นอภ.ท้ายเหมืองนำชาวนาลงแขกเกี่ยวข้าวชื่อดังของพังงา ‘พันธุ์ไร่ดอกข่า’ กลิ่นใบเตย หอมอร่อย หุงขึ้นหม้อ

เมื่อวันที่ 8 มกราคม นายสุพงษวินัย ชูยก นายอำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา พร้อมด้วย นางวิไลวรรณ พลจร ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองท้ายเหมือง น.ส.ประไพ พุกงาม สถิติจังหวัดพังงา นายชาติ คงรื่น เกษตรอำเภอท้ายเหมือง นายโสภณ เคี่ยมการ ผอ.สวท.พังงา นำชาวบ้านในพื้นที่นิคมสร้างตนเองกว่า 60 คน ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวไร่ดอกข่า ในพื้นที่ 13 ไร่ ในแปลงยางพาราปลูกใหม่ของนายศักดิ์ชัย-นางฐิติมา สุคนธชาติ ข้าราชการครูบำนาญ ที่มอบให้ชุมชนใช้เป็นแปลงสำหรับปลูกข้าวไร่ไว้บริโภค และอนุรักษ์สายพันธุ์ข้าวประจำถิ่น ให้อยู่คู่ชาวจังหวัดพังงาตลอดไป

นายอำเภอท้ายเหมือง กล่าวว่า เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมการกินการอยู่ของชุมชนและการช่วยกันเก็บรักษาพันธุ์ข้าวไร่ดอกข่า เป็นสายพันธุ์ข้าวไร่ชื่อดังของจังหวัดพังงาเอาไว้ ในพื้นที่นี้เริ่มปลูกกันเมื่อปี 2558 และปีนี้ชุมชนในตำบลทุ่งมะพร้าวได้ร่วมกันปลูกรวม 3 แปลง เนื้อที่ประมาณ 30 ไร่ ผลดีที่เกิดขึ้นคือ การได้รวมกลุ่มของชาวบ้านมีทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมร่วมปลูกข้าวด้วยกัน ส่วนผลผลิตก็มาแบ่งแจกจ่ายกันไป

นายชาติ คงรื่น เกษตรอำเภอท้ายเหมือง กล่าวว่า ข้าวดอกข่า เป็นข้าวไร่พันธุ์พื้นเมืองที่มีต้านทานต่อโรค เมล็ดยาว สีของเมล็ดข้าวสารมีสีน้ำตาลแดงอมม่วง เมื่อหุงสุกจะมีกลิ่นหอม คล้ายกลิ่นใบเตย รสชาติอร่อย ข้าวไม่แข็ง หุงขึ้นหม้อ เกษตรกรสามารถนำผลผลิตมาจำหน่ายได้ถึงกิโลกรัมละ 60-70 บาท ที่ผ่านมาผลผลิตยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาดภายในจังหวัด โดยเริ่มปลูกในพื้นที่ตำบลบางทอง อำเภอท้ายเหมือง เป็นการปลูกแซมในแปลงปลูกยางพารา หรือแปลงปลูกปาล์ม ในระยะแรกปลูก 3 ปีแรก และต่อมาได้ขยายปลูกในพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดพังงา ล่าสุดเมื่อปี 2560 ทางศูนย์วิจัยข้าวจังหวัดกระบี่ได้รับรองสายพันธุ์เป็นที่เรียบร้อยแล้วในชื่อ “ข้าวไร่ดอกข่า 50”

 

ที่มา : มติชนออนไลน์