1 ส.ค.บัตรคนจนซื้อผ่านมือถือ ปลื้มสารพัดร้านร่วมรับชำระสินค้า ลั่นธงฟ้าประชารัฐ 4.0 เต็มรูปแบบ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการรับสมัครร้านค้า เข้าร่วมโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแบบใช้โทรศัพท์มือถือรับชำระเงินจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐว่า ขณะนี้มีร้านค้ารายย่อย ร้านโชห่วย ร้านอาหารหนูณิชย์ ร้านอาหารปรุงสำเร็จ ร้านอาหารทั่วไป ร้านค้าในตลาดสด ทั้งขายหมู ผักสด ขายผลไม้ ร้านค้าในตลาดต้องชม ตลาดกลางสินค้าเกษตร ร้านขายผลิตภัณฑ์ชุมชน รถยนต์เร่ขายสินค้า และร้านขายยา เป็นต้น สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 20,000 ราย เพียง 2 สัปดาห์ และผ่านการพิจารณาจากกรมบัญชีกลางแล้ว 16,500 ราย ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ที่อิมแพค เมืองทองธานี

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า งานนี้ได้เชิญ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่อง “โครงการประชารัฐสวัสดิการกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก” เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาล และเข้าเยี่ยมชมร้านค้าธงฟ้าประชารัฐต้นแบบ การออกร้านของแผงค้าในตลาดสด ผักผลไม้ ผู้ผลิตสินค้าชุมชนที่โดดเด่นของแต่ละจังหวัด ร้านอาหาร และร้านค้าในตลาดต้องชม ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการจัดเสวนาเรื่องการใช้โปรแกรมประยุกต์ Mobile Application ถุงเงินประชารัฐ กับ    ร้านธงฟ้าประชารัฐด้วย

“เดิมตั้งเป้านำร่อง 1 แสนราย แต่จากยอดผู้สมัครและร้านค้าที่จะเข้าโครงการมีความหลากหลาย จากเดิมน่าจะเฉลี่ยจังหวัด 1 พันราย ก็น่าจะได้ถึง 2-3 พันรายต่อจังหวัด จึงปรับเพิ่มเป้าหมายเป็น 2 แสนรายทั่วประเทศภายในปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มเงินสะพัดสู่ระบบเศรษฐกิจอีกมาก จากวงเงินที่รัฐบาลใส่เข้าไปในบัตรกว่า 4 พันล้านบาท หรือปีละกว่า 4.8 หมื่นล้าน” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ถือว่าโครงการธงฟ้าประชารัฐ 4.0 เต็มรูปแบบแล้ว ตั้งแต่การเชื่อมโยงการใช้บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านร้านธงฟ้าประชารัฐ

แล้วขยายสู่ร้านค้าทั่วไป ร้านค้ารายเล็ก และภาคเกษตร จากนี้ก็เน้นในเรื่องยกระดับร้านค้าผู้รับบัตร เช่น ต่อไปถ้าร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ใช้เครื่องรูดอีดีซี ยอดขายไม่ดี ก็จะเอาเครื่องคืน เหลือใช้แอพพลิเคชั่นแทน แต่ถ้าร้านใช้แอพพ์ขายดี ก็จะดันให้ไปใช้เครื่องอีดีซี เหมือนดิวิชั่นฟุตบอล ส่วนร้านค้าที่มีเครื่องอีดีซีก็จะถูกพัฒนาให้เป็นโชห่วยไฮบริดและค้าระบบออนไลน์ ซึ่งจะไม่มีการแย่งชิงลูกค้ากันเอง

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน