กยท. ผนึกกำลัง กนอ. ลงนาม MOU วิจัย-พัฒนานิคมอุตสาหกรรมยางไทย เน้นการแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ยาง

(วันที่ 11 มีนาคม 2567) การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ร่วมกับ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมลงนาม MOU “การวิจัยพัฒนา การบริการวิชาการ และความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจยางพาราและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในนิคมอุตสาหกรรม” โดยมี ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการ กยท. และ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ กนอ. ให้เกียรติเป็นสักขีพยานในการลงนาม ระหว่าง นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ กยท. และ รศ.ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการ กนอ. เพื่อผสานความร่วมมือพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจด้านยางพารา ควบคู่การจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน สู่การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยอย่างมีประสิทธิภาพ ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พระนคร กรุงเทพฯ

ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า กยท. เป็นองค์กรกลางรับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการยางพาราของประเทศทั้งระบบอย่างครบวงจร และมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยางพาราโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายหลักของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ให้ความสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับภาคการเกษตร ตามนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” และให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบกิจการยาง ทั้งด้านวิชาการ การเงิน การผลิต การแปรรูป การอุตสาหกรรม การตลาด และการประกอบธุรกิจ เพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืนสอดคล้องกับแนวทางบริหารด้านยางพารา “อยู่ได้ พอใจ ยั่งยืน” ที่มีนโยบายส่งเสริมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยางพารา โดยเฉพาะล้อยาง ซึ่งจะช่วยดูดซับปริมาณผลผลิตยางออกจากตลาดได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 400,000 ตัน พร้อมส่งเสริมงานด้านการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และสนับสนุนสถาบันเกษตรกรให้พัฒนาศักยภาพ สามารถต่อยอดสู่การแปรรูปผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ เน้นการทำตลาดแบบจริงจัง สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ กยท. และ กนอ. ต่างเป็นองค์กรที่มีศักยภาพ และพร้อมประสานความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับยางพาราในภาคอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางพาราของไทย ควบคู่ไปกับการจัดการและรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้เกิดความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไทยต่อไป สามารถยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยางพาราให้ดียิ่งขึ้น

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ทั้ง 2 หน่วยงานมีความตั้งใจในการผสานศักยภาพองค์ความรู้เฉพาะทาง ทั้งความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านยางพาราของ กยท. และด้านการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ซึ่ง กยท. พร้อมร่วมสนับสนุน ส่งเสริมการศึกษา วิจัย พัฒนา การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ยาง โดยมุ่งเน้นการแปรรูปจากผลผลิตยางที่มาจากเกษตรกรชาวสวนยาง และสนับสนุนการลงทุนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมด้านยางพารา ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ในพื้นที่ของ กยท. และ กนอ. รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมด้านยางพารา เพื่อให้เกิดการดำเนินธุรกิจยางพาราครบวงจรทั้งกระบวนการ ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมยางจะเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนา เพิ่มรายได้ และสร้างความยั่งยืนทางอาชีพให้กับชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกร และเพื่อประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ดียิ่งขึ้น

“หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การพัฒนา-สร้างอุตสาหกรรมและธุรกิจยางพารา และธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในนิคมอุตสาหกรรม เพื่อประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นต่อผู้เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนของงานยางพาราต่อไป” นายณกรณ์ กล่าวในที่สุด

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ประธานกรรมการ กนอ. กล่าวแสดงความยินดีภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) การวิจัยพัฒนา การบริการวิชาการ และความเป็นไปได้ของการดำเนินธุรกิจยางพาราและธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพในนิคมอุตสาหกรรม ระหว่าง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ว่า MOU ฉบับนี้ เกิดจากเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นของ กนอ. และ กยท. ในการพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับยางพาราในภาคอุตสาหกรรม โดยใช้ศักยภาพด้านการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมของ กนอ. ร่วมกับความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของ กยท. เพื่อสนับสนุนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยางพาราของประเทศอย่างยั่งยืน ควบคู่กับการจัดการสิ่งแวดล้อม