กลุ่มรักษ์ ‘เชียงของ’ หนุนตั้งม.สมุนไพร ดึงจีนเข้าร่วมลงทุน – พัฒนา

เชียงราย – นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย เผยว่า ที่ผ่านมาจังหวัดเชียงรายได้รับเลือกให้เป็นเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดน จัดตั้งระยะที่ 2 ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ แม่สาย เชียงแสน และ   เชียงของ เชียงรายมีผลิตภัณฑ์มวลรวม 99,827 ล้านบาท รายได้เฉลี่ย 86,884 บาท ต่อคน ต่อปี จังหวัดจึงนส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ที่ให้ราคาสูง ส่วนการค้าชายแดนนั้นถือว่ามีมูลค่าการค้ามหาศาลอยู่แล้ว และภาคการท่องเที่ยวพบว่า ยังมีความแตกต่างระหว่างฤดูท่องเที่ยวและฤดูฝน จึงร่วมกับภาคเอกชนและเครือข่ายประชาชนส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ เช่น ท่องเที่ยวทางศิลปะ วัฒนธรรม ชุมชน

อุปสรรคสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจคือราคาที่ดินที่พุ่งสูง ผังเมืองกำหนดพื้นที่ไม่เหมาะสม ทำให้พัฒนาหรือสร้างโรงงานที่ใช้เครื่องจักรมากกว่า 5 แรงม้าแทบไม่ได้เลย ยางพาราต้องส่งขายจีนหรือภาคใต้ไม่ได้แปรรูปทำให้ราคาต่ำ เพราะสร้างโรงงานไม่ได้ แรงงานในพื้นที่มีผู้คนที่ถือบัตรหลากหลายผู้ประกอบการแทบไม่กล้าจ้างงาน ขอให้ภาคเอกชน นักวิชาการ นักอนุรักษ์ ฯลฯ ร่วมกันอุดช่องว่างของอุปสรรคต่างๆ ปรับเข้าหากันเพื่อได้จุดลงตัว ถ้าทำได้จะทำให้เศรษฐกิจก้าวหน้าต่อไป

ด้าน นายวิวัฒน์ ร้อยแก้ว นักอนุรักษ์จากกลุ่มรักษ์เชียงของ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการพัฒนาเมืองเชียงรายมุ่งเน้นรองรับความต้องการของกลุ่มทุนที่จะเข้ามาลงทุนเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มทุนจีน ควรพัฒนาให้เกิดความสมดุล ใช้ความต้องการของภาคประชาชนเป็นหลัก เช่น พื้นที่ต้องการการศึกษาและวิจัยพืชพันธุ์ประเทศไทย ก็ตั้งมหาวิทยาลัยสมุนไพรอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงที่อำเภอเชียงของ เสียเลย เพราะภูมิภาคนี้อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ที่สามารถพัฒนาเป็นสมุนไพรได้อยู่แล้ว ส่วนประเทศจีนก็มีความสนใจและต้องการพัฒนาในเรื่องนี้ด้วย ดังนั้น หากจัดตั้งมหาวิทยาลัยกลุ่มทุนจีนเข้าร่วมก็จะได้ประโยชน์ด้วยกัน ทุกฝ่ายต่อไป

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด