่งเสริมสินค้าเกษตรตามอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น

โดยเลือกสินค้าทุเรียนของอำเภอเคียนซา และได้ดำเนินการฝึกอบรมถ่ายทอดความรู้ในการจัดการสวนอย่างมีคุณภาพ รวมถึงอบรมกระบวนการในการจัดทำสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยได้เชิญสำนักงานพาณิชย์จังหวัดมาให้ข้อมูล และขณะนี้อยู่ระหว่างจัดทำคำขอขึ้นทะเบียน GI ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตสุราษฎร์ธานี ใช้ชื่อว่า ทุเรียนหมอนทองถิ่นถ่านหิน@เคียนชา เพื่อให้สอดรับกับการได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP สามารถยกระดับนำทุเรียนส่งออกไปขายยังต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ต้องดำเนินการก่อนเสนอขอ GI คือ การวิเคราะห์ธาตุอาหารและสารตกค้างในดินและผลผลิตที่เกี่ยวกับถ่านหินเพื่อรับรองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดจะดำเนินการในลำดับต่อไป

สำหรับท่านใดที่เป็นสาวกและแฟนตัวยงของทุเรียน ขอแนะนำทุเรียนถ่านหินพันธุ์หมอนทอง อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก รับรองเลยว่าหากทุกท่านได้ลองชิมครั้งแรกแล้ว ต้องมีครั้งที่สอง สาม สี่ และครั้งต่อๆ ไปแบบนับครั้งไม่ถ้วนเลยทีเดียว

หากลูกค้าท่านใดที่ต้องการสั่งซื้อทุเรียนถ่านหินเคียนซา คงต้องรีบเร่งหาช่องทางในการสั่งซื้อ หรือหากอดใจไม่ไหว สามารถติดต่อสอบถาม คุณณที นุ่นมา เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนและประธานแปลงใหญ่ทุเรียนถิ่นถ่านหิน หมู่ที่ 2 ตำบลพ่วงพรมคร อำเภอเคียนซา จังหวัดสุราษฎร์ธานี