สวก.วางนโยบายให้ทุนวิจัยภาคเกษตรปี 61 มุ่งใช้นวัตกรรมเพิ่มมูลค่าสินค้า ขายน้อยได้กำไรมาก

สวก.วางนโยบายให้ทุนวิจัยภาคเกษตรปี 61 มุ่งใช้นวัตกรรมเพิ่มมูลค่าสินค้า ขายน้อยได้กำไรมาก ปลื้มได้คะแนนสูงสุดขององค์การมหาชน ได้ ISO 90001:2015 และคว้าอันดับ 3 องค์กรมีคุณธรรม-โปร่งใส

นางพรรณพิมล ชัญญานุวัตร ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(สวก.)เปิดเผยถึงนโยบายการให้ทุนเพื่อการวิจัยภาคเกษตรในปีงบประมาณ 2561 ว่า ทางสวก.วางกรอบการวิจัย ต้องเพิ่มประสิทธิภาพ-ลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตร ต้องมีความปลอดภัยสูง มีการใช้นวัตกรรมการเกษตรมุ่งสู่การลงทุนจริง เช่น เวชสำอาง อาหารเสริม อาหารสุขภาพ ที่มาจากสินค้าเกษตรอินทรีย์หรือออแกนิค

มุ่งเน้นการทำน้อยแต่ได้มาก การทำระบบเกษตรทันสมัย เป็นเกษตรแม่นยำเพื่อลดต้นทุนการผลิตแต่ได้กำไรมาก เน้นการสกัดสารสำคัญที่มีประโยชน์จากสินค้าเกษตรแทนการขายแบบแมสหรือแทนการขายสินค้าจำนวนมาก

“เราเน้นการให้ทุนทำวิจัยแบบครบวงจร อย่างเช่น เวชสำอาง 4 ชนิดที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงสกัดสาร เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ทำสมุนไพรป้องกันผมร่วง การเสริมสร้างสุขภาพผิวลดความหย่อนยาน ร่วมศิริราชพยาบาลสกัดสารสำคัญ เช่น ทำยาหอม กับการป้องกันโรคปวดหลัง ซึ่งจากการไปออกงานเครื่องสำอางที่ฝรั่งเศสร่วมกับภาคเอกชนไทย 4 ราย มีผู้ให้ความสนใจถึง 120 บริษัท ทั้งจากยุโรป ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้จะขอซื้อสารสกัดไปทำแบรนด์จำหน่าย โดยเฉพาะอังกฤษมาเซ็น MOU ขอซื้อสารสกัดจากไหมทำโลชั่นเดือนละ 3 ล้านบาท ที่ สวก.ให้ทุนวิจัยแก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีดำเนินการ”

ในปีงบประมาณ 2561 สวก.มีงบให้ทุนการวิจัยและพัฒนาบุคลากรถึง 1,000 ล้านบาท มาจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ( วช.)ประมาณ 600 ล้านบาท ที่เหลือ สวก.เพิ่มเติมเข้าไปตามโจทย์ที่มีอยู่ โดยมุ่งเป้าวิจัยใน 7 กลุ่มหลัก ได้แก่ ข้าว ปาล์มน้ำมัน พืชสวน สัตว์เศรษฐกิจ ฟู้ดวัลเล่ย์ ฟู้ดอินโนเวชั่น ในโครงการประชารัฐ เป็นต้น

ซึ่งในงานไทยเฟ็กซ์ปี 2559 ภาคเอกชนที่ผลิตสินค้าใช้งานวิจัยจาก สวก.เข้าไปร่วมงานมียอดขายถึง 500 ล้านบาทและปี 2560 ถึง 1,000 ล้านบาท

“ที่กำลังทำการวิจัยอยู่คือ การแปรรูปปลาสลิด การขยายบ่อปลาช่อนขนาด 1 งานไปทุกภาคของประเทศแล้ว 300 บ่อ เพื่อเพาะเลี้ยงลูกปลาช่อนเองแทนการจับจากธรรมชาติ โดยใช้ฮอร์โมน จะทำให้เกษตรกรมีกำไรจากการเลี้ยง 6.5 หมื่นบาทต่อบ่อเพิ่มเป็น 1 แสนบาทต่อบ่อ ทำให้มีเงินสะพัดกว่า 5,000 ล้านบาท”

Advertisement

ผู้สื่อข่าว”ประชาชาติธุรกิจ”รายงานว่า ในปี 2560 สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(องค์การมหาชน)หรือ สวก. มีผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายถึง 3 เรื่องคือ

1.คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)ได้รายงานคะแนนผลการประเมินการปฏิบัติงานในปี 2559 ขององค์การมหาชน 31 แห่งให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2560 สวก.ได้คะแนนสูงสุดที่ 4.9420 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและประสิทธิภาพในการบริหารงานขององค์กรที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศ

Advertisement

2.สวก.ได้ปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานขององค์กร ทำให้ได้รับการรับรองระบบงานคุณภาพตามมาตรฐานสากล ISO 9001:2015 จากสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิหรือ สรอ.ใน 3 ขอบข่ายงานคือ การสนับสนุนทุนวิจัยด้านการเกษตร การพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและการส่งเสริมการใช้ประโยชน์และการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา โดยมีระยะเวลาการรับรอง 3 ปี(วันที่ 17 ตุลาคม 2560-16 ตุลาคม 2563)

3.สวก.ได้คะแนนประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐจาก (ปปช.) (ITA )ประจำปี 2560 สูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ขององค์การมหาชน 52 แห่ง และเป็นลำดับที่ 3 ของหน่วยงานภาครัฐทั้งประเทศ 422 แห่ง