คุมะมง หมีอ้วนขวัญใจเกษตรกร

วันที่เกิดแผ่นดินไหวทางตอนใต้ของญี่ปุ่น รวมทั้งเมืองคุมาโมโตะเมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่คนในโลกอินเตอร์เน็ตเปล่งเสียงถามมากที่สุดคือ “คุมะมง ปลอดภัยหรือเปล่า”

มืองคุมาโมโตะบ้านของหมีอ้วนคุมะมง เรียกตรงๆ ว่าเป็นบ้านนอกคอกตื้อ คือเป็นเมืองเกษตรกรรมเล็กๆ บนฝั่งตะวันตกของเกาะกิวชู เกาะใต้สุดของญี่ปุ่น เวลาดูแผนที่ก็คือ เกาะที่อยู่ล่างสุด นับว่าไกลปืนเที่ยงมิใช่น้อย

คืออยู่ไกลจากโตเกียวมากกว่าอยู่ไกลจากเมืองปูซานของเกาหลีใต้ที่มีทะเลคั่นกลางน่ะคิดดู

แต่เป็นการไกลปืนเที่ยงแบบญี่ปุ่น คือไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เจริญพอกัน สิ่งยืนยันได้คือ มีรถไฟความเร็วสูงไปจ่อถึงเมืองแล้วเมื่อ 6 ปีก่อน

ญี่ปุ่นนี่นะ ขอให้มีคนเถอะ เขาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกไปให้จนได้ ฉันเคยเห็นบางเมืองมีคนไม่กี่สิบคนเขาก็สร้างทางรถไฟไปจนถึง มีโรงเรียนให้เด็กเรียนใกล้บ้าน ไม่ต้องระเหระหนไปไกล

รถไฟความเร็วสูงปรากฏตัวขึ้นที่เมืองนี้ พร้อมๆ กับคุมะมง (Kumamon) นั่นแหละ

คุมะมง ซึ่งแปลตรงตัวว่า คนเมืองคุมาโมโตะ เป็นมาสค็อตของเมือง มาในร่างตุ๊กตาหมีสีดำหน้าแป้นพุงกลมขาสั้น เดินเตาะแตะน่าเอ็นดู ปรากฏตัวเมื่อปี 2554 พร้อมๆ กับการมาถึงของรถไฟความเร็วสูง

ตอนแรกเขา-ซึ่งหมายถึงภาครัฐและประชาชนร่วมกัน-กะใช้คุมะมงในการส่งเสริมการท่องเที่ยว เขาก็เอาคุมะมงมาเป็นตัวแทนของคนคุมาโมโตะ คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวที่สถานีรถไฟ คอยยิ้มแป้นอวดพุงปลิ้น คอยกอด คอยเต้นระบำน่ารักๆ ให้ดู หวังดึงดูดให้คนมาเที่ยวเยอะๆ

ซึ่งก็ประสบผลสำเร็จถล่มทลาย ผู้คน โดยเฉพาะเด็กๆ กรี๊ดคุมะมงเอามากๆ

คุมะมงดังชั่วข้ามคืน แล้วก็ดังขึ้นเรื่อยๆ นับแต่นั้น

ญี่ปุ่นเป็นเมืองของการ์ตูน มาสค็อต ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา เพราะฉะนั้นแต่ละบริษัทแต่ละเมืองมีมาสค็อตของตัวเองไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ไม่มีใครดังเท่าคุมะมง

ก่อนจะมีคุมะมง เขาประกวดประขันกันพักใหญ่ ให้คนในเมืองคุมาโมโตะส่งแบบมาสค็อตมาประกวด แล้วก็ได้คุมะมง หมีตัวอ้วนกลมปุ๊กยิ้มตลอดเวลานี่แหละ หลังจากนั้นเขาก็มีประกวดมาสค็อตของแต่ละเมืองอยู่เนืองๆ คุมะมงก็ชนะเลิศได้สวมมงเป็นมาสค็อตดังสุดของประเทศ จนตอนนี้เขาห้ามคุมะมงประกวดแล้ว

ธนาคารแห่งญี่ปุ่นประเมินว่า ระหว่างสองปีแรกที่ปรากฏตัว คะมุมงทำเงินไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นล้านบาท

คุมะมงได้ออกทีวี ได้ไปแถลงข่าวกับนักข่าวต่างประเทศ ได้ไปเดินแฟชั่น ได้เข้าเฝ้าพระจักรพรรดิ

คนมาเที่ยวคุมาโมโตะเพราะอยากเห็นคุมะมง คุมาโมโตะไม่ใช่เมืองหัวไร่ปลายนาอีกต่อไป

คนคุมาโมโตะเห็นโอกาสทองนี้ จึงเริ่มนำคุมะมงไปประชาสัมพันธ์สินค้าการเกษตรของจังหวัดตน

จากที่ยืนยิ้มแป้นที่สถานีรถไฟ ก็โยกย้ายไปยิ้มแป้นในแปลงแตงโม แปลงส้มเขียวหวาน แปลงสตรอเบอรี่ แปลงมะเขือเทศ

คุมะมงเดินทางไปทั่วญี่ปุ่น ไปเต้นๆๆ กอดๆๆ ผู้คน แล้วก็อ้อนแม่ยกชวนเขากินแตงโม สตรอเบอรี่ มะเขือเทศ ผักสดจากคุมาโมโตะ

เมื่อคนรักคุมะมง คนก็รักสินค้าของคุมะมงด้วย ผลผลิตการเกษตรจากคุมาโมโตะขายระเบิดระเบ้อทันใด ปีที่แล้วแค่มะเขือเทศกับสตรอเบอรี่ของจังหวัดที่มีพื้นที่ครึ่งหนึ่งของนนทบุรี ขายได้ห้าหมื่นล้านบาท

จึงอย่าถามว่า คนคุมาโมโตะ รักคุมะมงขนาดไหน เดินในเมืองนี้คุณจะเห็นคุมามงทั่วไป ร้านกาแฟ ตลาดสด แปลงปลูกแตงโม คุมะมงยิ้มแป้นในทุกที่

ปัจจุบัน คุมะมง “สวยรวยและแพง” ค่าลิขสิทธิ์แพงลิ่ว สินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าคุมะมงมีสารพัดอย่าง เมืองไทยก็มีคนซื้อลิขสิทธิ์คุมะมงมาผลิตสินค้าขายแล้ว สายการบินเจแปนแอร์ไลน์ยังมีชุดอาหารคุมะมงบริการ เรียกว่าฮิตไม่แพ้เจ้าแมวคิตตี้เลยทีเดียว ยอดขายสินค้าตราคุมะมงในต่างประเทศปีที่แล้วเกินสองแสนล้านบาท  สินค้าภายใต้เครื่องหมายคุมะมงขายไปทั่วโลก โดยเสียค่าลิขสิทธิ์ให้เมือง

แต่คนคุมาโมโตะใช้คุมะมงได้โดยไม่เสียค่าลิขสิทธิ์ สินค้าอื่นใดที่มาขอใช้คุมะมงจะต้องไม่ซ้ำกับของคุมาโมโตะด้วยนะ

ตอนนี้มีสินค้าที่ใช้คุมะมงเป็นแบรนด์อยู่ 5 พันกว่าราย

คุมะมงกำลังจะเตรียมเข้าลุยตลาดจีน ปีที่แล้วนางไปเดินแฟชั่นที่ฮ่องกงลองเชิงมาบ้างแล้ว คนกรี๊ดสลบตามระเบียบ

ทั้งหมดนี่เกิดจากสติปัญญาของคนตัวเล็กตัวน้อยในเมืองคุงมาโมโตะ ไม่ได้พึ่งพารัฐบาลแต่ประการใด

ฉันว่าเกษตรกรไทยไม่ได้สติปัญญาน้อยไปกว่าคนคุมาโมโตะ ฉันจึงสงสัยว่าทำไมเราไม่มีคุมะมงขายข้าวขายผักของบ้านเราบ้าง

……