ประมง ไม่ได้รับอานิสงส์ จีดีพี โต-ชี้นายกนั่งยาวคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานคณะกรรมการบริหารสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าอัตราการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้โต 5.5% ว่า อาจจะเป็นไปได้จากการเติบโตจากการส่งเสริมการลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้นักธุรกิจมีความมั่นใจในการลงทุน แต่ในส่วนภาคประมงไม่น่าจะเกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แท้จริง แต่เติบโตจากการนำเข้าสินค้าประมง เพื่อการส่งออก เช่น การนำเข้าปลาทูน่า ปลาหมึก

และเร็วๆ นี้ รัฐบาลเตรียมนำเข้ากุ้ง 5 แสนตัน เพื่อแปรรูปเพื่อส่งออกเช่นกัน ซึ่งไม่ใช้การเติบโตจากการฟื้นตัวของภาคประมงในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันภาคประมงจะจับสัตว์น้ำส่วนใหญ่มาบริโภคในประเทศ ก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว ถ้าจะนำไปส่งออกก็จำนวนน้อยมาก

ทั้งนี้ เกิดจากการแก้ไขปัญหาการประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) ทำให้เรือประมงเหลือเพียง 11,000 ลำ เท่านั้น ในจำนวนนี้มีเพียง 8,000 ลำ ที่ใช้จับสัตว์น้ำโดยตรง ที่เหลือเป็นเรือสนับสนุน ทำให้ปริมาณสัตว์ไม่เพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลมีนโยบายรับฝากรับซื้อเรือประมงคืน ผ่านมา 2 ปี ก็ยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด จึงขอให้รัฐบาลเร่งรัดรับซื้อเรือประมงคืน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคประมงอีกทางด้วย

นายมงคล กล่าวว่า ส่วนกรณีหาก พล.อ.ประยุทธ์ จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกนานนั้น ตนมองว่าก็คงจะดีที่จะแก้ไขปัญหากันต่อไป เนื่องจากดำเนินการแก้ไขปัญหา ไอยูยู มาเกือบ 100% ก็คงไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้ว เพราะภาคประมงได้รับผลกระทบอย่างหนักมาตลอด 3 ปี หากท่านจะอยู่ยาวก็คงทำงานร่วมกับภาคประมงได้ แต่หากมีการเปลี่ยนแปลงก็คงต้องมีการพูดคุยกันต่อไป