มะขามเปรี้ยวฝักใหญ่ 3 พันธุ์ใหม่ ทนแล้ง โตไว ติดฝักดก ฝักใหญ่ เนื้อมาก สีสวย

มะขามเปรี้ยวพันธุ์ฝักยักษ์ หรือ มะขามเปรี้ยวยักษ์ เป็นสินค้าเกษตรทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นผลไม้เขตร้อนที่เติบโตได้ดีในบริเวณพื้นที่ราบจนถึงบนภูเขาสูง ปลูกได้ทุกสภาพดิน ทนแล้ง ให้ผลดก ฝักใหญ่เนื้อหนา น้ำหนักดี รสเปรี้ยวสูง ขายดีทั้งมะขามฝักสดและมะขามเปียก แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย เช่น มะขามแช่อิ่ม มะขามลอยแก้ว มะขามกวน สบู่อาบน้ำ และเครื่องสำอาง ฯลฯ

ในปีนี้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เตรียมเปิดตัวมะขามเปรี้ยวฝักใหญ่พันธุ์ใหม่จำนวน 3 สายพันธุ์ คือ  KU 80-1 KU 80-2  และ KU 80-3 ที่มีจุดเด่นสำคัญคือ ติดฝักดก ฝักใหญ่ เนื้อมาก สีสวย ผลผลิตต่อไร่สูง ขายผลผลิตได้ราคาเพิ่มมากขึ้น มะขามต้นเดียวเก็บเกี่ยวฝักได้ 3 ช่วงอายุ คือ ฝักอ่อน โดยฝักสั้นและบิดเบี้ยวไม่สมบูรณ์ก็สามารถเก็บขายแบบมะขามฝักอ่อนได้ ส่วนฝักแก่ สามารถแปรรูปเป็นมะขามดองหรือแช่อิ่มออกขายได้ ส่วนฝักสุก เนื้อสุกฉ่ำน้ำไม่แห้ง เหมาะสำหรับเก็บเป็นเนื้อมะขามเปียก ใช้ประกอบอาหารหรือใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

KU 80-1 KU 80-2 และ KU 80-3 เป็นผลงานวิจัยของทีมอาจารย์ นักวิชาการเกษตร นำโดย นายเรืองศักดิ์ กมขุนทด นักวิชาการเกษตร ชำนาญการพิเศษและคณะ ใช้เวลาในการปรับปรุงพันธุ์ยาวนาน 30 ปี ภายในสถานีวิจัยปากช่อง ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ได้แก่

มะขามเปรี้ยวลูกผสมพันธุ์ KU 80-1 เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์ดกกิ่งหัก กับพันธุ์ปากช่อง 1 ลักษณะฝักตรง น้ำหนักเฉลี่ย 54.40 กรัมต่อฝัก ความกว้างฝัก 3.59 เซนติเมตร ความยาวฝัก 22.20 เซนติเมตร ความหนาฝัก 2.4 เซนติเมตร เนื้อฝักสุกสีน้ำตาลเข้ม น้ำหนักเนื้อ 25.90 กรัมต่อฝัก มีความฉ่ำเนื้อ เปอร์เซ็นต์กรดต่ำ 12.70% เมล็ดสีน้ำตาลคล้ำจำนวนเฉลี่ย 9.90 เมล็ดต่อฝัก ลักษณะยอดอ่อนมีสีน้ำตาลอ่อนๆ

มะขามเปรี้ยวลูกผสมพันธุ์ KU 80-2 เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์ดกกิ่งหัก กับพันธุ์ปากช่อง 1 มีลักษณะดีเด่นคือ ฝักตรงหรือฝักดิ่ง ฝักใหญ่น้ำหนักเฉลี่ย 45.60 กรัมต่อฝัก ความกว้างฝัก 3.42 เซนติเมตร ความยาวฝัก 21.36 เซนติเมตร ความหนาฝัก 2.5 เซนติเมตร เนื้อฝักสุกสีน้ำตาลแดง น้ำหนักเนื้อ 24.40 กรัมต่อฝัก มีความฉ่ำเนื้อ เปอร์เซ็นต์กรดต่ำ 10.50% เมล็ดสีน้ำตาลคล้ำ จำนวนเฉลี่ย 9 เมล็ดต่อฝัก ลักษณะยอดอ่อนมีสีน้ำตาลอ่อนๆ

มะขามเปรี้ยวลูกผสมพันธุ์ KU 80- 3 เป็นลูกผสมระหว่างพันธุ์สระแก้ว กับพันธุ์ดกกิ่งหัก มีลักษณะดีเด่นคือ ฝักดาบโค้งเล็กน้อย ฝักใหญ่น้ำหนักเฉลี่ย 49.20 กรัมต่อฝัก ความกว้างฝัก 3.79 เซนติเมตร ความยาวฝัก 18.73 เซนติเมตร ความหนาฝัก 2.25 เซนติเมตร เนื้อฝักสุกสีน้ำตาล น้ำหนักเนื้อ 28.20 กรัมต่อฝัก มีความฉ่ำเนื้อ เปอร์เซ็นต์กรดต่ำ 8.50% เมล็ดสีน้ำตาลคล้ำจำนวนเฉลี่ย 9.9 เมล็ดต่อฝัก ลักษณะยอดอ่อนมีสีเขียว

นายเรืองศักดิ์ กมขุนทด

นายเรืองศักดิ์ กมขุนทด นักวิชาการเกษตร ชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า หากใครสนใจมะขามเปรี้ยวลูกผสมพันธุ์ KU ทั้ง 3 สายพันธุ์ แนะนำให้ปลูก 25 ต้นต่อไร่ ระยะห่าง 8×8 เมตร มะขามเปรี้ยวพันธุ์ใหม่เป็นนวัตกรรมที่เกิดจากการปรับปรุงพันธุ์พีชให้ได้พันธุ์ใหม่ที่พัฒนาดีขึ้นกว่าพันธุ์เดิม เพราะติดฝักดก ฝักใหญ่ ฝักตรง และมีปริมาณเนื้อเพิ่มขึ้น เกษตรกรจะได้ปริมาณผลผลิตต่อไร่ที่มากขึ้น และขายผลผลิตได้ราคาสูง (ทำน้อยได้มาก) เมื่อเปรียบเทียบกับพันธุ์เดิมที่มีลักษณะด้อยกว่า

นอกจากนี้ มะขามเปรี้ยวทั้ง 3 สายพันธุ์ มีศักยภาพดี ตรงตามความต้องการของตลาด สามารถเพิ่มมูลค่าการส่งออกได้ ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน จากการขายผลผลิตและกิ่งพันธุ์ เกษตรกรสามารถผลิตสินค้าเกรดพรีเมี่ยมได้ไม่ยากแล้ว ยังสร้างความมั่นคงทางอาหาร เพราะเกษตรกรสามารถผลิตมะขามเปรี้ยวฝักใหญ่ได้ง่าย และมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

“อยากเชิญชวนคนไทยปลูกมะขามเปรี้ยวฝักใหญ่ ไว้เป็นมรดกตกทอดสู่ลูกหลาน เพราะมะขามเปรี้ยวฝักใหญ่โตไว ให้ผลผลิตเร็ว ใช้น้ำน้อย ดูแลง่าย ไม่ต้องใช้สารเคมี ต้นทุนการผลิตต่ำ พิชิตสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงได้ เหมาะที่จะปลูกเป็นป่าเศรษฐกิจ เพราะมีอายุยืนนาน 300 ปี ขายได้ทั้งผลผลิต และ Carbon credit เนื่องจากไม่ต้องตัดแต่งกิ่ง ผู้สนใจเชิญแวะชมผลงานและเลือกซื้อกิ่งพันธุ์มะขามเปรี้ยวฝักใหญ่ได้ภายในงานเกษตรแฟร์ ระหว่างวันที่ 2-10 กุมภาพันธ์ 2567 บริเวณโซน K ด้านข้างอาคารวชิรานุสรณ์ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทร. 081-470-2382 และ สถานีวิจัยปากช่อง คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โทร. 081-470-2382