คาดเงินเฟ้อปีนี้แตะ 1% – พาณิชย์วัดค่าครองชีพจากส้มตำใส่ถุง ชี้ที่กระบี่แพงสุด 60 บาท

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2561 นี้คาดการณ์อัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วงระหว่าง 0.6-1.6% เฉลี่ย คาดว่าน่าจะเข้าใกล้ 1% ภายใต้สมมติฐาน ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะขยายตัว 3.75%

และคาดว่าราคาสินค้าน่าจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน และภาคบริการ ขนส่ง อาจปรับเพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อจะไม่ปรับเพิ่มขึ้นสูงมากนัก เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรยังไม่ปรับเพิ่มขึ้นสูง และมาตรการของรัฐ โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการดูแลราคาสินค้า ของกรมการค้าภายใน ยังช่วยทำให้ค่าครองชีพไม่เพิ่มขึ้น รวมทั้งภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง ทำให้ราคาสินค้าโดยรวมยังไม่สูงขึ้นมาก

นอกจากนี้ การส่งออกที่สูงขึ้น ทำให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัว มีการใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนก็จะขยายตัวมากขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนราคาน้ำมันคาดว่า ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 55 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากความต้องการใช้ที่จะเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และคาดว่าค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนอัตราเงินเฟ้อในปี ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.66% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าค่าครองชีพของประชาชนไม่ได้สูงมากนัก ประชาชนยังชะลอการใช้จ่ายเพื่อซื้อสินค้าคงทน เนื่องจากกำลังซื้อยังเปราะบาง แต่การปรับขึ้นส่วนใหญ่มาจากหมวดสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่สูงขึ้น 1.5% รวมถึง หมวดพาหนะ การขนส่ง และการสื่อสารที่สูงขึ้น 2.35% จากปีที่ผ่านมา ตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากกว่าปี 2016 ส่วนหมวดอาหารสดราคาปรับลดลงจากปีที่ผ่าน โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ไข่ไก่ และเนื้อสัตว์

ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา สูงขึ้น 0.78% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามราคาน้ำมันขายปลีกเชื้อเพลิงในประเทศที่ปรับขึ้น รวมถึงราคาเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่สูงขึ้นจากการปรับภาษีค่าความหวานของเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ และเมื่อเทียบกับ เดือนพย. ปีที่ผ่านมาเงินเฟ้อลดลง 0.08% เดือนธ.ค. เงินเฟ้อ 0.62% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.02% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. และ เฉลี่ยทั้งปี 2017 อยู่ที่ 0.56%

 

นอกจากนี้ ยังได้วัดค่าครองชีพจากส้มตำใส่ถุง โดยพบว่า จังหวัดที่ราคาส้มตำแพงสุด คือ จ.กระบี่ ราคาถุงละ 60 บาท รองลงมาเป็น จ.ระยอง ถุงละ 55 บาท ส่วนกรุงเทพฯ ราคาถุงละ 35 บาท และถูกสุด ศรีสะเกษ ราคาถุงละ 30 บาท

ทั้งนี้ พบว่าราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดท่องเที่ยว ทั้งนี้ในปีนี้ เศรษฐกิจคาดว่าจะดีขึ้น แต่ควต้องจับตาดู ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่จะผันผวนตามสถานการณ์การเมืองโลก และอาจจะมีผลต่อราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมัน

 

ทีมา : ข่าวสดออนไลน์