ผู้เขียน | ภูมิชาย คชมิตร |
---|---|
เผยแพร่ |
อาหารมื้อค่ำส่งกลิ่นหอม ลาบปลาดุกมื้อนี้มีความพิเศษที่เครื่องเคียงที่นำมาปรุงครับ ข่าลิง (หรือชื่ออื่นๆ เรียกว่า ข่าเล็ก ข่าน้อย ข่าป่า ข่าน้ำ) ชื่อสามัญ Joint-whip Ginger Lesser Alpinia ชื่อวิทยาศาสตร์ Alpinia Conchigera Griff. เล่าถึงข่าลิงที่นำมาปรุงลาบปลาดุกสักหน่อยครับ ข่าลิงที่มีรสเผ็ดร้อนขมซ่านี้ เป็นไม้ล้มลุกเหง้าอยู่ในดินสูงราวครึ่งเมตรถึงเมตรครึ่ง ส่วนของเหง้าที่นำมาปรุงใส่ลาบปลาดุกนี้สรรพคุณแก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ รวมทั้งมีส่วนช่วยกระตุ้นในการย่อยอาหาร การนำข่าลิงมาใส่ลาบปลาดุกจะช่วยเรื่องรสชาติเพิ่มความเผ็ดร้อนขมซ่าเวลารับประทาน การทำลาบปลาดุกมีดังนี้ครับ นำปลาดุกย่างไฟแล้วแกะก้างออกเอาเฉพาะเนื้อสับให้ละเอียด




วัตถุดิบ
- พริกป่น 1 ช้อนชา
- ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ
- เกลือนิดหน่อย
- ต้นหอม (หั่นฝอย)
- ข่าลิง (ข่าลิง ข่าป่า) 1 หัว สับละเอียด
- หอมดง 1 หัว (หั่นละเอียด)
- กระเทียม 5 กลีบ (หั่น)
- ผักชีหั่นฝอย
- ผักใบเลื่อย (อีสานเรียกว่า หอมเป หั่นฝอย)
- มะนาว นิดหน่อย
ข้อแตกต่างจากการทำน้ำพริกคือ เราจะสับเนื้อปลาดุกแล้วนำมาคั่ว ส่วนการทำน้ำพริกต้องนำปลาไปต้ม






ขั้นตอนการทำ
1. เหยาะปลาร้าลงเนื้อปลาดุกสับนิดหน่อยพอมีกลิ่นหอม
2. คั่วใส่หม้อที่ตั้งบนเตาไฟ 5 นาที เพราะว่าเนื้อปลาดุกสุกอยู่แล้ว
3. ใส่พริก 1 ช้อนชา
4. ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
5. เกลือนิดหน่อย คนให้เข้ากัน เหยาะผงชูรสนิดหน่อย ชิมแล้วบีบมะนาว ใส่เครื่องเคียง สับข่าลิง ให้สับแบบหยาบๆ เพราะกลิ่นเผ็ดร้อนซ่าขึ้นจมูก ทุบกระเทียมหั่นฝอย หอมหั่นละเอียด หั่นผักใบเลื่อย ใส่ผักทุกอย่างที่เตรียมไว้ ใช้ทัพพีคนคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จพิธีพร้อมเสิร์ฟรับประทาน






อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ของลาบปลาดุกที่มาจากข่าลิงก็คือรสเผ็ดร้อนขมซ่า ในส่วนอื่นๆ ของข่าลิงก็มีประโยชน์เช่นกัน ยอดอ่อน หน่ออ่อน รับประทานกับน้ำพริก ดอกผลสรรพคุณช่วยขับพยาธิ ส่วนเหง้าแก่ ตำเอาน้ำมาทาบริเวณที่มีอาการแมลงต่อย จะช่วยบรรเทาเรื่องการปวดบวมได้ด้วย