| ผู้เขียน | สุรเดช สดคมขำ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
การผลิตทุเรียนคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมเพื่อการส่งออกนั้น ชาวสวนทุเรียนในหลายพื้นที่ยังประสบปัญหาทั้งเรื่องโรคแมลงศัตรูพืช และสิ่งที่สำคัญอีกนั้นก็คือสัตว์กัดแทะที่ทำลายทุเรียนในระยะพัฒนาผลทำให้เกิดความเสียหาย
ถึงแม้จะใช้ถุงตาข่ายทางการเกษตรห่อทุเรียนเพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืชซึ่งป้องกันหนอนรังได้ แต่ก็ยังประสบปัญหาว่าไม่สามารถป้องกันเพลี้ยแป้งกับราดำได้ ทำให้ผิวทุเรียนไม่สวยและเกิดความเสียหาย จากปัญหาเหล่านี้ตัวช่วยที่ดีที่สุดคือ เกษตรกรส่วนใหญ่จึงแก้ปัญหาโดยใช้ยาฆ่าแมลงในการฉีดพ่น ซึ่งนอกจากจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นยังเกิดปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย
สวทช. ได้พัฒนางานวิจัยและเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อการทดสอบประสิทธิภาพและเพิ่มมูลค่าทุเรียน โดยมอบหมายทีมวิจัยสิ่งทอ กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีโพลิเมอร์ขั้นสูง ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ร่วมมือกับคณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง นำองค์ความรู้เรื่องวัสดุศาสตร์พัฒนาสูตรผสมเม็ดพลาสติก (polymer compound) ร่วมกับเทคโนโลยีการขึ้นรูปนอนวูฟเวน
โดยวัสดุนอนวูฟเวนนี้จะมีคุณสมบัติให้น้ำและอากาศผ่านเข้าออกได้โดยง่าย รวมถึงมีคุณสมบัติการคัดเลือกช่วงแสงที่เหมาะสมกับเซลล์รับแสงที่ผิวผลไม้ จนได้เป็นนวัตกรรมวิจัยต้นแบบที่มีชื่อทางการค้าว่า Magik Growth หรือ นวัตกรรมถุงห่อผลไม้นอนวูฟเวน ช่วยให้ทุเรียนที่ห่อด้วยถุงห่อ Magik Growth สามารถสร้างสารสำคัญในผลไม้ทั้งแป้ง น้ำตาล สารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
ดร.ณัฐภพ สุวรรณเมฆ นักวิจัยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ให้ข้อมูลว่า ได้ทำการทดลองนวัตกรรมนี้ทั้งในระดับห้องปฏิบัติการ และระดับภาคสนามในพื้นที่สวนทุเรียน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ตั้งแต่ปี 2562 มาถึงปัจจุบัน โดยมีการจัดเก็บข้อมูลผลวิจัยอย่างเป็นระบบพบว่า ถุงห่อทุเรียน Magik Growth ช่วยเกษตรกรประหยัดต้นทุนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการลดใช้ยาฆ่าแมลงศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี และยังสามารถเพิ่มน้ำหนักและคุณภาพผิวผลทุเรียนให้กลายเป็นทุเรียนเกรดพรีเมี่ยมได้อีกด้วย และยังสามารถใช้ถุงห่อทุเรียนใช้ซ้ำได้ถึง 2 ฤดูกาลผลิต ทั้งประหยัดต้นทุนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
“แต่ก่อนประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว เรายังไม่มีการใช้ถุงห่อในทุเรียน เกษตรกรบางท่านก็จะเอาถุงแบบที่ใส่หอมกระเทียม โดยนำตัวนั้นมาห่อเพื่อกันหนอนเจาะ กันผีเสื้อกลางคืน แต่ปัญหาที่เจอคือแกะยากมาก เมื่อทางทีมวิจัยไปเห็นและเราทำถุงห่อมะม่วงมาก่อน จากนั้นเราก็เลยนำวิธีการนี้มาใช้ โดยนำมาห่อทุเรียน แต่ตอนแรกที่ห่อจะเน้นแบบเป็นหลายๆ สีก่อน เพราะยังไม่แน่ใจว่าทุเรียนเหมือนกับไม้ตัวอื่นไหม หลังจากนั้นเราก็รู้แล้วว่าสีแดงเหมาะสมกับทุเรียนมากที่สุด จากนั้นก็มาพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นถุงที่เห็นเหมือนเช่นทุกวันนี้”
การออกแบบสำหรับการใช้งานนั้น ดร.ณัฐภพ ให้ข้อมูลอีกว่า ได้คิดขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์ในเรื่องของการใช้แรงงานอีกด้วย เพราะในปัจจุบันแรงงานกำลังหายากขึ้น จึงได้ออกแบบถุง Magik Growth มาเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานแม้จะปฏิบัติงานเพียงคนเดียว โดยมีลักษณะแบบรูดซ้ายและขวา เกษตรกรสามารถขึ้นไปห่อเพียงคนเดียวได้
นอกจากนี้ ถุง Magik Growth ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่พัฒนาขึ้น โดยให้ภายนอกถุงมีความลื่นจึงเป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้สัตว์อย่างเช่นกระรอก ไม่สามารถเกาะและเข้ามากัดทำลายผลทุเรียนได้ พร้อมทั้งยังมีโครงสร้างพิเศษคืออากาศและสามารถเข้าออกได้เป็นอย่างดี จึงสามารถที่จะช่วยลดในเรื่องของการเกิดเชื้อราในผลทุเรียนได้อีกหนึ่งช่องทาง
“แสงที่ไปผ่านถุงไปโดนผลทุเรียนนั้น ตัวนี้ก็จะเป็นการกระตุ้นผลทุเรียนด้วยแสง ทำให้ผลทุเรียนอาจมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และเนื้อในของทุเรียนจะมีสัมผัสที่ครีมมี่ละเอียดมากขึ้น ถือว่าช่วยกระตุ้นในเรื่องทำให้เกษตรกรสามารถนำผลผลิตที่ได้คุณภาพนี้ ไปจำหน่ายในราคาที่สูงขึ้นได้ เป็นทุเรียนคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม”
โดยถุง Magik Growth ที่ใช้ห่อทุเรียนจะเน้นห่อในช่วงที่ผลทุเรียนมีอายุอยู่ที่ประมาณ 60 วัน หลังดอกบาน เพราะระยะนี้จะเห็นร่องหนามและพูที่ชัดเจน จึงทำให้เมื่อห่อไปแล้วมั่นใจได้ว่าจะได้ทุุเรียนที่มีคุณภาพ ทรงผลไม่เบี้ยวเพราะว่าหลังจากที่ห่อไปแล้วเกษตรกรจะไม่สามารถเห็นผลข้างในได้ ดังนั้น การห่อที่ช่วงอายุผล 60 วันจึงเหมาะสมที่สุด
ดร.ณัฐภพ บอกต่อไปว่า ก่อนที่จะห่อผลทุเรียนด้วยถุง Magik Growth จะต้องล้างผลให้เรียบร้อย โดยทำตามกรรมวิธีปกติตามที่เกษตรกรดำเนินการ เพื่อเป็นการกำจัดไข่หนอนไข่แมลงที่อาจจะเกาะอยู่ตามร่องหนาม ซึ่งมีขนาดที่เล็กมากอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เพราะฉะนั้นการล้างทำความสะอาดผลก่อนห่อจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หลังจากล้างแล้วสามารถห่อผลทุเรียนด้วยถุง Magik Growth ทันที
“หลังจากห่อแล้ว ทุเรียนจะอยู่ในถุงแดงนี้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งก่อนที่จะตัดผลทุเรียน เกษตรกรต้องนำถุงห่อออกก่อน และนำถุงเก็บรักษาไว้ ซึ่งถุง Magik Growth สามารถใช้ห่อผลทุเรียนได้นานประมาณ 4 ปี และนอกจากในเรื่องของการช่วยลดต้นทุนแล้ว เกษตรกรยังสามารถลดต้นทุนในเรื่องของการใช้สารเคมีไปด้วยในตัว จึงถือว่านวัตกรรมถุง Magik Growth ช่วยลดการใช้สารเคมีลงได้ เพื่อความปลอดภัยทั้งเกษตรกร ผู้บริโภค และสภาพแวดล้อม”
ดร.ณัฐภพ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับเกษตรกรหรือผู้ที่สนใจนวัตกรรมถุง Magik Growth ซึ่งถุงชนิดนี้สามารถห่อผลไม้ได้หลายชนิด อาทิ มะม่วง กระท้อน กล้วย และชมพู่ สามารถสั่งซื้อได้ทางช่องทางออนไลน์ อย่างเช่น ลาซาด้า หรือ ช้อปปี้ สินค้าพร้อมจำหน่าย
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567
