8 ทรงต้นไม้ เลือกยังไง? ให้เหมาะกับสวนตัวเอง

ถ้าพูดถึง “ต้นไม้” เวลาที่เลือกซื้อเคยสังเกตรูปทรงต่างๆ ของต้นไม้กันไหม ว่ามีหลากหลายรูปทรง ไม่ใช่ว่าต้นไม้ที่ซื้อไปปลูกจะสามารถปลูกตามมุมต่างๆ ของสวนได้นั่นเอง 

ใครกำลังมองหาต้นไม้ไว้ปลูกในสวน สิ่งสำคัญที่ต้องรู้จักและทำความเข้าใจก่อนปลูก การเลือกรูปทรงต้นไม้ให้เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่สวน ให้ตอบโจทย์การใช้งาน หลายคนอาจจะไม่ได้สังเกตถึงรูปทรงของต้นไม้มากนัก วันนี้เทคโนโลยีชาวบ้านรวบรวม 8 ทรงต้นไม้ มีลักษณะแบบไหนกันบ้างต้องไปดู 

1.ทรงร่ม

ต้นไม้รูปทรงนี้มักจะมีอายุหลายปี ลักษณะเป็นต้นไม้ใหญ่ โดยจะแผ่กิ่งก้านออกไปได้ไกล มักจะแผ่กว้างออกด้านข้างมากกว่าสูงขึ้น เป็นรูปทรงที่สะดุดตา ควรปลูกในพื้นที่โล่งที่ไม่มีต้นไม้ต้นอื่นร่วมด้วย เหมาะกับการปลูกในจุดที่ต้องการร่มเงาและใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใต้ร่มไม้ เช่น ลานกิจกรรม เนื่องจากมีกิ่งค่อนข้างทึบและรอบๆ ลำต้นโล่ง 

🌳ต้นไม้ชนิดรูปทรงร่ม ได้แก่ จามจุรี ไทรย้อย โพ ไผ่น้ำเต้า หางนกยูง ประดู่อังสนา

2.ทรงกระบอก

ต้นไม้รูปทรงนี้จะมีลักษณะเป็นแท่งสูง จะแผ่กิ่งก้านออกจากลำต้นในระยะเท่ากัน กิ่งของต้นจะชี้ขึ้นด้านบน มักปลูกเรียงชิดกันเพื่อใช้เป็นรั้วสำหรับช่วยบังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ได้ มักใช้การตัดแต่งกิ่งให้เป็นทรงเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะปลูกเป็นกลุ่มหรือกอมากกว่า ถ้าปลูกไว้ต้นเดียวอาจจะดูแข็งและโดดเกินไป

🌳ต้นไม้ชนิดรูปทรงกระบอก ได้แก่ ไทรเกาหลี ข่อย (ตัดแต่ง) ไผ่เหลืองทอง มะฮอกกานีใบใหญ่

3.ทรงแผ่เป็นชั้น

ต้นไม้รูปทรงแผ่เป็นชั้นจะมีลักษณะคล้ายรูปทรงกรวยและแผ่กว้าง เหมาะจะปลูกเป็นต้นเดียว ไม่ควรปลูกใกล้บริเวณตัวบ้านหรืออาคาร เป็นต้นไม้ที่มีระบบรากใหญ่และมีใบค่อนข้างเยอะ ทำให้ใบร่วงต้องคอยเก็บกวาดตลอด ทำให้เกิดอันตรายกับโครงสร้างทั้งผิวดินและใต้ดินจึงไม่แนะนำให้ปลูกใกล้บ้านนั่นเอง 

🌳ต้นไม้ชนิดทรงแผ่เป็นชั้น ได้แก่ หูหนู หูกระจง หูกวาง พญาสัตบรรณ

4.ทรงกรวย

ต้นไม้รูปทรงนี้จะมีลักษณะแผ่กิ่งก้าน มีฐานกว้างและส่วนยอดแคบลง จึงถูกเรียกว่าทรงพีระมิด นอกจากนี้ ยังเหมาะกับการปลูกแบบเพียงต้นเดียว หรือเป็นกลุ่มเพื่อเป็นจุดเด่นร่วมกับกลุ่มไม้พุ่ม เนื่องจากต้นไม้ทรงนี้ต้องการพื้นที่ในการปลูก ควรปลูกเว้นห่างจากต้นอื่น เพราะกิ่งจะแผ่ออกมาในระยะกว้าง

🌳ต้นไม้ชนิดรูปทรงกรวย ได้แก่ สนแผง สนฉัตร สนทะเล กระดังงาไทย จำปี จำปา บุนนาค คำมอกหลวง

5.ทรงกลม

ต้นไม้รูปทรงนี้จะมีลักษณะลำต้นที่แข็งแรง จะแผ่กิ่งออกมาทั้งด้านสูงและด้านกว้างเท่าๆ กัน เหมาะกับการใช้งานได้หลากหลาย ช่วยให้ร่มเงาได้ ไม่กินพื้นที่กว้าง ช่วยให้บรรยากาศในสวนดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น สามารถปลูกรวมกับต้นไม้ทรงอื่นได้ด้วย เหมาะกับการปลูกที่สนามเด็กเล่น สนามกีฬา ลานจอดรถ หรือลานกิจกรรม 

🌳ต้นไม้ชนิดรูปทรงกรวย ได้แก่ พิกุล มะขาม มะม่วง ขี้เหล็ก ชงโค ตีนเป็ดน้ำ

6.ทรงแผ่กว้าง

ต้นไม้รูปทรงนี้จะมีลักษณะมีกิ่งแผ่ออกไปแนวนอนมากกว่าชี้ด้านบน เป็นอีกทรงที่ให้ร่มเงาได้ดี เหมาะสำหรับปลูกบริเวณลานกิจกรรมที่ต้องการแสงแดดส่องไปถึง และยังนิยมปลูกบริเวณรอบจุดชมวิว สวนสาธารณะ มีขนาดให้เลือกตามความชอบ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่

🌳ต้นไม้ชนิดรูปทรงแผ่กว้าง ได้แก่ โสกพวง ตันหยง ขี้เหล็กอเมริกัน ลั่นทม องุ่นทะเล พู่ชมพู แสงจันทร์ จิกน้ำ 

7.ทรงห้อย

ต้นไม้รูปทรงห้อยจะมีลักษณะเด่นคล้ายรูปทรงร่ม ห้อยโค้งลงมา มีความโดดเด่นแปลกตา กิ่งจะห้อยโน้มลงด้านล่าง เหมาะสำหรับปลูกเพียงต้นเดียว เพื่อให้กิ่งห้อยพลิ้วลงมาดูไม่รกเกินไป นิยมปลูกใกล้แหล่งน้ำหรือบริเวณที่มีลมพัด นอกจากนี้ ยังใช้ไม้เลื้อยหรือไม้คลุมดินบางชนิดปลูกให้เลื้อย 

🌳ต้นไม้ชนิดรูปทรงห้อย ได้แก่ ไทรอิเรกูลา หลิว แปรงล้างขวด รัตมา โสกน้ำ ลีกวนยูแฮร์ เฟินสไบนาง เดป

8.ทรงไม่สม่ำเสมอ

ต้นไม้รูปทรงไม่สม่ำเสมอจะมีลักษณะไม่ชัดเจน กิ่งก้านผิดรูป ต้นไม้ลักษณะนี้จึงหายากและมีราคา สามารถปลูกร่วมกับต้นไม้ชนิดอื่นๆ ได้ เหมาะสำหรับปลูกบริเวณแนวกำแพงหรือใกล้แหล่งน้ำ นิยมนำมาใช้จัดสวน ปลูกไว้ต้นเดียวก็ทำ

🌳ต้นไม้ชนิดรูปทรงไม่สม่ำเสมอ ได้แก่ เหลืองปรีดียาธร ตีนเป็ดฝรั่ง น้ำเต้าต้น ชวนชม ลั่นทม เสม็ดแดง

หลังจากที่ดูรูปทรงต่างๆ ของต้นไม้ และรายละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลส่วนหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจในการเลือกต้นไม้มาปลูก ให้ตรงตามความต้องการและพื้นที่ที่เรามี เพราะต้นไม้ขนาดเล็กตอนที่จัดวางอาจจะยังไม่เห็นภาพมากนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปต้นไม้เหล่านี้ก็จะเติบโตและมีลักษณะที่ต่างจากตอนนำมาปลูกนั่นเอง จึงควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนปลูก 

ขอบคุณข้อมูล : บ้านและสวน / Green Civil

#ต้นไม้จัดสวน #ต้นไม้แต่งบ้าน #ทรงต้นไม้ #จัดสวน #เทคโนโลยีชาวบ้าน