ฝนตกดีดันจีดีพีเกษตรโตถึง4% สศก.เล็งขยับเพิ่มจากร้อยละ3.5 แห่ปลูกข้าวนาปรังขยายตัว112%

น.ส.จริยา สุทธิไชยา เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการเกษตร (จีดีพีเกษตร) ไตรมาส 2/2560 ขยายตัว 11.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากปริมาณน้ำใช้การได้ในอ่างเก็บน้ำที่สำคัญมีเพียงพอต่อการผลิต สภาพอากาศเอื้ออำนวยกว่าปีที่ผ่านมา รวมถึงมาตรการด้านเกษตรของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง

น.ส.จริยากล่าวว่า หากวิเคราะห์แต่ละสาขาพบว่าสาขาพืชขยายตัวสูงสุด 15.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ข้าวนาปรัง มีพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มขึ้นเป็น 10.89 ล้านไร่ หรือเพิ่มขึ้น 112% เทียบปี 2559 มีเนื้อที่เพาะปลูก 5.14 ล้านไร่ ยางพารา ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน สับปะรดโรงงาน ปาล์มน้ำมัน รวมทั้งกลุ่มไม้ผล ลำไย ทุเรียน มังคุด และเงาะ เพราะสภาพอากาศอำนวยให้ออกดอกและติดผลดี ส่วนราคาปรับตัวดีขึ้นค่อนข้างมาก เนื่องจากความต้องการของตลาดยังคงมีอย่างต่อเนื่อง สาขาปศุสัตว์ ขยายตัว 2% และมีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สุกรและไข่ไก่มีราคาเฉลี่ยลดลง สาขาประมง ขยายตัว 5.2% สาขาบริการทางการเกษตร ขยายตัว 6.5% จากการจ้างบริการ เตรียมดิน ไถพรวนดิน และการให้บริการเกี่ยวนวดข้าวนาปรังที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น

แนวโน้มจีดีพีเกษตรปีนี้คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.5-3.5% และมีความเป็นไปได้สูงจะขยับขึ้นมาอยู่ในช่วง 3.5-4% เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของน้ำในปีนี้ที่มีมากกว่าปีที่ผ่านมา รวมทั้งยังมีการผลักดันงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐาน ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นผลในไตรมาส 4/2560 อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามเป็นรายภาคว่าจะมีปริมาณน้ำมากเกินไปขึ้นไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกให้ได้รับความเสียหายได้Ž น.ส.จริยากล่าว

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน