ที่มา | เทคโนโลยีชาวบ้านออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากปั ญหาการขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตร ที่มีความชำนาญในการเก็บเกี่ ยวผลกาแฟ ทำให้เกิดการเก็บผลกาแฟอ่ อนปะปนกับผลกาแฟสุกที่มีคุ ณภาพดี ส่งผลให้กาแฟที่ได้มีคุณภาพต่ำ และไม่เป็นที่ยอมรับของผู้บริ โภค เนื่องจากเมล็ดกาแฟที่ได้ จากผลกาแฟระยะต่างๆ มีกรดอินทรีย์ที่มีผลต่อกลิ่น รส และความรู้สึกในการชิมหลังคั่ วบดแล้วแตกต่างกัน โดยเมล็ดกาแฟที่ได้จากผลกาแฟที่ สุกแดงจะมีปริมาณกรดอินทรีย์ที่ มีผลต่อกลิ่นรสที่ดีเป็นที่ชื่ นชอบและได้รับการยอมรับจากผู้ บริโภค
จากปั ญหาการขาดแคลนแรงงานในการเก็ บเกี่ยวผลกาแฟที่มีความชำนาญดั งกล่าว กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลั งการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิ ตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร จึงได้ดำเนินการวิจัย พัฒนาต่อยอด ออกแบบและคิดค้นจนได้แผ่นเที ยบสีสำหรับใช้ประเมินความสุกแก่ ผลกาแฟที่จะเก็บเกี่ยวจากแปลง โดยเป็นเครื่องมือที่สามารถปฏิ บัติได้ง่าย และสะดวกต่อการใช้ งานของเกษตรกรและแรงงานรับจ้ างเก็บเกี่ยวผลกาแฟจากแปลง ช่วยให้ เกษตรกรสามารถกำหนดเวลาที่ เหมาะสมในการเก็บกาแฟได้อย่างถู กต้องทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ
นางสาวอารีรัตน์ การุณสถิตย์ชัย นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลั งการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิ ตผลเกษตร กล่าวว่า แผ่นเทียบสีสำหรับการเก็บเกี่ ยวผลกาแฟ มีลักษณะเป็นกระดาษแข็งเคลื อบพลาสติกด้านที่มีสีสันแตกต่ างกัน แต่ละสีจะแสดงถึงระดับความสุ กแก่ของผลกาแฟ โดยแผ่นเทียบสีกาแฟนี้จะเป็นต้ นแบบจากงานวิจั ยสามารถนำแถบไปทาบกั บผลกาแฟกลางผลซึ่งเป็นส่วนที่ แสดงถึงการสุกได้ชัดเจนที่สุ ดโดยเบอร์ 1 เป็นผลที่ยังไม่สุก (สีชมพู) เบอร์ 2 สุกแล้ว (สีแดง) ส่วนเบอร์ 3 สุกมากเกินไป (สีแดงเข้ม) วิธีการใช้ให้นำแผ่นเทียบสี ผลกาแฟวางด้านบนผลกาแฟที่ต้ องการ โดยให้ช่องว่างของแผ่นเทียบสี ตรงกับกลางผลกาแฟ เลื่อนหาช่องสีของแผ่นเทียบสีที่ มีสีใกล้เคียงกับผลกาแฟที่ต้ องการมากที่สุด ซึ่งถ้าเก็บเกี่ยวผลกาแฟที่มี ความสุกแก่เหมาะสมในระยะที่ 2 (สีแดง) ปริมาณมากถึง 80% จะทำให้ราคาของผลผลิตเพิ่มมากขึ้ นกิโลกรัมละ 5 บาท
ในอดีตเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมั กใช้วิธีการเก็บเกี่ยวผลกาแฟด้ วยมือ โดยสังเกตจากสีของเปลื อกผลกาแฟซึ่งวิธีนี้อาจมี ความคลาดเคลื่อนได้ จากสภาพอากาศและปัจจัยแวดล้อมอื่ นๆ ที่ส่งผลต่อสีของเปลือกผลกาแฟ แผ่นเทียบสีสำหรับการเก็บเกี่ ยวผลกาแฟที่กรมวิชาการเกษตรผลิ ตขึ้นดังกล่าวได้รับการรั บรองและการยอมรับจากผู้มี ความชำนาญในการเก็บเกี่ ยวผลกาแฟและผู้ประกอบการกาแฟว่ าเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ เกษตรกรสามารถประเมินความสุกแก่ ของผลกาแฟและเก็บเกี่ยวผลกาแฟที่ สุกเต็มที่ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้ น ส่งผลดีต่อคุณภาพของกาแฟ ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่สูงขึ้ น โดยกรมวิชาการเกษตรได้จัดฝึ กอบรมเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ กลุ่มเป้าหมายแล้วพบว่าเกษตรกร ผู้รับจ้างเก็บเกี่ยว และผู้ประกอบการ ให้การยอมรับเทคโนโลยีแผ่นเที ยบสีดังกล่าว เนื่องจากสามารถจำแนกการสุกแก่ ของผลกาแฟตั้งแต่ผลไม่สุก สุก และสุกเกินไปอย่างรวดเร็ว ง่าย และสะดวกต่อการใช้งาน ทำให้ผลงานวิจัย “แผ่นเทียบสี สำหรับการเก็บเกี่ยวผลกาแฟเชอร์ รีในระยะที่เหมาะสม” ได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่น ประเภทสิ่งประดิษฐ์คิดค้น จากกรมวิชาการเกษตร