ผู้เขียน | มติชนสุดสัปดาห์ |
---|---|
เผยแพร่ |
โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง
มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org
เมื่อช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา กระแสนิยมดื่มน้ำสมุนไพรบุก หรือน้ำคอนยัก เพื่อลดหุ่นให้สลิมมาแรงมาก แต่เนื่องจากสูตรน้ำสมุนไพรบุกไม่มีความเข้มข้นพอ จึงทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผล ความนิยมในสมุนไพรตัวนี้จึงลดน้อยลงอย่างน่าเสียดาย
ทั้งที่หากมีการใช้อย่างถูกต้องแล้ว บุก เป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพรที่เป็นตัวเลือกที่ช่วยลดน้ำหนัก และช่วยรักษาโรคอ้วนได้ผลดีมาก
บุก เป็นตัวเลือกสมุนไพรที่ “ใช่เลย” สำหรับการลดน้ำหนัก เพราะ
1.
บุก เป็นสมุนไพรไร้แคลอรี องค์ประกอบส่วนใหญ่ของแป้งบุกคือ คอนยัก กลูโคแมนแนน (Konjac glucomannan) ซึ่งแม้จะเป็นน้ำตาลตัวหนึ่ง แต่ก็เป็นโพลีแซกคาไรด์ (polysaccharides) ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลใหญ่ ที่ไม่มีการย่อยสลายแตกตัวเป็นน้ำตาลโมเลกุลเล็กในระบบย่อยอาหาร ดังนั้น จึงไม่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแม้แต่โมเลกุลเดียว แต่จะขับถ่ายออกมาในรูปเดิม
พูดง่ายๆ คือ เข้าทางปากเท่าไร ก็ระบายออกทางทวารเท่านั้น
บุก จึงไม่ให้พลังงานใดๆ ไร้แคลอรีหรือซีโร่ชูการ์ (Zero sugar) โดยสิ้นเชิง
มีการคำนวณว่า มีผู้ใหญ่คนหนึ่งบริโภคอาหาร 2,000-4,000 กิโลแคลอรี ต่อวัน ร่างกายสามารถใช้หมด แต่ถ้ามีส่วนเกินสะสมถึง 7,000 กิโลแคลอรี ต่อวัน เมื่อไร น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม ทันที และจะเพิ่มขึ้นตามปริมาณแคลอรีที่เหลือใช้ในร่างกาย
นอกจากนี้ วุ้นจากแป้งบุกยังช่วยชำระล้างลำไส้ให้สะอาดหมดจดเหมือนทำดีท็อกซ์ (Detox) อีกด้วย
2.
บุก มีฤทธิ์ลดความอยากอาหาร และช่วยลดพุง มีการทดลองในคนที่มีสุขภาพดีและคนโรคอ้วน ซึ่งแบ่งเป็นอย่างละ 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกกินผงบุกบรรจุแคปซูล ขนาด 3.6 กรัม ต่อวัน แบ่งเป็น 3 มื้อ กินก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
อีกกลุ่มให้กินยาหลอกในขนาดเดียวกัน ผลปรากฏว่าทุกคนในกลุ่มที่กินบุกมีความอยากอาหารน้อยกว่ากลุ่มที่กินยาหลอก
แสดงว่า บุก สามารถลดความอยากอาหารได้
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อทดลองเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบว่า คนกลุ่มแรกมีรอบท้อง รอบเอว รอบสะโพก ลดลงเฉลี่ย 4.5, 4.1 และ 2.3 ซ.ม. ตามลำดับ โดยมีน้ำหนักลดลงเฉลี่ย 2-3 กิโลกรัม ทั้งนี้ เพราะแป้งบุกเมื่อผสมน้ำจนอิ่มตัวแล้วจะพองตัวกลายเป็นวุ้นขยายใหญ่กว่าเดิมมากกว่า 20 เท่า
ดังนั้น ถ้ากินวุ้นบุกในปริมาณที่พอเหมาะกับขนาดของกระเพาะอาหาร ก็จะช่วยลดการบริโภคอาหารเกินจำเป็น ด้วยวิธีนี้จะสามารถลดน้ำหนักอย่างได้ผล ขนาดกระเพาะอาหารของแต่ละคนไม่เท่ากัน คนอ้วนมีกระเพาะใหญ่กว่าคนผอม โดยปกติกระเพาะคนเราขณะท้องว่าง มีความจุเพียง 50 ซีซี แต่เมื่อมีอาหารตกถึงท้องก็จะขยายความจุได้ถึง 10-40 เท่า นั่นคือ 500-2,000 ซีซี หรืออาจมากกว่านั้นในรายที่อ้วนมากๆ ปกติอาหารจะพักอยู่ในระบบย่อยของกระเพาะได้ราว 30 นาที ถึง 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณและความอ่อนแข็งของอาหารด้วย
มีวิธีการปฏิบัติที่ผิดในการลดการบริโภคอาหารคือ การดื่มน้ำมากๆ ให้เต็มท้อง หรือการกินผักเยอะๆ จนพุงกาง ซึ่งนอกจากจะทำให้กระเพาะขยายตัวแล้ว กระเพาะยังสามารถปรับตัวหลั่งกรดออกมาย่อยอาหารผักเหล่านั้นในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เกิดความหิวถี่ขึ้นจนไม่สามารถลดปริมาณอาหารได้
แต่บุกเมื่อกลายเป็นวุ้นอยู่ในกระเพาะอาหารแล้ว ไม่มีกรดหรือเอ็นไซม์ชนิดใดสามารถย่อยน้ำตาลโมเลกุลใหญ่ของบุกได้ ซ้ำวุ้นบุกยังคงแช่อยู่ในกระเพาะเป็นเวลานาน 1-3 ชั่วโมง ก่อนจะถูกขับถ่ายออกไป
ดังนั้น การกินแป้งบุกจึงเป็นวิธีการลดอาหารที่ได้ผลและสามารถลดพุงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.
บุก มีฤทธิ์ลดไขมันและน้ำตาลในเลือด
จากการศึกษาทดลองในคนอ้วนและผู้ป่วยเบาหวาน หลายรูปแบบทั้งแบบให้กินผงบุกแคปซูลก่อน 1 ชั่วโมง วันละ 3 ครั้ง และแบบให้กินอาหารปกติผสมผลิตภัณฑ์อาหารบุก เป็นเวลานาน 6-8 สัปดาห์
พบว่า กลุ่มทดลองมีคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) ในเลือดลดลง 21.7 และ 15 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร ตามลำดับ และไม่มีพิษข้างเคียงใดๆ จากสารคอนยักกลูโคแมนแนนเลย
ยิ่งกว่านั้น ยังพบว่า ในผู้ป่วยเบาหวานมีระดับน้ำตาลที่เจาะตรวจในช่วงงดอาหาร (fasting blood glucose) ลดลงถึง 23.2 มิลลิกรัม ต่อเดซิลิตร
4.
บุก เป็นสมุนไพรไร้พิษ จากการศึกษาทดลองทางพิษวิทยาของบุก ทั้งในสัตว์ทดลองและในคนอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี พบว่า ไม่พบความผิดปกติใดๆ ของผลเลือด ผลปัสสาวะ และผลตรวจทางร่างกาย
สรุปว่า การกินแป้งบุก ปลอดภัย 100%
วิธีกินบุก เพื่อรักษาโรคอ้วนอย่างถูกต้อง ถ้ากินระยะยาวทุกวัน โดยหวังผลหลัง 6-8 สัปดาห์ สำหรับคนที่มีดัชนีมวลกายระหว่าง 25-35 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร ขนาดรับประทานบุก 2 แคปซูล (500 มิลลิกรัมต่อแคปซูล) วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง โดยดื่มน้ำตาม 1-2 แก้ว (250-400 ซีซี)
ถ้าต้องการกินบุก เพื่อให้ได้ผลเร็วภายใน 2-3 สัปดาห์ สำหรับคนอ้วนที่มีดัชนีมวลกาย 30-50 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร ขนาดรับประทานเพิ่มขึ้นเป็นครั้งละ 4 แคปซูล วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง โดยดื่มน้ำตาม 2-4 แก้ว (400-600 ซีซี)
ข้อควรระวังคือ แม้สมุนไพรบุกไม่มีสารพิษใดๆ แต่เป็นสารประกอบน้ำตาลที่ไร้แคลอรี ไร้พลังงาน ไม่มีวิตามิน หรือเกลือแร่ หรือสารอาหารใดๆ ดังนั้น จึงต้องคำนวณสัดส่วนการบริโภคอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายกับแป้งบุกอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการขาดสารอาหาร
บุกแห้ง เป็นสมุนไพรหาง่ายตามร้านขายยาไทย-จีน ทั่วไป เมืองไทยเองเป็นแหล่งส่งออกบุกที่สำคัญ วิธีการใช้เองง่ายๆ คือ นำบุกแห้งมาบดผง แล้วกินครั้งละ 1 ช้อนชา ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง ดื่มน้ำตาม 2 แก้ว กินวันละ 3 ครั้ง กินต่อเนื่องได้ทุกวัน
แล้วไขมันส่วนเกินจะหายไปจากชีวิตของคุณ