พัฒนานักธุรกิจอีสานรุ่นใหม่ เจาะตลาดค้าปลีก ยุค 4.0

ซีพี ออลล์ ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าจังหวัดนครพนม และสมาคมการค้าปลีกและ เอสเอ็มอี ทุนไทย จัดงานสัมมนาพิเศษถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ปีที่ 11 “สร้างธุรกิจ SME ให้โตอย่างยั่งยืน” มีผู้สนใจเข้าร่วมฟังกว่า 200 คน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

คุณสุวิทย์ กิ่งแก้ว นายกสมาคมการค้าปลีก และ เอสเอ็มอี ทุนไทย และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ. ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวว่า ซีพี ออลล์ ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการศึกษา พัฒนาองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการธุรกิจ เอสเอ็มอี และร้านโชห่วย ร่วมกับ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมการค้าปลีก และ เอสเอ็มอี ทุนไทย ด้วยการจัดงานสัมมนาให้ความรู้ในการดำเนินธุรกิจยุคใหม่มาอย่างต่อเนื่องทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ตั้งแต่ ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน รวมเป็นเวลา 11 ปี

โดยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี เจ้าของร้านโชห่วย และประชาชนที่สนใจ เข้าร่วมสัมมนาแล้วกว่า 8,000 คน ทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ปัจจุบันและนโยบายภาครัฐที่ให้ความสำคัญในการส่งเสริมธุรกิจรายย่อย (SME) ทางสมาคมได้จัดงานสัมมนาพิเศษ ถ่ายทอดองค์ความรู้สู่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ปีที่ 11 “สร้างธุรกิจ SME ให้โตอย่างยั่งยืน” โดยล่าสุด จัดขึ้น ณ จังหวัดนครพนม

ภายในงานมีการเสวนาพิเศษ หัวข้อ “เทคนิคการสร้างธุรกิจ SME 4.0 อย่างมืออาชีพ” โดยมี คุณสุรนาม พานิชการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทฟุซัง จำกัด เจ้าของธุรกิจน้ำเต้าหู้ แบรนด์ “โทฟุซัง” และ ภญ. เกดกานต์ นิละทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค แอนด์ บี คอสเมติก จำกัด เจ้าของธุรกิจเครื่องสำอาง แบรนด์ “นามิ” พร้อมการบรรยายพิเศษ “ถอดรหัสค้าปลีก ยุค 4.0” โดย ดร. นริศ ธรรมเกื้อกูล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และรองกรรมการผู้จัดการ บมจ. ซีพี ออลล์

“เป้าหมายการจัดงานสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้จากผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจบอกเล่าประสบการณ์ตรง ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ เอสเอ็มอี เล็กๆ จนสามารถก้าวมาเป็น เอสเอ็มอี ที่เติบโตอย่างมั่นคง มียอดจำหน่ายสินค้าผ่าน ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทั่วประเทศ จะมาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี ในพื้นที่จังหวัดนครพนม และจังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสาน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเชื่อว่าผู้เข้าร่วมงานสัมมนาจะสามารถนำแนวคิดและวิธีการมาปรับใช้ในการทำธุรกิจของตนให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน” คุณสุวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

แบรนด์ “นามิ” (NAMI) นับเป็นหนึ่งในตัวอย่างธุรกิจ Startup ที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้  โดย “เกดกานต์ นิละทัต” มีจุดเริ่มต้นจากอาชีพเภสัชกร ผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยและพัฒนา (R&D) เครื่องสำอางนำเข้าจากต่างประเทศ ให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เธอเล็งเห็นโอกาสของสินค้ากลุ่มนี้ จึงร่วมหุ้นกับเพื่อนพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางภายใต้ชื่อบริษัท เค แอนด์ บี คอสเมติก จำกัด ผลิตสินค้าออกจำหน่าย ในชื่อ แบรนด์ “นามิ” นำสินค้าไปเสนอขายผ่านทางเซเว่นแค็ตตาล็อก (24 Shopping ในปัจจุบัน) ก่อนนำสินค้าวางขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จนถึงทุกวันนี้

ส่วนผลิตภัณฑ์นมถั่วเหลืองผสมฟองเต้าหู้ แบรนด์ TOFUSAN (โทฟุซัง) เกิดจากแนวคิดของ คุณสุรนาม พานิชการ ซึ่งชอบดื่มน้ำเต้าหู้รถเข็นอยู่เป็นประจำ แต่น้ำเต้าหู้ทั่วไปมักมีรสชาติไม่ถูกปาก จึงเกิดความคิดอยากทำน้ำเต้าหู้คุณภาพดีที่ทำจากนมถั่วเหลืองคั้นสด โดยไม่ใช้ผงถั่วเหลืองผสม ไม่ใช้สารปรุงแต่ง คุณสุรนามได้ทำวิจัยเรื่องน้ำเต้าหู้ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และ Innovative House โดยใช้เวลา 9 เดือน และเงินทุนกว่า 600,000 บาท พัฒนาสินค้าตัวแรกคือ “นมถั่วเหลืองผสมฟองเต้าหู้” ออกขายได้ ในปี 2554 ปรากฏว่า ได้ผลตอบรับที่ดีมาก

แต่กว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ง่ายเลย เจอปัญหาถั่วเหลืองมีราคาแพง เพราะซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง แถมโรงงานที่ว่าจ้างผลิต ไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามกำหนด และเจอปัญหาการลอกเลียนแบบสินค้า คุณสุรนาม จึงตัดสินใจเปิดโรงงานของตัวเอง ที่จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้ควบคุมต้นทุนและคุณภาพของสินค้าได้ในทุกขั้นตอน

นอกจากนี้ คุณสุรนาม พานิชการ ได้เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้ง จากขวดแก้วเป็นขวดพลาสติก ออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย ใช้ขวดแบบเหลี่ยม ทำให้ลูกค้ารู้สึกได้สินค้าที่มีปริมาณมากกว่าเดิม และเปิดตัวสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และนำสินค้าวางขายผ่าน ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทำให้สินค้าขายดีติดลมบน ก้าวขึ้นมาเป็น เบอร์ 1 ผู้นำตลาดน้ำเต้าหู้พร้อมดื่มแบบขวด ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี