“สนธิรัตน์” สั่งทบทวนมาตรการกำหนดสัดส่วนนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพด ขีดเส้น18เม.ย.นี้

“สนธิรัตน์” สั่งคณะอนุกรรมการพิจารณาทบทวนมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดในประเทศเหลือ 1 ต่อ 2 จากเดิม1 ต่อ 3 ตามที่กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์เสนอ ขีดเส้น 18 เม.ย.นี้ ย้ำให้ยึดหลักสร้างสมดุลระหว่างผู้ผลิต เกษตรกร

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับกลุ่มปศุสัตว์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ผลิตอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงไก่เนื้อว่า ตัวแทนจากสมาคมฯ ที่เข้าร่วมประชุมได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาทบทวนมาตรการกำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดในประเทศที่อัตรา 1 ต่อ 3 หรือนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน โดยขอให้ผ่อนปรนมาตรการกำหนดสัดส่วนเหลือแค่อัตรา 1 ต่อ 2 หรือนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน ต้องซื้อข้าวโพดในประเทศ 2 ส่วนเท่านั้น

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณากำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่มีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน นำข้อเสนอดังกล่าวไปพิจารณา โดยจะมีการประชุมกันในวันที่ 18 เม.ย.2561 และได้เปิดโอกาสให้สมาคมฯ ข้างต้นส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมได้ด้วย

“มติที่ประชุมจะออกมาอย่างไร ต้องรอผลการพิจารณาก่อน แต่ผมได้ให้หลักการไปว่าการพิจารณาต้องสร้างประโยชน์และสร้างจุดสมดุลให้กับทุกฝ่าย ทั้งเรื่องราคาที่เกษตรกรจะได้รับ ประโยชน์ของอุตสาหกรรมที่ต้องใช้วัตถุดิบ โดยไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และมติที่ออกมา จะต้องสร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในอนาคตด้วย”นายสนธิรัตน์กล่าว

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล เลขาธิการสมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และนายกสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย กล่าวว่า ได้เสนอให้กระทรวงพาณิชย์ทบทวนมาตรการกำหนดสัดส่วนนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดในประเทศเหลือ 1 ต่อ 2 โดยปัจจุบันการกำหนดสัดส่วน 1 ต่อ 3 แม้จะซื้อข้าวโพดตามสัดส่วนการนำเข้า ข้าวโพดก็ยังขาดแคลนอยู่ 1.7 ล้านตัน ถ้าลดลงมาเหลือ 1 ต่อ 2 ก็ยังขาดแคลนอีก 8 แสนตัน เพราะฉะนั้น แม้จะลดสัดส่วน ก็ไม่ต้องกังวลว่าผู้ผลิตจะลดการซื้อข้าวโพดในประเทศลง

“กลุ่มผู้ใช้ ไม่เสนอให้ยกเลิกมาตรการกำหนดสัดส่วนทั้งหมด เพราะไม่แฟร์กับกระทรวงพาณิชย์และผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ แต่อยากให้ทบทวนมาตรการกำหนดสัดส่วนเหลือแค่ 1 ต่อ 2 ซึ่งจะบรรเทาความเดือนร้อนของกลุ่มผู้ใช้ได้ อีกทั้งขณะนี้ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศได้ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่กก.ละ 11 บาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่อยู่กก.ละ 8-9 บาท เพราะปัญหาการขาดแคลน จึงอยากให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยพิจารณา เพราะแม้ลดสัดส่วนลง ก็ไม่กระทบราคาในประเทศ โดยในวันที่ 18 เม.ย. จะเข้าร่วมเพื่อยื่นข้อเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ อีกครั้ง”นายพรศิลป์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรในพื้นที่ปลูกข้าวโพดเบื้องต้น ได้รับทราบข้อมูลว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ยอมรับได้ หากจะมีการทบทวนกำหนดสัดส่วนนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดในประเทศเหลือ 1 ต่อ 2

 

ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์