เผยแพร่ |
---|
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการเศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงผลของการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือนก.ย. 2560 ว่า อยู่ที่ระดับ 75 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากผู้บริโภคมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยในอนาคตจะปรับตัวดีขึ้น จากการส่งออก และการท่องเที่ยวที่จะฟื้นตัวครึ่งปีหลัง ขณะเดียวกันการลงทุนของภาครัฐที่กำลังจะเกิดในช่วงครึ่งปีหลัง เป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นให้มากขึ้น แต่ผู้บริโภคยังกังวลราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังต่ำ ทั้ง ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ทำให้กำลังซื้อในหลายจังหวัดทั่วประเทศไม่คล่องตัว
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันขายปลีก ราคาก๊าซแอลพีจีที่สูงขึ้น และการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิต ทำให้ราคาสินค้าบางตัว เช่น สุรา บุหรี่ สูงขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภครู้สึกว่าของแพงขึ้น แม้ภาครัฐจะดูแลควบคุมราคาสินค้าจำเป็นไม่ให้สูงขึ้น ซึ่งทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเศรษฐกิจปัจจุบันยังฟื้นตัวไม่ดี แม้จะเห็นว่าเศรษฐกิจในอนาคตอาจจะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นตัวไม่มากนัก
แต่ทั้งนี้ประเมินว่าความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 เพราะคาดว่าโครงการสวัสดิการแห่งรัฐจะทำให้เกิดเงินสะพัดเดือนละกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท และทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท ช่วยพยุงเศรษฐกิจท้ายปีให้ดีขึ้น เมื่อรวมกับการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น และภาครัฐจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้น ทำให้คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวในกรอบ 3.7-4% จากเดิมที่ประเมินว่าน่าจะขยายตัว 3.6%
สำหรับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบันปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ตามดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ยังปรับตัวลดลง โดยอยู่ที่ระดับ 50.5 แสดงว่าผู้บริโภครู้สึกว่าภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานในปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวดีนัก
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อสถานการณ์ในอนาคตปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยปรับตัวสู่ระดับ 85.5 ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยจะปรับตัวดีขึ้น ในอนาคต
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์