ร้องสถานีสูบน้ำ งบ 30 ล้าน ปล่อยร้างใช้งานไม่ได้ ชลประทานเเจงเก็บอุปกรณ์ที่ สนง.เพราะกลัวถูกขโมย

ชาวบ้านร้อง สถานีสูบน้ำงบ 30 ล้าน ปล่อยร้างใช้งานไม่ได้ ชลประทานเเจงเก็บอุปกรณ์ที่ สนง. เพราะกลัวถูกขโมย ส่วน 30 ล้าน เเค่ตั้งงบไว้ ใช้จริง 19 ล้าน

เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าห้วยสายบาตร ต.เสือเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ที่สร้างด้วยงบประมาณ 30 ล้านบาท โดยชาวบ้านเล่าว่าสถานีสูบน้ำดังกล่าว ถูกปล่อยร้างมานานเกือบ 3 ปี ตัวแพเหล็กพังเอียงลงไปในแม่น้ำ ทำให้เครื่องไม่สามารถทำงานได้ โดยสถานีสูบน้ำแห่งนี้เกิดจากความต้องการของชาวบ้าน ร้องขอไปยังโครงการชลประทานมหาสารคาม สำนักชลประทานที่ 6 เมื่อมีการอนุมัติงบสร้างจนแล้วเสร็จ แต่ใช้ไปได้ไม่กี่ครั้งก็หยุดใช้และปล่อยทิ้งร้างไป

โดยสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าห้วยสายบาตร สามารถสูบน้ำมาใช้ร่วมกันได้หลายหมู่บ้าน เช่น บ้านหนองเรือ หมู่ที่ 10 บ้านเข็ง หมู่ที่ 7-12 บ้านเสือเฒ่า หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 15 หล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตรได้นับพันไร่ ซึ่งชาวบ้านเสียดายงบประมาณในการก่อสร้าง อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลและซ่อมแซมให้กลับมาใช้ได้ดังเดิม

นายอนุรักษ์ ไชยราช ชาวบ้านเปิดเผยว่า สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าห้วยสายบาตร ได้เริ่มก่อสร้าง ปี 2556 แล้วเสร็จ ปี 2557 ในช่วงแรกได้มีการเปิดทดลองใช้ เกิดปัญหาท่อส่งน้ำแตก เนื่องจากใช้ท่อส่งน้ำขนาดเล็กและบริเวณปลายสายส่งน้ำแรงดันไม่เพียงพอน้ำไหลไปได้ช้าและน้อย ต่อมามีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าที่แพง เนื่องจากชาวบ้านต้องจ่ายค่าไฟฟ้าสำหรับเครื่องสูบน้ำ ในอัตราลูกบาศก์เมตรละ 4 บาท แต่ละคนจะต้องจ่ายค่าใช้ครั้งละประมาณ 500 บาท ภายใน 1 เดือน ต้องสูบนำเข้าพื้นที่การเกษตรตนไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ทำให้ต้นทุนค่าน้ำ ต่อเกษตร 1 คน ประมาณ 1,500-2,000 บาท ทั้งนี้ ระยะแรกทาง อบต. ได้ช่วยจ่ายค่าไฟฟ้า 1 ใน 3 ส่วน แต่ไม่นานก็ไม่มีงบประมาณมาช่วย ชาวบ้านจึงเลิกใช้ และปล่อยทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบัน

ส่วนแพเหล็กได้เอียงลงไปในน้ำเมื่อช่วงปลายปี 2560 เพราะได้เกิดพายุและมีน้ำท่วมสูงบริเวณนี้กว่า 20 เมตร ดันแพขึ้นเกยฝั่ง เมื่อน้ำลดลงจึงทำให้แพเอียงจมลงไปข้างหนึ่ง ซ้ำร้ายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็มีขโมยมายกหม้อแปลงไฟฟ้าเอาอุปกรณ์ภายในไปขาย 1 ลูก ทางชาวบ้านทำได้เพียงแจ้งไปทาง อบต. และผู้ดูแลโครงการชลประทานในพื้นที่ ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่ลงมาดูแล้วแต่ยังไม่มีการแก้ไขอะไร

โครงการนี้ตั้งงบประมาณดำเนินการไว้ 30 ล้านบาท ราคากลางโครงการ 29 ล้านบาท ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ร่วมกันลงชื่อที่จะขอเครื่องสูบน้ำมาใช้ในการเกษตร จึงมีเพื่อนบ้านเสียสละพื้นที่ตนเองให้โครงการ สร้างบ้านพักพนักงานและระบบไฟฟ้าแรงสูง ใช้เวลาก่อสร้างตามทีโออาร์ ระยะเวลา 240 วัน ขึ้นป้ายถ่ายโอนภารกิจให้กับ อบต. เสือเฒ่า แต่สุดท้าย อบต. เสือเฒ่า ไม่เข้ารับโอนตามที่ตกลงกันไว้ จึงไม่มีผู้ใดมารับผิดชอบดูแลต่อ

ล่าสุด นายจรัส เพ็ญศิริสมบูรณ์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าห้วยสายบาตร หรือบ้านจาน ต.เสือเฒ่า อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม ได้มีการก่อสร้างสถานีสูบน้ำ สร้างเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2557 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2558 เป็นการก่อสร้างตามคำร้องขอของกลุ่มเกษตรกร โดยผ่านองค์การบริหารส่วนตำบลเสือเฒ่า เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ทำการเกษตร 3,360 ไร่ ซึ่งที่มีผู้อ้างว่าใช้งบประมาณการก่อสร้างจำนวน 30 ล้านบาทนั้น ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง เป็นการตั้งงบประมาณไว้ แต่มีการประมูลราคากลาง สร้างเป็นวงเงิน 19,750,000 บาท

โดยแพเหล็กสถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าชนิดหอยโข่งติดตั้งบนแพลอย ขนาดมอเตอร์ไฟฟ้า 132KW ก่อสร้างท่อส่งน้ำรับแรงดันสาย pppยาว 2+472กม. พร้อมอาคารประกอบ การสร้างท่อส่งน้ำ สายยาว 1+161 กม. พร้อมอาคารประกอบ ก่อสร้างท่อส่งน้ำ สาย LPM ยาว+300 กม. พร้อมอาคารประกอบ ท่อส่งน้ำ AC ขนาด 400 มิลลิเมตร ยาว 2 กิโลเมตร ผ่านใต้ดิน ฯลฯ และอุปกรณ์ ทั้งหมดที่ชาวบ้านไม่เห็นนั้นไม่ได้หายไปไหน เนื่องจาก องค์การบริหารส่วนตำบลเสือเฒ่าได้รับโอนทางสำนักงานชลประทาน จึงได้นำอุปกรณ์เหล่านั้นมาเก็บไว้ที่สำนักงานชลประทาน ยังเหลือครบทุกชิ้น เพราะเกรงว่ามิจฉาชีพจะขโมยไป แต่เมื่อ อบต. รับโอน ทางเจ้าหน้าที่จะได้ต่อเติมให้อยู่ในสภาพเดิม

ขอบคุณภาพประกอบจากเพจเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน

ที่มา : มติชนออนไลน์