มะนาวไร้เมล็ด เตรียมขึ้นแท่นมะนาวเงินล้าน ตลาดต่างประเทศต้องการ

พูดถึงเรื่องมะนาวทุกคนก็จะบอกว่าเป็นเรื่องทั่วๆ ไปมีปลูกกันเกือบทุกบ้าน แต่ถ้าบอกว่ามะนาวตาฮิติเป็นสายพันธุ์ที่ต้องการของต่างประเทศ เช่น ตะวันออกกลาง ซาอุดีอาระเบีย ดูไบ แถบเอเชีย เช่น บรูไน เป็นต้น แหล่งผลิตมะนาวอยู่ที่ บ้านแจ้คอน ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง นอกจากเป็นแหล่งปลูกแล้วยังมีตลาดแปรรูปทำเป็นมะนาวคั้นสดรองรับ ด้วยนวัตกรรมทำให้เหมือนมะนาวคั้นสดๆ และยังเก็บไว้ได้ถึง 2 ปี โดยรสชาติเหมือนคั้นสดใหม่ๆ

ปัจจุบันการปลูกมะนาวเป็นเรื่องทั่วไปของเกษตรกรไทย ที่พอถึงฤดูตามธรรมชาติของมะนาวก็จะมีปัญหาเรื่องมะนาวล้นตลาด แต่ปัจจุบันนี้เกษตรกรที่ปลูกมะนาวพันธุ์ตาฮิติที่ลำปางหมดปัญหาเรื่องมะนาวล้นตลาด มีแต่ประสบปัญหาเรื่องมะนาวขาดตลาด ไม่พอส่งออกและยังไม่พอป้อนโรงงาน จึงมีการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดย คุณอเนก ประสม เจ้าของไร่กาญจนา ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เป็นผู้ปลูกแหล่งใหญ่และมีเกษตรกรมารวมกลุ่มกันปลูกสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนที่มั่นคง โดยตลาดรองรับเดือนละกว่าหลายพันกิโลกรัม นี่แหละทำให้คุณค่าและการปลูกมะนาวหมดปัญหาเรื่องของมะนาวล้นตลาด จะมีก็ปัญหาเรื่องภัยแล้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ปัญหาต่อไปของเกษตรกรก็คือเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องน้ำเท่านั้น

เจ้าของไร่กาญจนา มะนาวตาฮิติ คุณเอนก ประสม

สายพันธุ์มะนาวตาฮิติ

เป็นสายพันธุ์ตลาดต่างประเทศต้องการ ตลาดแปรรูปเป็นน้ำมะนาวสดต้องการ เพราะสายพันธุ์นี้มีข้อดีคือให้ลูกใหญ่ น้ำเยอะ ดก ไร้เมล็ด และมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ตลาดต่างประเทศต้องการ และเป็นสายพันธุ์ที่นำมาแปรรูปแล้วไม่มีรสขม ความเปรี้ยวพอดี เป็นมะนาวที่ให้ผลผลิตทั้งปี โดยเฉพาะการทำเป็นมะนาวนอกฤดูที่ให้ผลผลิตสูงมาก

สวนมะนาวตาฮิติหลายไร่ ที่สร้างรายได้ที่มั่นคง

คุณอเนก กล่าวว่า การปลูกมะนาวนั้นไม่ยาก แต่การดูแลมะนาวในช่วงฤดูกาลต่างๆ นั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากสำหรับเกษตรกร บวกกับราคาและสภาพอากาศ เดิมทีตนเองปลูกมะนาวโดยไม่มีการวางแผนจะต่อยอดเป็นมะนาวแปรรูปและเริ่มต้นปลูกมาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบันกว่า 27 ปี และปลูกมะนาวพันธุ์ตาฮิติ บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์มะนาวที่ผู้บริโภคไม่นิยมกันมากนัก โดยเจ้าของไร่เป็นผู้ริเริ่มนำเอามะนาวสายพันธุ์ดังกล่าวมาปลูกในพื้นที่จังหวัดลำปางเป็นเจ้าแรกและปลูกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันและมีการขยายเนื้อที่ปลูกเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก จนปัจจุบันนี้ได้ขยายเพิ่มอีกเกือบร้อยไร่

สำหรับมะนาวสายพันธุ์ตาฮิตินั้นเดิมทีเป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศแต่ถูกนำเข้าประเทศไทยมาเกือบร้อยปี ซึ่งมะนาวพันธุ์ดังกล่าวไม่มีเมล็ด มะนาวตาฮิตินั้นเริ่มขยายพันธุ์ได้ดี ซึ่งปรับปรุงพันธุ์มาอย่างต่อเนื่องจนสามารถขยายพื้นที่ปลูกกันมากขึ้นเกือบทั่วประเทศ และเริ่มเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเกษตรกร พ่อค้าและแม่ค้า โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศ

ผลผลิตจากสวน เตรียมส่งลูกค้าเพื่อส่งโรงงานคั้นน้ำ

ลักษณะเด่นของสายพันธุ์ตาฮิติ

มะนาวพันธุ์ตาฮิติ มีคุณลักษณะที่โดดเด่นคือ เป็นมะนาวไร้เมล็ด มีขนาดใหญ่กว่ามะนาวทั่วไป ทนแล้ง ทนฝน ปัจจุบันมะนาวพันธุ์ตาฮิติเริ่มแพร่หลายให้กับเกษตรกรในพื้นที่เพิ่มขึ้น ผลพวงมาจากในช่วงโควิด-19 ระบาด มะนาวทั่วไปมีราคาสูงขึ้น เกษตรกรจึงหันมาสนใจมะนาวตาฮิติมากขึ้น ทั้งนี้ ได้เกิดการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนขึ้นในตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง มีสมาชิกอยู่ราว 60 ราย ผลิตมะนาวได้วันละ 10-38 ตัน หรือปีละกว่า 1 ล้านกิโลกรัม และทางไร่กาญจนาเองก็กลายมาเป็นศูนย์รวบรวมรับซื้อมะนาวเพื่อส่งเสริมชาวบ้านอีกหนึ่งช่องทาง จึงเกิดเป็นกลุ่มปลูกมะนาวอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ไร่กาญจนา และทีมวิจัย นาโนเทค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่เข้ามาสนับสนุนเรื่องงานวิจัยและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า สินค้าได้มาตรฐานและมีคุณภาพ

มะนาวตาฮิติ ลูกใหญ่ เตรียมส่งให้ผู้รับซื้อเพื่อส่งออก

โดยจุดเด่นอยู่ที่การเก็บด้วยการแช่เยือกแข็งแบบพิเศษ เป็นการปรับปรุงกระบวนการผลิตโดยปรับเปลี่ยนกระบวนการแช่เยือกแข็งในสภาวะที่ควบคุมอุณหภูมิและเวลา ซึ่งผลการทดสอบด้วยกระบวนการนาโนเทค สวทช. ปรับปรุงเพิ่มขึ้นคือ กลิ่น สี และรสของน้ำมะนาวแช่แข็งที่นำมาทำละลายแล้วสามารถเทียบเคียงได้กับน้ำมะนาวสดและดีกว่าน้ำมะนาวสดที่เก็บในรูปของเหลวในระยะเวลาเท่ากัน

นอกจากนี้ น้ำมะนาวแช่แข็งด้วยกระบวนการนาโนเทค สวทช. สามารถเก็บได้นานกว่า 2 ปี (เมื่ออยู่ในช่องแช่แข็ง) เมื่อผู้บริโภคนำมาละลายใช้งานทีละนิดจะสามารถเก็บได้ในตู้เย็น (เมื่ออยู่ในช่องแช่ปกติ) ได้นานอีก 3 เดือน และเมื่อนำไปทำละลายแล้ว สามารถเก็บในรูปแบบของเหลวได้นาน 1-2 สัปดาห์ โดยที่กลิ่น สี และรสยังคงเทียบเคียงได้กับน้ำมะนาวสด ตอบโจทย์ผู้บริโภคในเรื่องของกลิ่นและรสชาติของมะนาวคั้นสดและดีกว่าน้ำมะนาวสดที่เก็บในรูปของเหลวในระยะเวลาเท่ากัน ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมะนาวสดแช่แข็งภายใต้ชื่อการค้าว่า “มะนีมะนาว” มาปรุงอาหารมากขึ้น โดยแหล่งแปรรูปก็อยู่ในภาคเหนือคือที่จังหวัดเชียงใหม่

คัดเกรดมะนาว

ปัญหาเรื่องมะนาวล้นตลาดไม่มี

มีแต่มะนาวขาดตลาด

เมื่อมีตลาดมารองรับโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศและการแปรรูปจากเทคโนโลยีแบบนาโนเทค การร่วมมือวิจัยและผลิตผลออกมาจากทางการ ทำให้ผลผลิตมะนาวออกมาไม่พอขายด้วยซ้ำไป ยิ่งในปีนี้เจอภาวะโลกร้อน ทำให้ผลผลิตทั่วโลกลดลง แต่ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ตอนนี้ได้มีกลุ่มเกษตรกรที่มีเจตจำนงที่จะปลูกมะนาวเพื่อการค้าเพิ่มขึ้น ก็เห็นว่าตัดปัญหาเรื่องราคาตกต่ำมีแต่ราคาจะเพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรลืมตาอ้าปากได้เพราะมะนาวสายพันธุ์ตาฮิติ

มะนาวจากกลุ่มผู้ปลูกส่งมาที่ไร่เพื่อรวบรวมขาย ให้ลูกค้า

การปลูก

ที่ไร่จะใช้กิ่งพันธุ์เป็นกิ่งตอน จากประสบการณ์ปลูกมากว่า 27 ปี ปลูกด้วยกิ่งตอนได้ผลค่อนข้างดี สำหรับพื้นที่ปลูกที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ใช้ระยะเวลาในการปลูกปีกว่าๆ ก็ให้ผลผลิตแล้ว สายพันธุ์มะนาวตาฮิติปลูกง่าย ดูแลง่ายกว่ามะนาวสายพันธุ์อื่น ที่ไร่ปลูกทั้งวงบ่อและลงดิน ระยะห่าง 4×4 เมตร การปลูกทั้งสองแบบได้ผลผลิตพอๆ กัน แล้วแต่พื้นที่ที่เหมาะสมของแต่ละคน หากจะปลูกต้นมะนาวตาฮิติไว้ในบริเวณบ้านควรเลือกพื้นที่ที่แสงแดดสามารถส่องถึงได้ตลอดทั้งวัน เพราะต้นมะนาวตาฮิติชอบแสงแดดตลอดวัน จะเลือกปลูกในพื้นที่กลางแจ้งก็ได้ เนื่องจากต้นมะนาวตาฮิติสามารถทนต่อความแห้งแล้งได้ดี และจะให้ผลผลิตตลอดฤดูกาลด้วย

ได้รับการสนับสนุนจากทางการเพื่อทำเป็นน้ำมะนาวคั้นสด

การเกษตรในปัจจุบันจากภาวะโลกร้อน ชาวสวนชาวไร่ต้องมีการวางแผนเรื่องน้ำให้ดี เพราะน้ำเป็นปัจจัยหลักของชาวสวน นอกจากการแบ่งพื้นที่เป็นสระเก็บน้ำแล้ว อาจจะต้องมีเรื่องของการนำน้ำใต้ดินมาใช้แต่ก็เป็นขั้นตอนของทางการอนุญาตต่อไป

การปลูกมะนาวพันธ์ตาฮิติข้อดีคือเป็นพันธุ์ที่ทนทานต่อโรคและแมลง ใบหนา เปลือกผลหนา แมลงไม่ชอบ และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของพันธ์ตาฮิติ คือออกดอกติดผลตลอดปี โดยไม่ต้องใช้สารเคมีเร่งโต ระยะการปลูก ห่างประมาณ 4×4 เมตร ที่ไร่ใช้กิ่งตอน ปลูกด้วยกิ่งตอน ปีกว่าๆ ก็ให้ผลผลิตและเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

มะนาวตาฮิติเจริญเติบโตได้ดี ในการปลูกในวงบ่อ

มะนาวตาฮิติมีถิ่นกำเนิดมาจากเกาะตาฮิติ รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในประเทศไทยมีการนำเข้ามาปลูกนานหลายปีแล้วในชื่อ “มะนาวตาฮิติ” หรือมะนาวไร้เมล็ด ซึ่งนำเข้ามาโดยกรมวิชาการเกษตร ในช่วงแรกได้ทำการศึกษาและลองปลูกขยายพันธุ์พบว่ามะนาวพันธุ์นี้สามารถเติบโตได้ดีในทุกภูมิภาคของประเทศไทย ซึ่งเป็นมะนาวสายพันธุ์ที่มีผลใหญ่มาก ไร้เมล็ด ปลูกง่าย โตเร็ว ออกผลตลอดปี ทนต่อโรคและแมลง แต่มีเปลือกหนา เมื่อก่อนคนไทยไม่ค่อยนิยมมากนัก ส่วนใหญ่จะนิยมส่งออกไปต่างประเทศมากกว่าแต่ปัจจุบันทั้งคนไทยทั้งต่างประเทศนิยมบริโภคมะนาวนี้เนื่องจากออกทั้งปี จึงทำให้มะนาวพันธุ์นี้ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายและยังช่วยให้มีรายได้มากขึ้น

ผลของมะนาวตาฮิติจะมีลักษณะเป็นรูปกลมรีคล้ายรูปหยดน้ำ บางที่ก็มีผลกลม ปลายผลกว้าง หัวผลเรียว ไม่มีเมล็ด เมื่อผลโตเต็มที่จะมีน้ำหนักเฉลี่ยระหว่าง 3-4 ผลต่อ 1 กิโลกรัม เปลือกผลบาง ผลอ่อนจะมีเปลือกสีเขียวเข้ม เมื่อสุกจะเป็นสีเหลือง ซึ่งผลจะให้น้ำเยอะ รสเปรี้ยวจัด สามารถปรุงอาหารได้เหมือนกับมะนาวทั่วไปทุกอย่าง ผิวของเปลือกผลจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว โดยจะนิยมคั้นเอาน้ำมาทำเป็นน้ำมะนาวปั่น จะได้รสชาติที่สดชื่น

เกษตรกรยุคใหม่หรือคนรุ่นใหม่บางคนสนใจที่จะปลูกมะนาวเป็นอาชีพเสริม ซึ่งทางคุณอเนกก็ได้ลองผิดลองถูกเรื่องสายพันธุ์มะนาวโดยเลือกปลูกพันธุ์ตาฮิติมากว่า 27 ปี สะสมความรู้และเก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ ในการทำสวนมะนาวช่วงแรกๆ จะเหนื่อยมากๆ ต้องใช้ความพยายามการต่อสู้เรื่องการตลาดมามากมาย แต่ก็ผ่านช่วงนั้นมาได้ ปัจจุบันรอเก็บผลผลิตดูแลต้นอย่างเดียว การทำสวนมะนาวแบบผมบอกเลยว่า ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นก็เพราะมะนาวพันธุ์ตาฮิตินี่แหละ

มะนาวตาฮิติเจริญเติบโตได้ดี ในการปลูกในวงบ่อ

ข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจที่จะเป็นเกษตรกรรายใหม่ เรื่องการปลูกมะนาวพันธุ์ตาฮิติ เพราะเรื่องของการใช้สารเคมีน้อยมาก ไม่กระทบเรื่องสุขภาพ เพราะโดยสายพันธุ์นี้ทนต่อโรคและถูกกันกับสภาพอากาศอย่างบ้านเราได้ดีมาก ปลูกแบบธรรมชาติปลอดสาร

บรรยากาศและทางเข้าสวนมะนาว

การตลาดปัจจุบันมะนาวสายพันธุ์ตาฮิติเป็นที่นิยมของตลาดแปรรูปเป็นน้ำมะนาวคั้นสด และยังจะมีนวัตกรรมจากแปรรูปเปลือกมะนาวให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย การหันมาปลูกมะนาวเป็นเรื่องของการเกษตรที่มีความเสี่ยงน้อย อย่างน้อยก็มีตลาดรองรับทั้งในและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ตะวันออกกลาง เป็นต้น ราคาปัจจุบันจะมีเป็นช่วง เป็นเรื่องธรรมดา มะนาวถ้าช่วงแล้งและนอกฤดูกาลจะมีราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 55-60 บาท จะอยู่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน ถ้าช่วงฤดูกาลจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 13-15 บาท

คุณเอนก ประสม กับความภูมิใจกับสวนมะนาวตาฮิติ

การดูแลและการให้ปุ๋ยให้ได้ผลผลิตสูงสุดและหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมี ทางไร่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์เป็นหลัก จะมีปุ๋ยเคมีบ้างแต่ใช้เพียงระยะเริ่มต้นเท่านั้น จะใช้สูตร 25-7-7 นอกนั้นจะเป็นมูลสัตว์ ปุ๋ยหมักที่ไร่ก็จะหมักจากเศษใบไม้ใบหญ้าที่ได้จากการตัดแต่งกิ่งภายในสวน เช่น ใบไม้จากต้นลำไย เป็นต้น การทำสวนมะนาวเกษตรปลอดภัยนั้น อันดับแรก การเลือกสายพันธุ์ที่เจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ปลูกตามธรรมชาติ โดยไม่ใช้สารเคมีฉีดพ่นจากการรบกวนของโรคและแมลง เป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อโรค และทนแล้งได้ดี

คุณเอนก ประสม กับความภูมิใจกับสวนมะนาวตาฮิติ

หากสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณอเนก ประสม แห่งไร่กาญจนา ตำบลทุ่งผึ้ง อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เบอร์โทรศัพท์ 086-197-7112 เพจ : ไร่กาญจนา ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง