พาณิชย์โหมหนักขายข้าวทุกช่องทาง

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยตามข้อมูลใบอนุญาตส่งออกข้าวตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 8 ส.ค. 2561 มีปริมาณส่งออก 6.79 ล้านตัน มูลค่า 3,425 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 108,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี 2560 ที่มีปริมาณส่งออก 6.66 ล้านตัน มูลค่า 2,871 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 98,995 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.82% และ 9.85% ตามลำดับ โดยชนิดข้าวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับ 1 คือ ข้าวขาว 51% รองลงมาได้แก่ ข้าวนึ่ง 25% และข้าวหอมมะลิไทย 16%

ทั้งนี้ ในทุกตลาดสำคัญพบว่าปริมาณการส่งออกข้าวไทยมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ รวมทั้งกลุ่มประเทศนำเข้าสำคัญในตลาดแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ แองโกลา เป็นต้น อย่างไรก็ดี สำหรับตลาดหลักข้าวหอมมะลิไทยพบว่ามีปริมาณการส่งออกลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว อาทิ ฮ่องกง และจีนเนื่องจากราคาข้าวหอมมะลิไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมการส่งออกข้าวในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีตามความต้องการข้าวในตลาดหลักที่มีอย่างต่อเนื่องทั้งในตลาดเอเชียและแอฟริกา โดยในตลาดจีนคาดว่าจะสามารถตกลงราคาส่งมอบข้าวงวดที่ 6 ปริมาณ 100,000 ตัน กับบริษัท COFCO Corporation ตามสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจี ปริมาณ 1 ล้านตัน ภายใต้เอ็มโอยู ว่าด้วยความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรไทย-จีน

นอกจากนี้ ไทยจะเร่งการเจรจาซื้อขายข้าว 1 ล้านตันที่สองภายใต้เอ็มโอยูดังกล่าว โดยในวันที่ 26 ส.ค. 2561 คณะทำงานฝ่ายไทยและจีนจะเริ่มการเจรจาและคาดว่าจะสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ภายในปีหน้า ซึ่งจะทำให้มีตลาดรองรับผลผลิตข้าวฤดูกาลผลิตใหม่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้รับสัญญาณข่าวดีว่าฟิลิปปินส์อาจจะเปิดประมูลนำเข้าข้าวก่อนช่วงเวลาที่กำหนดในครึ่งปีหลังปริมาณ 500,000 ตัน เพื่อเพิ่มสต๊อกข้าวในประเทศ โดยจะเปิดประมูลแบบจีทูจี ปริมาณ 250,000 ตัน จากไทยและเวียดนาม ซึ่งรัฐบาลไทยจะเข้าร่วมประมูลดังกล่าวอย่างแน่นอน และอีกปริมาณ 250,000 ตัน เป็นการเปิดประมูลแบบทั่วไปจากเอกชน

นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 3 ส.ค.-2 ก.ย. 2561 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันลงพื้นที่สำรวจแหล่งเพาะปลูกข้าวใน 16 จังหวัด เพื่อคาดการณ์ผลผลิตข้าวปีการเพาะปลูก 2561/62 รอบที่ 1 ภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยมีภาคเอกชน (สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสมาคมโรงสีข้าวไทย) และภาคเกษตรกรเข้าร่วมด้วย ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวหอมมะลิไทยจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและเกษตรกรชาวนาบางพื้นที่หันมาปลูกข้าวหอมมะลิแทนข้าวเหนียวที่มีราคาลดลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณผลผลิตข้าวหอมมะลิเพียงพอทั้งต่อการบริโภคภายในประเทศและตอบสนองต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาก็จะปรับตัวอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ดีขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2561 กรมการค้าต่างประเทศได้เตรียมแผนจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ข้าวไทยอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดคณะฯ เดินทางไปเยือนตลาดข้าวสำคัญในสิงคโปร์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย และเข้าร่วมงานแสดงสินค้า China-ASEAN Expo ครั้งที่ 15 (ก.ย. 2561) รวมทั้งการรับคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง (พ.ย. 2561) เป็นต้น

Advertisement