เกษตรฯ เล็งยกระดับคุณภาพเกลือทะเลผ่านระบบสหกรณ์ ตั้งเป้าส่งออกสู่ตลาดโลก

รมช. เกษตรฯ ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี พูดคุยกับชาวนาเกลือ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ เล็งยกระดับคุณภาพเกลือไทยให้ได้มาตรฐานผ่านระบบสหกรณ์ สามารถสร้างตลาดทั้งภายในและนอกประเทศ หวังเพิ่มช่องทางตลาด พร้อมผลักดันเกลือไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชมกระบวนการผลิตเกลือทะเลของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทยเพชรบุรี จำกัด พร้อมรับฟังปัญหาการทำอาชีพเกลือทะเล ที่ ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี

ทั้งนี้ พบว่าจังหวัดเพชรบุรีมีพื้นที่ในการทำนาเกลือของเกษตรกรผู้ผลิตเกลือทะเล รวมทั้งสิ้น 32,000 ไร่ โดยเกษตรกรสมาชิกของสหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทยเพชรบุรี จำกัด มีพื้นที่ทำนาเกลือ จำนวน 16,286 ไร่ คิดเป็น ร้อยละ 45.24 ของพื้นที่ทำนาเกลือทั้งหมดของจังหวัดเพชรบุรี

นับตั้งแต่ปี 2536 เกษตรกรผู้ทำนาเกลือได้รวมกันจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรชาวนาเกลือบ้านแหลม จำกัด ซึ่งเป็นสหกรณ์ประเภทการเกษตร มีสมาชิกแรกเริ่ม 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มบ้านแหลม กลุ่มบางขุนไทร กลุ่มปากทะเล และกลุ่มบางแก้ว-พะเนิน สมาชิกแรกตั้ง 111 คน ทุนดำเนินการเงินแรกเริ่ม 111,000 บาท

ต่อมาได้มีการขยายการเปิดรับสมาชิกและแดนดำเนินงานครอบคลุมทุกอำเภอของจังหวัดเพชรบุรี และจดทะเบียนชื่อว่าสหกรณ์การเกษตรเกลือทะเลไทยเพชรบุรี จำกัด ปัจจุบันมีสมาชิก 261 คน ดำเนินธุรกิจหลักคือการรวบรวมผลผลิตเกลือทะเลจากสมาชิก การแปรรูป การจัดหาสินค้ามาจำหน่ายให้สมาชิกและการให้บริการอื่นๆ แก่สมาชิกซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ทำนาเกลือ

สำหรับการดำเนินธุรกิจรวบรวมและจำหน่ายเกลือทะเลนั้น ทางสหกรณ์ฯ ได้จัดทำแผนรวบรวมผลผลิตจากสมาชิก โดยการทำข้อตกลง MOU กับสมาชิกสหกรณ์ และรวบรวมผลผลิตเกลือผ่านชุมนุมสหกรณ์เกลือทะเลไทย จำกัด ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – ธันวาคม 2561 โดยแบ่งเป็นเกลือแต่ละประเภท ดังนี้ 1. เกลือขาว จำนวน 2,423 ตัน

2. เกลือกลาง จำนวน 62,579 ตัน

3. เกลือดำ จำนวน 3,432 ตัน รวมทั้งสิ้น 68,434 ตัน

ปัจจุบันสหกรณ์รวบรวมเกลือจากสมาชิก จำนวน 614,310 กิโลกรัม และส่งผ่านชุมนุมฯ ไปแล้ว 469,950 กิโลกรัม

ที่ผ่านมา ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการช่วยเหลือสมาชิกสถาบันเกษตรกรที่ทำนาเกลือในจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี ภายใต้โครงการ “สร้างระบบการผลิตและการตลาดเกลือทะเลของสถาบันเกษตรกรด้วยวิธีการยกระดับราคาให้ยั่งยืน” โดยผลักดันให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาร่วมกันในการผลิตเกลือคุณภาพมาตรฐานและยกระดับราคาเกลือให้กับสมาชิก

ซึ่งช่วงฤดูแล้งของทุกปี ผลผลิตเกลือทะเลจะมีปริมาณมากที่สุดเป็น 3-4 เท่า ของช่วงปกติ กระทรวงเกษตรฯ จึงได้จัดสรรเงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร วงเงิน 52.5 ล้านบาท เป็นเงินปลอดดอกเบี้ย ให้สหกรณ์ชาวนาเกลือได้กู้ยืมไปเป็นทุนหมุนเวียนในการรวบรวมผลผลิตจากสมาชิกและกำหนดชำระคืนภายใน 5 ปี ระยะเวลาเริ่มโครงการตั้งแต่ปีการผลิต พ.ศ. 2559 ถึงปี พ.ศ. 2563

ภายหลังจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ร่วมหารือและรับฟังความเห็นจากสมาชิกสหกรณ์ผู้ทำนาเกลือ พบว่า เกษตรกรยังประสบปัญหาในการดำเนินงานหลายด้าน ที่ภาครัฐต้องเข้ามาให้การส่งเสริมและหาแนวทางแก้ไข ได้แก่

1. เรื่องต้นทุนการผลิตเกลือที่สูง

2.ส่งเสริมคุณภาพเกลือ ซึ่งจะต้องจำแนกเกลือออกเป็นหลายระดับเพื่อยกระดับให้เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ สามารถสร้างตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศได้อย่างถาวร และเป็นที่รู้จักและต้องการของตลาดโลก และผลักดันเกลือไทยเป็นที่รู้จักในสังคมโลก

3. การแปรรูปผลผลิตเกลือให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ซึ่งสหกรณ์ต้องพัฒนากระบวนการแปรรูปเกลือเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกลือทะเล โดยสหกรณ์ต้องมีอุปกรณ์การผลิต เช่น เครื่องทำเกลือป่น เครื่องทำเกลือแป้งเพื่อนำไปใช้ในการทำฝนเทียม และเกลือสปา

ทั้งนี้ ทุกภาคส่วนจะเข้ามาบูรณาการเพื่อศึกษาเพื่อหาแนวทางร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งให้สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ทำการศึกษาวิจัยการพัฒนาเกลือทะเล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ อย่างกว้างขวาง และต้องส่งเสริมยกระดับระบบสหกรณ์นาเกลือให้เกิดความเข้มแข็ง มีการบริหารจัดการที่ดี ซึ่งจะต้องหาแนวทางส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ทำนาเกลือได้รายได้ที่มั่นคงและสามารถประกอบอาชีพทำนาเกลือได้อย่างยั่งยืน

“เราต้องร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ได้ทรงวางรากฐานรักษาอาชีพทำนาเกลือไว้ให้คนไทย ได้พระราชทานพื้นที่ที่สำคัญในการทำนาเกลือจนเกิดประโยชน์ต่อคนไทยมาช้านาน ประโยชน์ของเกลือทะเลไม่ใช่เพียงช่วยทำให้คนไทยไม่เป็นโรคคอหอยพอกเท่านั้น แต่เรายังสามารถนำเกลือไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ได้อีก ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรักษาอาชีพทำนาเกลือไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันให้คงอยู่กับคนไทยได้นานเท่านาน” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว