ผู้ส่งออกข้าวโยนบาทแข็งฉุดเป้า ชี้รัฐไม่แก้จำนำยุ้งฉางก็ไร้ผล ปิดทางข้าวเปลือกถึง 9 พัน/ตัน

ร.ต.ท. เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ข้าวไทยว่า ขณะนี้ไม่มีสต๊อกรัฐกดดันเรื่องราคาแล้ว และคุณภาพข้าวเริ่มกลับมาจากการที่เกษตรกรไม่เร่งผลิตมากเกินไป และประเทศผู้ผลิตข้าวหลายประเทศได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมคืออินเดีย และบังกลาเทศ ทำให้ความสามารถการแข่งขันของไทยมากขึ้น ประเมินว่าฤดูการผลิตข้าวนาปี 2560/61 ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิอยู่ที่ตันละ 11,000-12,000 บาท ข้าวเปลือกเจ้าตันละ 8,000-9,000 บาท ขณะที่การส่งออกข้าวไทย ยังเจอปัญหาในเรื่องค่าบาทแข็ง ซึ่งตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้ถึงปัจจุบันบาทแข็งค่าแล้ว 8% โดยที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และรัฐบาลยังไม่มีแนวทางป้องกัน แก้ไข หรือระมัดระวังปัญหานี้

“บาทแข็งจะส่งผลอย่างยิ่งต่อการส่งออก โดยเฉพาะสินค้าเกษตร คู่แข่งสำคัญคือเวียดนาม ค่าเงินด่องแข็งค่าเพียง 2% เท่านั้น แต่ค่าเงินไทยแข็งแล้ว 6% ทำให้ราคาข้าวไทยสูงกว่าเวียดนามตันละ 24 ดอลลาร์สหรัฐ จะส่งผลให้การตัดสินใจสั่งซื้อข้าวไทยลดลง ดูจากการประมูลซื้อข้าวของฟิลิปปินส์ เวียดนามคว้าไปเกือบทั้งหมด ส่วนอินโดนีเซียก็ยังไม่ชัดเจนว่าปีนี้จะเปิดประมูลซื้อหรือไม่ เพราะผลผลิตอินโดนีเซียอาจเพียงพอถึงสิ้นปี จึงเป็นไปได้ยากที่จะผลักดันให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศถึงตามเป้า ส่งออกข้าวไทยไม่ได้เลวร้ายมากนัก ยังซื้อข้าวนึ่ง แต่คงไม่มากพอจะกระตุ้นราคาข้าวช่วงปลายปีให้สูงขึ้น โครงการรับจำนำข้าวเปลือกยุ้งฉางจะช่วยพยุงราคาได้ระยะหนึ่ง ผู้ส่งออกหวังว่ารัฐบาลและ ธปท.จะออกมาตรการดูแลเงินบาทที่แข็งค่า ตอนนี้แข็งถึง 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สูงมากเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของก่อนอยู่ที่ 36 บาท” ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

แหล่งข่าวจากกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ปี 2560/61 คาดว่าผลผลิตข้าวโลกมี 482.459 ล้านตัน ลดลง 0.27% เพราะแนวโน้มผลผลิตลดลงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาเหนือ แอฟริกาและอินเดีย การบริโภคข้าวโลกคาดอยู่ที่ 479.07 ล้านตัน และลดลง 0.26% ส่วนการค้าข้าวโลก 43.92 ล้านตัน ลดลง 1.39% แต่สต๊อกข้าวโลกมี 122.92 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.96% ขณะที่ข้อมูลการส่งออกข้าวไทยของสมาคมผู้ส่งออกข้าวระบุว่า เดือนกันยายนแนวโน้มปริมาณส่งออกลดลง เพราะชะลอดูผลผลิตใหม่ ราคาจะอ่อนตัวลง ยกเว้นข้าวหอมมะลิ ทำให้การค้าในตลาดชะลอตัวลง แต่ไทยยังคงส่งมอบข้าวเพราะมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าและชนะการประมูลข้าวของฟิลิปปินส์ 25,000 ตัน และซื้อผ่านบริษัทตัวแทนขายอีก 50,000 ตัน ชนะประมูลข้าวบังกลาเทศ 50,000 ตัน และชนะประมูลข้าวกล้องเกาหลีใต้อีก 20,000 ตัน ซึ่งจะส่งมอบภายในเดือนกันยายนนี้

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน