ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากการตรวจสอบแบบจำลองสภาวะอากาศ(วาฟ-รอม) สถาบันสารสนเทศน้ำและการเกษตร(สสนก.)ว่า ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) ตั้งแต่หลังเที่ยงคืน จนถึงช่วงกลางวัน มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 14 มิลลิเมตร พื้นที่ที่มีปริมาณน้ำฝนสูงสุดอยู่ที่เขตบางบอน ปริมาณน้ำฝน 16 มม.สำหรับอุณหภูมิตั้งแต่ช่วงหลังเที่ยงคืนถึงช่วงเช้าอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่เขตหลักสี่ที่ 18.4 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิช่วงกลางวันเฉลี่ยทั้งพื้นที่อยู่ที่ 22 องศาเซลเซียส โดยฝนจะตกแบบพรำๆต่อเนื่องและมีท้องฟ้าครึ้มตลอดเวลาไปจนถึงตอนสายของวันที่ 28 ธันวาคม จึงจะเริ่มมีแดด และมีอากาศอบอุ่นขึ้นอุณหภูมิจะอยู่ที่ 25-27 องศาเซลเซียส
วาฟยังระบุด้วยว่า หลังจากนั้นในคืนวันที่ 30 ธันวาคม ความกดอากาศสูงจะแผ่ลงมาอีกรอบ คาดว่า ช่วงวันที่ 31 ธันวาคม ถึงวันที่ 1 มกราคม 2561 กทม.จะกลับมาหนาวอีกรอบ อุณหภูมิจะอยู่ที่ 19-20 องศาเซลเซียส
วาฟ ยังอธิบายถึงปรากฏการณ์ความหนาวเย็น และมีฝนตกไปพร้อมๆกันในช่วงเวลานี้ แต่หลายคนรู้สึกว่าหนาวน้อยกว่าช่วงกลางเดือนธันวาคม ที่ผ่านมานั้น เป็นเพราะ ช่วงก่อนหน้านี้อุณหภูมิลดลงไปถึง 15 องศาเซลเซียส บางพื้นที่เหลือ 14.8 องศาเซลเซียส ประกอบกับมีลมแรงและอากาศค่อนข้างแห้งทำให้ไอน้ำในร่างกายระบายออกไปมาก ทำให้รู้สึกหนาวแบบแห้งๆ ประกอบกับมีลมค่อนข้างแรง ทำให้รู้สึกหนาวมาก แต่ครั้งนี้มีฝนตกลงมา มีความชื้นในอากาศค่อนข้างสูง อุณหภูมิสูงกว่าครั้งก่อนเล็กน้อย คือ 19 องศาเซลเซียส น้ำฝนจะเป็นตัวดึงความร้อนจากอากาศออกมาส่วนหนึ่ง ร่างกายก็ไม่ได้ระบายความชื้นออกมามากนัก เป็นความหนาวชื้นๆ หรือรู้สึกเย็นยะเยือก ลักษณะคล้ายตอนหิมะตกใหม่ๆ คือ หนาวน้อยกว่าตอนก่อนหิมะตก