เงินใช้จ่ายโตไม่ทันศก. ต้นเหตุราคาเกษตรต่ำ

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี หัวหน้านักวิเคราะห์ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์ของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) มีแนวโน้มปรับดีขึ้น โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของทั้งระบบอยู่ในจุดสูงสุดที่ 4% และแนวโน้มลดลงต่ำกว่า 4% ในปีนี้ ทั้งนี้ จากการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเอสเอ็มอี พบว่า เอสเอ็มอีมีความมั่นใจต่อสถานการณ์รายได้จะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2560 และต่อเนื่องถึงไตรมาส 1/2561 ผลจากเป็นฤดูเก็บเกี่ยว การเดินทางท่องเที่ยว มาตรการกระตุ้นจับจ่ายใช้สอยของภาครัฐ แต่เอสเอ็มอียังกังวลด้านต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและราคาน้ำมันสูงขึ้น

นายเบญจรงค์ กล่าวว่า ธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ คือธุรกิจบริการ เพราะใช้แรงงานมากและมีสัดส่วนต่อต้นทุนผลิต 22% รองลงมาคือการผลิต มีต้นทุนจากค่าแรง 9% และการค้า มีต้นทุนจากค่าแรง 5% โดยประเมินปรับค่าแรงครั้งนี้ค่าจ้างเฉลี่ยทั่วประเทศสูงขึ้น 3-4% เท่านั้น ถือว่าไม่มากนักและภาครัฐยังมีมาตรการช่วยเหลือด้านภาษี คาดจะกระทบต่อกำไรธุรกิจบริการลดลง 1% ส่วนการผลิตและการค้า กระทบกำไร 0.3% และ 0.2% ตามลำดับ ปัจจัยต้องติดตาม คือปัญหาขาดแคลนแรงงานเพิ่ม ผลหลังปรับขึ้นค่าแรงต่อกำลังซื้อดีขึ้นในกลุ่มจังหวัดที่ปรับสูงสุด เช่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ภูเก็ต หนองคาย อุบลราชธานี เป็นต้น รวมถึงนโยบายส่งเสริมเที่ยวเมืองรอง ขณะที่กำลังซื้อภาคเกษตรยังต่ำ ดังนั้น คาดเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 4.2% แต่การบริโภคขยายตัวต่ำ 3% ถือว่าขยายตัวไม่ทันเศรษฐกิจ

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน