ผู้เขียน	สุรเดช สดคมขำ
เผยแพร่	วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ.2567

ปัจจุบันการเลี้ยงปลากำลังได้รับความนิยมในหลายพื้นที่ เพราะเกิดจากมีผู้สนใจทั่วไปให้ความใส่ใจในเรื่องของการสร้างแหล่งโปรตีน ที่เป็นอาหารไว้บริโภคภายในครัวเรือน รวมไปถึงเกษตรกรด้วยเช่นกัน ได้นำปลาน้ำจืดมาปล่อยลงในบ่อน้ำการเกษตรของตนเอง เมื่อปลาโตจนได้ขนาดไซซ์ที่ต้องการ หากไม่นำมาประกอบอาหารก็สามารถขายให้เกิดรายได้อีกหนึ่งช่องทาง 

ฉะนั้น การเลือกซื้อสายพันธุ์ปลาน้ำจืดที่นำมาเลี้ยง ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญควรเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ฟาร์มปลาผู้ใหญ่พร เป็นอีกหนึ่งแหล่งขายพันธุ์ปลาที่ติดตลาดมากว่า 40 ปี ด้วยประสบการณ์และการตั้งใจในการทำเพื่อการค้าที่ดีนี้เอง ทำให้กิจการนี้ส่งต่อมายัง คุณพีช หรือ คุณสุฑิพงศ์ สินตรีขันธ์ ทายาทรุ่น 2 ในการดำเนินกิจการมาจนถึงปัจจุบัน 

เห็นครอบครัวทำมาตั้งแต่เด็ก 

ต่อยอด พัฒนา สืบทอด ให้คงอยู่ 

คุณพีช เล่าให้ฟังว่า อาชีพเพาะพันธุ์ปลาเป็นสิ่งที่ครอบครัวทำมาอย่างยาวนาน ต่อมาเมื่อคุณพีชได้เรียนจบในระดับปริญญาตามที่ตั้งใจไว้แล้ว จึงได้มารับช่วงต่อการเพาะพันธุ์ปลาจากคุณพ่อ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เห็นมาตั้งแต่เด็กและช่วยคุณพ่ออยู่เสมอ เมื่อมาลงมือทำเป็นอาชีพอย่างจริงจัง จึงไม่ใช่ปัญหาในการปฏิบัติแต่อย่างใด 

“ฟาร์มนี้เริ่มมาตั้งแต่คุณพ่อ ก็น่าจะประมาณ 40 ปีแล้วครับ หลังจากที่ผมเรียนจบแล้ว ผมก็เข้ามาทำตรงนี้ต่อเลยน่าจะประมาณ 10 ปีแล้วเห็นจะได้ ซึ่งตัวผมเองไม่ได้จบทางด้านประมงเลย เพราะด้วยฟาร์มที่นี่เป็นธุรกิจของครอบครัวอยู่แล้ว เรียกง่ายๆ ว่าเหมือนอยู่ในสายเลือดผมก็ว่าได้ พอคุณพ่ออยากให้มารับช่วงต่อ ผมก็ได้มาทำอย่างจริงจัง และทำการปรับเปลี่ยนฟาร์มบ้างเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับทำการขายออนไลน์เข้ามาช่วยมากขึ้นครับ” 

ซึ่งการเลี้ยงปลาเพื่อบริโภคเนื้อในปัจจุบันนั้น คุณพีช บอกว่า การเลี้ยงมีการปรับเปลี่ยนไปกว่าสมัยก่อน โดยคนเลี้ยงนิยมเลือกเลี้ยงปลาที่ใช้ต้นทุนในการเลี้ยงที่ไม่สูงมาก สามารถใช้อาหารจากธรรมชาติเข้ามาเลี้ยงแทนที่การใช้อาหารเม็ดได้ อย่างเช่น ปลานิล ปลายี่สก และปลาตะเพียน ปลาหลักๆ ทั้ง 3 สายพันธุ์นี้ สามารถลดต้นทุนการเลี้ยงให้มีผลกำไรเพิ่มมากขึ้น 

การเพาะพันธุ์ให้ได้ลูกปลาคุณภาพ 

ต้องเลือกพ่อแม่พันธุ์ ทรงดี ทรงสวย 

สำหรับปลาที่มีขายทั้งหมดภายในฟาร์มนั้น คุณพีช เล่าว่า มีอยู่มากกว่า 20 ชนิด ซึ่งแต่ละปีก็จะทำการผลิตแต่ละสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปตามที่ตลาดต้องการ แต่ 3 ชนิดที่ขายดีและติดตลาดอยู่เสมออย่าง ปลานิล ปลายี่สก และปลาตะเพียน ยอดขายไม่มีตก ดังนั้น การคัดพ่อแม่พันธุ์ที่นำมาทำการเพาะพันธุ์นั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ

ซึ่งปลาแต่ละชนิดจะทำการคัดเลือกแตกต่างกันไป โดยการคัดปลาที่จะนำมาทำเป็นพ่อแม่พันธุ์จะดูตั้งแต่ปลายังมีขนาดเล็กอยู่ จากนั้นนำมาเลี้ยงให้ได้อายุและขนาดไซซ์ตามที่กำหนด

สำหรับการเพาะพันธุ์ปลาภายในฟาร์ม คุณพีชได้ทำการยกตัวอย่างของการเพาะพันธุ์ปลาตะเพียนว่า ต้องเลี้ยงให้ได้อายุตั้งแต่ 8-12 เดือนขึ้นไป การเลือกปลาตะเพียนที่นำมาทำเป็นแม่พันธุ์ จะเลือกปลาตัวเมียที่มีขนาดใหญ่ ทรงสวย และให้ไข่ดี ส่วนตัวผู้ที่นำมาทำเป็นพ่อพันธุ์จะต้องให้น้ำเชื้อได้ดี  

“เมื่อเราเลี้ยงปลาพ่อแม่พันธุ์ปลาตะเพียนได้อายุแล้ว จะทำการลากอวนขึ้นมาทำการคัดทีละตัว เมื่อได้ปลาตะเพียนตามที่ต้องการแล้ว จะนำปลามาพักไว้ในโรงเพาะฟัก ซึ่งตัวเมียที่เหมาะเป็นแม่พันธุ์น้ำหนักจะอยู่ประมาณ 800 กรัมถึง 1 กิโลกรัม ส่วนตัวผู้น้ำหนักตัวประมาณ 300-500 กรัม ดูตัวที่เน้นให้น้ำเชื้อดีเป็นหลัก หลังจากนั้นนำมาเพาะพันธุ์ด้วยการฉีดฮอร์โมนเข้าช่วย” 

การฉีดฮอร์โมนให้กับแม่พันธุ์ปลาตะเพียน คุณพีช บอกว่า จะฉีดฮอร์โมนที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ประมาณ 20 ไมโครกรัมต่อน้ำหนักตัวปลา 1 กิโลกรัม พร้อมทั้งผสมยาโมทีเลียม (Motilium) 1 เม็ดต่อน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ในฮอร์โมนด้วย ซึ่งเกณฑ์การฉีดฮอร์โมนในปลาแต่ละตัวนั้น จะคำนวณสูตรที่เข้ากับน้ำหนักของปลาแต่ละตัว ส่วนตัวผู้ไม่จำเป็นต้องฉีดถ้ามีน้ำเชื้อดี

หลังจากฉีดฮอร์โมนให้กับปลาตะเพียนพ่อแม่พันธุ์เรียบร้อยแล้ว นำปลาลงไปปล่อยลงในบ่อที่เตรียมไว้ให้ปลาผสมพันธุ์กัน โดยปล่อยทิ้งไว้ 6-8 ชั่วโมง จากนั้นมาทำการเช็กว่าปลาออกไข่หรือยัง ถ้าเห็นว่าปลาตะเพียนออกไข่ จะทำการย้ายไข่มาใส่ไว้ในกรวยเพาะฟักที่เตรียมไว้ ซึ่งภายในกรวยเพาะฟักจะมีระบบน้ำระบบลมหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา 

หลังจากไข่ปลาตะเพียนย้ายไปอยู่ในกรวยเพาะฟักได้ประมาณ 1 วัน ไข่ปลาก็จะเริ่มฟักออกมาเป็นตัว ลักษณะเริ่มเป็นเส้นด้ายเล็กๆ ออกมาวิ่งว่ายน้ำให้เห็น เมื่อเข้าสู่ประมาณวันที่ 2-3 หลังฟักออกมาแล้วจะย้ายลงไปอนุบาลในบ่อดินให้โตขึ้นมาได้เป็นขนาดไซซ์ที่ตลาดต้องการ 

“ลูกปลาที่ปล่อยลงไปอนุบาลลงในบ่อดิน ผมจะปล่อยอยู่ที่ประมาณ 4-5 แสนตัวต่อบ่อขนาด 1 ไร่ หลังจาก 3-4 วันแรกหลังปล่อยลงบ่อ ปลาจะกินน้ำเขียวก่อน จากนั้นจะเปลี่ยนอาหารเป็นรำผสมปลาป่น ให้กินช่วงเช้า กลางวัน และเย็น ให้กินแบบนี้ประมาณ 10-15 วัน จากนั้นก็จะเปลี่ยนอาหารเม็ดสำเร็จรูปไซซ์จิ๋วสำหรับปลาเล็ก มีโปรตีนตั้งแต่ 32-42 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปลาที่นำมาอนุบาล นับตั้งแต่วันแรกที่ปล่อยลงบ่อดิน เลี้ยงจนกว่าจะได้ลูกปลาที่มีขนาดไซซ์ขายได้ใช้เวลาประมาณ 30-45 วัน” 

ใส่ใจบริการ ทั้งลูกค้าเก่า-ใหม่ 

เน้นตลาดออนไลน์ สู่ยอดขาย 1 ล้านต่อเดือน

สำหรับการทำตลาดเพื่อขายลูกพันธุ์ปลาทั้งหมดภายในฟาร์ม คุณพีช เล่าว่า เนื่องจากฟาร์มแห่งนี้ทำมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ เพราะฉะนั้นในเรื่องของฐานลูกค้าเก่ายังมีอยู่ และเมื่อคุณพีชได้มารับช่วงต่อและยุคสมัยเปลี่ยน การทำตลาดก็ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วย โดยเน้นทำตลาดออนไลน์มากขึ้น พร้อมทั้งใส่ใจบริการทั้งฐานลูกค้าเก่าและใหม่อย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ยอดขายต่อเดือนของคุณพีชอยู่ที่หลักล้านกันเลยทีเดียว 

ซึ่งปลาที่ขายทั้งหมดมีมากกว่า 20 ชนิด แต่ที่ขายดีอย่างปลาตะเพียน มีขนาดไซซ์เริ่มต้นอยู่ที่ 3-7 เซนติเมตร ส่วนปลานิลธรรมดาราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 15-80 สตางค์ และถ้าเป็นปลานิลแปลงเพศ มีราคาตั้งแต่ 35 สตางค์ ไปจนถึง 1 บาท และยังมีปลาชนิดอื่นๆ ขายอีกหลายชนิดให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ ซึ่งราคาของลูกพันธุ์ปลาที่ขายนั้น ราคาถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับชนิดและขนาดไซซ์ของปลา   

“การใส่ใจบริการผมยึดเรื่องนี้มากครับ เวลาที่มีลูกค้ารายใหม่มาซื้อ ผมก็จะถามก่อนว่า ลูกค้าอยากเลี้ยงเพื่อวัตถุประสงค์อะไร ถ้าต้องการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ผมต้องคุยกับลูกค้าก่อน เพื่อให้ได้สายพันธุ์ที่เหมาะสมที่สุด และจะบอกลูกค้าในเรื่องสำคัญอย่างการเตรียมบ่อ การดูแล จนกระทั่งจับขาย ผมจะใส่ใจบริการให้คำปรึกษาตลอดครับ จากที่ผมได้มาทำตรงจุดนี้ ผมรู้สึกภูมิใจมากที่สามารถรักษาธุรกิจตรงนี้ ของครอบครัวให้คงอยู่ต่อมาจนถึงตอนนี้ครับ” 

สำหรับท่านใดหรือเกษตรกรท่านไหน สนใจลูกพันธุ์ปลาน้ำจืดคุณภาพหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณพีช หรือ คุณสุฑิพงศ์ สินตรีขันธ์ ทายาทรุ่น 2 ฟาร์มปลาผู้ใหญ่พร ตั้งอยู่ที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หมายเลขโทรศัพท์ 095-996-5569, 095-991-9166, 081-928-6697