ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
หลายคนคงคุ้นเคยและรู้จักผักสวนครัวรั้วกินได้ที่เป็นผักกินใบต่างๆ อาทิ กะเพรา โหระพา ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นพืชทางเลือกสำหรับเกษตรกรที่ต้องการอาชีพเสริม โดยเกษตรกรหลายคนพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เลิกทำนาหันมาปลูกพืชผักเหล่านี้ รับทรัพย์เข้ากระเป๋ากันทุกวัน
สำหรับผักสวนครัวตระกูลกะเพรา โหระพา และใบแมงลัก เป็นพืชล้มลุก ใบเป็นรูปไข่ บางและนุ่ม ลำต้นและใบมีขนปกคลุม มีรสเผ็ดร้อน ช่อดอกตั้งตรง มีดอกติดรอบแกนช่อเป็นชั้นๆ จัดเป็นเครื่องเทศที่ยอดนิยม ถือว่าเป็นราชาแห่งเครื่องเทศเลยก็ว่าได้ โดยในปัจจุบันนิยมนำมาใช้ปรุงอาหารและนำมาทานเป็นผักเคียงกับอาหารชนิดต่างๆ
ป้ามณี วงศ์มหิง เกษตรกรผู้ปลูกใบกะเพรา โหระพา และใบแมงลัก จำหน่ายที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้เคยทำนา แต่สู้กับภาวะแล้งไม่ไหว เลยหันมาปลูกผักสวนครัว ซึ่งทำรายได้ทุกวัน ตกวันละ 500 บาท โดยบอกว่า แค่ 1 ไร่ ก็ตัดขายไม่ทันแล้ว
“อย่างกะเพรา เป็นผักสวนครัวที่ปลูกง่าย ชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ส่วนการปลูกก็ง่ายมาก ขุดหลุมตื้นๆ ปลูก รดน้ำ แล้วใส่ปุ๋ยคอก จากนั้น รดน้ำวันละครั้ง”
สำหรับกะเพราที่ปลูกกันทั่วไปมีอยู่ 2 ชนิด คือ กะเพราขาวและกะเพราแดง สามารถขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ร่วนซุย ระบายน้ำดี โดยแต่ละพันธุ์จะมีอายุเฉลี่ย 1-2 ปี
“พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ถึง 15,000 ต้น หลังจากปลูกแล้ว 30 วันก็เก็บขายได้ และเก็บขายได้นาน 6-7 เดือน เก็บเกี่ยวได้ 10-15 ครั้ง แต่หลังจากนั้นผลผลิตจะลดลง กิ่งก้านแข็ง แตกยอดน้อย ต้องรื้อและปลูกใหม่”
และหลังจากเก็บมาแล้ว จะนำไปล้างน้ำเปล่า ผึ่งลมให้แห้ง ตัดแต่งใบออกบางส่วน และนำมามัดเป็นกำ กำละ 1.5 ขีด
รายการ WeekendFarm รายการเกษตรในคอนเซ็ปต์ เรื่องเกษตรไม่ยากอย่างที่คิด We Can Do It ใครก็ทำได้ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 21.00-22.00 น. ทาง VoiceTV21