เปิดวาร์ป 89 Slow Bar ร้านกาแฟสดสุดชิลล์ ในสไตล์ Slow Bar

การได้จิบกาแฟรสชาติดีๆ ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ นั่นคือความสุขที่แท้จริงของการได้ดื่มกาแฟ ยิ่งถ้าเป็นกาแฟที่ใช้ความพิถีพิถันในการชงด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเติมเต็มความสุขของเราได้มากขึ้นไปอีก วันนี้เราจะมาเอาใจคอกาแฟ โดยจะพาทุกคนไปรู้จักร้าน 89 Slow Bar กาแฟชงช้าๆ แต่รสชาติเต็มร้อย สำหรับคอกาแฟที่เน้นรสชาติของกาแฟจริงๆ ได้ดื่มด่ำทั้งรสชาติและกลิ่นของมันอย่างเต็มที่ แม้จะใช้เวลาในการทำที่ค่อนข้างนาน แต่รับรองว่าคุ้มค่าคุ้มเวลาแน่นอน พูดมาขนาดนี้ สายกาแฟคงอยากรู้แล้วสิว่า 89 Slow Bar ร้านนี้เป็นยังไงแล้วอยู่ที่ไหน ถ้าพร้อมแล้วตามมาดูกันเลย!

ถ้าจะบอกว่าเป็นร้านก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะจริงๆ แล้ว 89 Slow Bar เป็นรถกระบะเก่าๆ ที่ตกแต่งในแนววินเทจแล้วมาจอดเปิดท้ายขายกาแฟริมถนนหน้าโรงพักเมืองสมุทรสงคราม โดยความพิเศษของกาแฟที่ขายเป็นกาแฟสดที่ชงในสไตล์ที่เรียกกันว่า Slow Bar

ขออนุญาตใช้พื้นที่สักเล็กน้อยในการอธิบายสำหรับใครหลายๆ คนที่อาจจะฟังแล้วงงว่า Slow Bar คืออะไร? แล้วอะไรคือ Slow Bar?… Slow Bar เป็นการชงกาแฟอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังฮอตฮิตและถูกใจคอกาแฟเป็นพิเศษ คือ เป็นการชงกาแฟโดยไม่ใช้เครื่องชงเอสเพรสโซ่ ไม่ใช้เครื่องชงกาแฟที่ใช้ไฟฟ้า เน้นความพิถีพิถัน ต้องชั่งตวงทั้งเมล็ดกาแฟและปริมาณน้ำในการชงกาแฟอย่างพอดี และต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน เฉลี่ยแล้ววิธีการชงกาแฟ Slow Bar แต่ละแบบจะใช้เวลานาน มีตั้งแต่ 5 นาที หรือ 10-20 นาที มีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น กาแฟดริป (Drip Coffee), แอโรเพรส (Aeropress), เฟรนช์เพรส (French Press), มอคค่าพอต (Moka Pot) และไซฟอน (Syphon)

ซึ่งกาแฟประเภทนี้เหมาะสำหรับคนที่หลงใหลและชื่นชอบศิลปะการชงกาแฟเพราะแต่ละวิธีการชงนั้นจะเป็นไปอย่างช้าๆ ชิลล์ๆ ใช้เวลา ใช้ความพิถีพิถันในการชง แน่นอนว่ามันตรงข้ามกับ Speed Bar แล้ว Speed Bar เป็นอย่างไร?… Speed Bar ก็เป็นกาแฟที่ใช้เครื่องชงกาแฟสดที่เราเห็นกันทั่วๆ ไปตามร้านกาแฟสดยี่ห้อดังๆ หรือในร้านกาแฟสดทั่วไปนั่นแหละ พอถึงตรงนี้แล้วพูดให้เห็นภาพง่ายๆ เลยก็คือ Speed Bar ใช้เครื่องชงที่เป็นเครื่องจักรและใช้ไฟฟ้า ส่วน Slow Bar ไม่ใช้ไฟฟ้า เน้นใช้เครื่องมืออาศัยแรงคนเป็นหลักเพื่อทำกาแฟ

กลับมาที่ 89 Slow Bar ของเรากัน ร้านนี้เริ่มต้นมาจาก คุณแนน ศริยา ศรีสว่าง สาวแม่กลอง วัย 34 ปี ที่ชอบดื่มกาแฟดริปหลงใหลชื่นชอบในรสชาติของกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนเธอตัดสินใจใช้เวลาว่างจากการทำงานประจำออกเดินทางท่องเที่ยวตระเวนชิมกาแฟไปเรื่อยๆ ทั่วประเทศตั้งแต่เหนือจรดใต้ จนพบเมล็ดพันธุ์กาแฟที่ถูกใจใช่เลย เหมาะในการเอามาทำเป็นกาแฟสดสูตรของเธอเอง จึงตัดสินใจนำเงินเก็บไปซื้อรถกระบะมือสองพร้อมแต่งเป็นแนววินเทจ แล้วเลือกพิกัดใกล้บ้านมาจอดเปิดท้ายขายกาแฟสดริมถนนหน้าโรงพักเมืองสมุทรสงคราม

สำหรับวิธีการชงแบบ Slow Bar ที่ร้าน 89 Slow Bar จะใช้เครื่องสกัด Log สำหรับสกัดให้ได้ช็อตเอสเปรสโซ่เป็นตัวหลัก ซึ่งวิธีการนี้บอกเลยว่าคลาสสิกมากๆ ไม่ค่อยได้เห็นที่ไหน โดยจะเริ่มจากการต้มน้ำร้อนให้ได้อุณหภูมิตามที่กำหนด คือบอกเลยว่าปริมาณและอุณหภูมิค่อนข้างจะต้องเป๊ะ แล้วก็จะเอาเมล็ดกาแฟที่บดแล้วใส่ในบัคเก็ตกาแฟ แล้วเอาไปใส่ในเครื่องสกัดเอสเพรสโซ่ เติมน้ำร้อนลงไปตรงกลางเครื่องสกัด Log แล้วก็กางแขนเครื่องสกัด Log ขึ้นมา จากนั้นวางแก้วกาแฟไว้ด้านล่างเพื่อรองช็อตเอสเพรสโซ่ แล้วใช้แรงดันกดแขนเครื่องสกัด Log ลงมา เพื่อให้ได้กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต จากนั้นค่อยนำไปชงตามที่ลูกค้าสั่ง ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ต้องใช้เวลาประมาณ 5-10 นาที จึงจะได้กาแฟสด 1 แก้ว

แต่ถ้ามีลูกค้าอยากชิมกาแฟดริป ทางร้านก็จะจัดให้ตามคำขอ โดยถ้าเป็นแบบดริปจะใช้การบดมือด้วยเครื่องบดมือก่อน พอได้เมล็ดกาแฟที่บดแล้วก็จะใช้ที่กรองของชุดดริปมากรอง โดยเอากระดาษกรองวางใส่ไปก่อนแล้วล้างกระดาษกรอง 1 ครั้งด้วยน้ำร้อน ในการต้มน้ำร้อนต้องควบคุมอุณหภูมิให้ได้องศาตามที่ต้องการซึ่งอุณหภูมิที่ใช้ก็จะขึ้นอยู่กับว่าเราใช้เมล็ดกาแฟแบบไหน เสร็จแล้วเอากาแฟที่บดเทลงไป ทำการดริปโดยการเทน้ำร้อนลงไป แต่การดริปของที่ร้าน 89 Slow Bar จะดริป 3 น้ำ

นอกจากการใช้ เครื่องสกัดเอสเพรสโซ่ และวิธีการดริปแล้ว ที่ร้าน 89 Slow Bar ยังมีวิธีการชงแบบใช้ มอคค่าพอต อีกด้วย โดยมอคค่าพอต ที่ร้าน 89 Slow Bar เป็นการต้มจากหม้อ ให้มีแรงดันน้ำขึ้นมา โดยการเอาน้ำร้อนใส่ที่ก้นหม้อ แล้วใส่กาแฟ ใส่แผ่นกระดาษกรอง จากนั้นปิดหม้อปล่อยให้น้ำเดือดให้ไอน้ำพุ่งขึ้นมา อารมณ์เหมือนนึ่งข้าวเหนียว ซึ่งทั้ง 3 วิธีที่ว่ามาถูกใจคอกาแฟสาย Slow Bar อย่างแน่นอน การันตีจากยอดขายที่ทำได้เกือบๆ 100 แก้วต่อวัน ทั้งๆ ที่เพิ่งเปิดมาได้แค่ 2 เดือน โดยตัวเลขยอดขาย 100 แก้วต่อวัน สำหรับ Speed Bar ถือว่าปกติเป็นพื้นฐาน แต่ถ้าเป็น Slow Bar นี่ถือว่าเยอะมากเลยทีเดียว เพราะว่า Slow Bar กว่าจะได้แต่ละแก้ว ต้องพิถีพิถัน ใช้เวลา ใช้แรงคน ในการชง

ความน่าสนใจของร้าน 89 Slow Bar ก็คือ Blended Coffee ซึ่งก็คือการนำกาแฟจากหลายแหล่งหลายพันธุ์มาผสมเข้าด้วยกันจนออกมาเป็นสูตรใหม่ๆ และมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร โดยทางร้านเลือกใช้ เมล็ดโรบัสต้าจากชุมพร กาแฟอาราบิกาจากดอยช้างและปางขอน เอามามิกซ์กันจนได้เป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้าน ย้ำเลยว่ากาแฟที่นี่มีรสชาติที่แตกต่างเฉพาะตัวจริงๆ ส่วนโกโก้นี่ก็แปลกไม่เหมือนที่อื่นอีกเหมือนกัน ส่วนจะแตกต่างอย่างไรต้องไปลองด้วยตัวเอง

เมนูที่ร้านมี กาแฟดริป เอสเพรสโซ่เย็น เอสเพรสโซ่ร้อน แยกเป็นแบบไทยกับแบบสากล รวมถึง คาปูชิโน่ ลาเต้ มอคค่า อเมริกาโน่ ทุกแก้ว ราคาเดียวกัน คือ แก้วละ 50 บาท แบบฟิวชันก็จะเป็นพวก อเมริกาโน่ส้ม อเมริกาโน่มะพร้าว แก้วละ 60 บาท สายชาห้ามพลาด ชาเขียว ชาไทย ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเอง ราคาแก้วละ 40 บาท ซิกเนเจอร์ของร้าน เป็นโกโก้ ที่นำเข้าจากต่างประเทศ แก้วละ 50 บาท นอกจากนี้ ก็มีน้ำผลไม้ด้วย น้ำส้ม น้ำมะพร้าว น้ำผึ้ง ฯลฯ

คุณแนน เล่าว่า “ที่มาเปิดร้านเพราะว่าเราชอบกินของอร่อย อยากให้ลูกค้าได้กินของอร่อย เราก็เลยเอาจุดนี้มาเป็นจุดขายของเรา เราก็หาข้อมูลที่ไหนดีเราก็ไปชิม ที่ไหนเด็ดที่ไหนอร่อยเราไปชิม เรียนรู้ด้วยปากเรียนรู้ด้วยลิ้นของเรา ตัดสินใจด้วยตัวเอง

วัตถุดิบเราเลือกใช้ของดีๆ คัดสรรมาจากหลายที่มาก แล้วเอามามิกซ์มาปรับให้เป็นสูตรของร้าน อย่างเมล็ดกาแฟโรบัสต้าเราก็ใช้ชุมพร อาราบิกาเราใช้ดอยช้างและปางขอน เราใช้ 3 ตัวนี้ เพราะมันเป็นอะไรที่เราเอามามิกซ์กันแล้วมันลงตัวเป็นแบบฉบับของเรา มันตอบโจทย์ของเราว่าชงกับนมแล้วมันสู้นมมันอร่อยมันนัว

สูตรของร้านเริ่มต้นจากยูทูบ เปิดดูกูเกิล แล้วก็เรียนรู้การชงด้วยตัวเองก่อน ลาเต้ชงแล้วมันต้องเป็นยังไง เอสเพรสโซ่กินแล้วมันต้องเป็นยังไง อเมริกาโน่กินแล้วมันต้องเป็นยังไง คือเราต้องตีโจทย์ให้ถูกว่ารสชาติของแต่ละตัวมันต้องเป็นแบบไหน ค่อยๆ ทำเหมือนกับว่าชงกินในบ้าน พิถีพิถันในการเลือกเมล็ด ในการชง ในการลงแก้ว ในการเสิร์ฟให้ลูกค้า คือเราใส่ใจทุกแก้ว ถ้าอย่างเรากดเอสเพรสโซ่กดช็อตมาไม่ดีเราก็ไม่เสิร์ฟให้ลูกค้า ถ้าเรารู้ว่าของมันไม่ดีเราจะไม่ทำ เราเน้นของดีมีคุณภาพต้นทุนก็จะสูงหน่อย แต่ทีนี้เราก็ไม่ได้เอากำไรเยอะก็เป็นจุดขายของเราที่ว่าเราเอากำไรนิดหน่อยเพื่อที่ลูกค้าได้กินของอร่อยแล้วเราได้รอยยิ้มกลับมา ได้รับคำชมว่าอร่อยจังอันนี้คือความปลื้มใจของเรา

ที่เลือกเปิดท้ายรถกระบะเพราะว่าสะดวกเข้าถึงง่าย เป็นการตอบโจทย์ลูกค้า ซื้อง่ายขายคล่อง พิกัดที่เลือกมันจอดง่ายลูกค้ามาก็มองเห็นเราเลย เริ่มขายก็เปิดท้ายรถกระบะมาเลย ขายมาได้ประมาณ 2 เดือนแล้ว ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นวัยทำงาน วัยกลางคน จะมีลูกค้าหมุนเวียนมาตลอดทั้งวัน”

พิกัดร้านอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสงคราม ถนนเอกชัย ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม เปิดขายทุกวัน 06.30-15.00 น. หยุดวันจันทร์ เพจร้านก็มีนะ ชื่อเพจ 89 Slow Bar ชื่อเดียวกับร้าน แต่ต้องบอกก่อนนะว่าร้านนี้เขาขายแบบ take home คือให้นำกลับบ้านเท่านั้น ไม่มีโต๊ะให้นั่ง แต่ถ้าใครอยากถ่ายรูปก็พอได้อยู่ เพราะรถกระบะเก่าๆ ที่ตกแต่งในแนววินเทจคันนี้ ก็ดูเท่เก๋ไก๋เอาเรื่องอยู่ ถ้าหามุมดีๆ ถ่ายรูปไปลงโซเชียลรับรองไม่อายใครแน่นอน

สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนอยากมีอาชีพ การเปิดร้านกาแฟ Slow bar ก็เป็นอีก 1 รูปแบบร้านกาแฟที่น่าลงทุนมากๆ ในขณะนี้ ยิ่งถ้าใครที่รักการดื่มกาแฟ หรือเป็นคอกาแฟอยู่แล้ว การลงทุนเปิด slow bar เป็นทางออกที่ดี เพราะใช้งบไม่เยอะไม่ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์มากมาย ไม่ต้องมีเครื่องชงกาแฟ ไม่ต้องมีเครื่องบดกาแฟไฟฟ้า ทำให้ช่วยลดต้นทุนได้เยอะ มีเงินหลักพันก็เปิดร้านขายกาแฟได้แล้ว

โดยจะมีการเปิดสอนคอร์ส Slow bar กาแฟสด สกัดมือ ที่มติชนอคาเดมี ประชานิเวศน์ 1 ในวันอาทิตย์ที่ 28 มกราคม 2567 ราคาท่านละ 2,999 บาท ผู้เรียนจะได้เรียนรู้ตั้งแต่การเลือกเมล็ดกาแฟ การผสม การใช้เครื่องสกัดแบบ Slow bar เรียนจบแล้วสามารถนำไปใช้ได้จริงนำไปขายได้จริง สนใจสมัครเรียน  082-993-9097 / 082-993-9105

Inbox Facebook : Matichon Academy – มติชนอคาเดมี คลิก m.me/Matichon.Academy.Thailand / line : @matichonacademy คลิก https://line.me/R/ti/p/%40matichonacademy